โตโยต้า อัลติส เอสสปอร์ตเป็นรถที่โดนตกแต่งออกมาจากโรงงานเสร็จสรรพ จึงไม่ต้องไปปรับเปลี่ยนชิ้นส่วนให้ยุ่งยาก ต้นทุนราคารถก็ไม่เพิ่มมากนัก ทางโตโยต้าตั้งกลุ่มเป้าหมายเป็นคนอายุไม่เกิน 30 ปี แต่ความจริงแล้วเป็นใครก็ได้ที่ยังรักความแรงของรถในแบบสปอร์ตซีดานอยู่ อีกทั้งค่าตัวตอนออกมาใหม่ๆก็ไม่สูงนัก แค่แปดแสนปลายๆเท่านั้นเอง
ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดเจนจากภายนอกก็คือได้ชุดแต่งสเกิร์ตรอบคัน ไม่ว่าจะเป็นด้านหน้า ด้านข้างและด้านหลัง พร้อมทั้งมีการเพิ่มสปอยเลอร์แบบตูดเป็ดชิ้นไม่ให้ใหญ่นัก เอาไว้เพิ่มความลู่ลมพร้อมไฟเบรกดวงที่สาม เรื่องของอากาศพลศาสตร์ มีความจำเป็นสำหรับรถสปอร์ตที่ทำให้เอสสปอร์ต มีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน 0.29 อันเป็นผลมาจากการเพิ่ม ครีบตรงไฟท้าย กระจกมองข้างและสปอยเลอร์หลัง ที่สำคัญก็คือการออกแบบแผ่นปิดใต้ท้องรถช่วงถังน้ำมันเพื่อป้องกันการหมุนวนของอากาศใต้ท้องรถ พอไหลออกมาแล้วเจอกับดิฟฟิวเซอร์ใต้กันชนหลังก็จะดึงตัวรถให้ลงมา โดยอาศัยหลักการของเลกซัสซูเปอร์คาร์มาใช้ จะทำงานในความเร็วระดับ 100 กม./ชม. ขึ้นไป
ในความโดดเด่นเหนือเพื่อนร่วมรุ่น นอกจากจะได้ชุดแต่งแล้ว ยังมีล้อแม็กซ์ ขนาด 17X7 นิ้วมาใช้แทนของเดิม 16X61/2 นิ้ว ซึ่งเป็นล้ออลูมิเนียมผสมโลหะพิเศษพร้อมยางมิชลินไพล็อตสปอร์ต 3 คราวนี้พอเจอหน้ายางกว้างขนาด 215/45 อาร์ 17 เข้าไป หากใช้ช่วงล่างเดิมๆ ก็จะกระด้าง พอเจอคลื่นบนถนนจะเกิดอาการท้ายออก ทางโตโยต้าจึงต้องทำการปรับเซ็ตช่วงล่างกันใหม่ เริ่มจากระบบกันสะเทือนหน้าแบบอิสระแม็คเฟอร์สันสตรัทที่มีความทนทาน ออกแบบให้ปีกนกช่วงล่างยาวขึ้น ทำงานได้ดีเหมือนดับเบิ้ลวิชโบน ใช้คอยสปริงเยื้องศูนย์เพื่อถ่ายแรงให้สัมพันธ์กับแกน โดยเปลี่ยนสปริงเป็นแบบพิกเทล ปลายเล็ก โคนใหญ่ เพื่อให้ค่าเคของสปริงคงเส้นคงวา แต่เพิ่มความแข็งของสปริงเพิ่ม และปรับการยืดของโช้คอัพให้ช้าลง
ด้านหลังเป็นแบบทอร์ชั่นบีม ที่มีสปริงกลมอยู่ด้านในรองรับการบิดตัว เมื่อข้างหนึ่งยุบอีกข้างก็จะไม่ยุบตามทำให้หน้ายางสัมผัสถนน 180 องศาตลอดเวลา ล้อขึ้นลงในแนวดิ่งทำให้หน้ายางจับกับพื้นถนนได้ดี สปริงหลังถูกออกแบบให้ด้านล่างแคบ ด้านบนกว้าง พร้อมกับปรับแข็งเพิ่มอีก 5% เวลายุบตัวจะเริ่มจากตรงกลางอีกทั้งการยืดตัวช้าลง ทำให้ไม่กระด้าง เพื่อให้ตัวถังบิดตัวน้อยลง จึงเพิ่มครอสบาร์ที่ตัวถังตรงใต้เบาะหลัง เป็นการเพิ่มความแข็งอีก 30% เพื่อลดการบิดตัวของรถในความเร็วสูงๆ ช่วงล่างว่าทำงานได้ดีขึ้นไปอีก จากถนนคอนกรีตมีรอยต่อ การซับแรงกระแทกทำได้ดี เป็นช่วงล่างนุ่มแต่หนึบ ไม่มีอาการโยนตัวของรถ อีกทั้งเสียงที่ได้ยินจากยางบดถนนก็น้อยลงอีกต่างหาก ไม่มีเสียงดังให้ได้ยินเวลาโค้งแคบๆ ที่จิกเข้าโค้งอย่างรวดเร็ว การทรงตัวของรถยังทำได้นิ่งๆ อยู่ ตอนเจอโค้งแคบๆแค่แตะเบรกนิดหน่อยให้หน้ารถกดลงแล้วส่งคันเร่งผ่านโค้งออกไปได้เลย ถึงจะเป็นรถใหญ่ ก็เข้าโค้งได้แม่นยำ
ภายในรถยังมีเบาะนั่งแบบบักเก็ตชีท คอยกระชับลำตัวอยู่ เป็นเบาะหนังสีดำเดินด้ายขาว ใช้โครงเบาะเดิมแต่ยืดปีกเบาะให้ยาวขึ้น ทำให้ตัวไม่หลุดจากเบาะ จึงมีท่านั่งที่กระชับเวลาอยู่ในโค้ง ในเรื่องของเกียร์ถึงแม้ว่าจะเป็นเกียร์ซีวีทีก็เป็นเกียร์ซีวีที รุ่นใหม่ เค 313 ปรับเปลี่ยนเกียร์ให้มีการลดรอบเครื่องยนต์แบบออโตเฟือง เพื่อให้มีส่วนร่วมในการตอบสนองคันเร่งสำหรับกำลังสูงสุดในแต่ละช่วง สามารถเปลี่ยนเกียร์ซีเควนเซียล จากคันโยกหรือแบบเฟอร์รารี่ตรงแพดเดิลชิฟท์ได้ เป็นเกียร์ที่ป้องกันโอเวอร์รัน ใช้น้ำมันเกียร์รุ่นใหม่ ซีวีที-เอฟอี ไม่ได้ใช้แบบเดรกทรอน เหมือนรถทั่วๆไป มาพร้อมตัวอุ่นน้ำมันเกียร์ ใช้การควบคุมอุณหภูมิจากออยคูลเลอร์ ออกแบบให้น้ำมันเกียร์ไหลผ่านเสื้อเกียร์ ช่วงความเร็วต่ำจะหนืดสูง ส่วนความเร็วสูงจะหนืดต่ำ ต่างจากรุ่นเก่าที่มีความหนืดคงที่ จึงเป็นเกียร์ซีวีที ที่ให้การตอบสนองได้ดีเกือบๆ เท่าเกียร์ออโตเฟือง