นายภาณุพล กิตติคำรณ รองผู้จัดการใหญ่ด้านการขายและการตลาด บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด กล่าวถึงการสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าว่า รถจักรยานยนต์ ยามาฮ่านั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพระดับพรีเมียม ด้วยการรับประกันรถจักรยานยนต์ทั้งคัน 5 ปี หรือ 50,000 กิโลเมตร ในรถจักรยานยนต์ที่มีขนาดไม่เกิน 500 ซีซี ทุกรุ่น โดยเฉพาะในกลุ่มรถครอบครัวอย่าง ”ยามาฮ่าฟินน์” ที่ยามาฮ่า กล้าให้การรับประกันทุกชิ้นส่วนยาวนานถึง 5 ปี โดยไม่จำกัดระยะทาง ซึ่งช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ยามาฮ่ายังยกระดับการบริการลูกค้าด้วยเทคโนโลยีใหม่ “Y-Connect” แอปพลิเคชันเพื่อชีวิตสมาร์ทสุดล้ำที่มีขึ้นครั้งแรกของประเทศไทย ในรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า All New YAMAHA AEROX และ New NMAX Connected โดยในปีที่ผ่านมาแอปพลิเคชัน “Y-Connect” มีผู้ใช้งานมากกว่า 25,000 คน แสดงให้เห็นถึงความนิยมของผู้ใช้งาน ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จของยามาฮ่า และในปี 2564 ยามาฮ่ายังคงเสริมความแข็งแกร่งด้านการขายและการบริการ ด้วยการปรับรูปแบบใหม่ของโชว์รูมยามาฮ่า ภายใต้คอนเซปต์ “Move faster, Move further, Move together with Yamaha” ที่ได้เปิดบริการนำร่องไปแล้ว 9 โชว์รูมทั่วประเทศ ทั้งนี้ โชว์รูมยามาฮ่ารูปแบบใหม่จะสามารถตอบสนองและสร้าง Customer Experience ที่เปลี่ยนแปลงไปของลูกค้า พร้อมทั้งสร้างความสัมพันธ์ของลูกค้าในแต่ละพื้นที่ด้วยกิจกรรมทางการตลาดและมุ่งเน้นการบริการหลังการขายในระดับพรีเมียมให้กับลูกค้าของยามาฮ่า
พร้อมกันนี้ ยามาฮ่าเดินหน้าเสริมความแข็งแกร่งของกลยุทธ์การตลาดโดยมุ่งเน้นในกลุ่มประเภทสินค้าต่างๆ ดังนี้
1.) กลยุทธ์การตลาดของกลุ่มรถออโตเมติกยังคงเน้นการสร้างความเป็นผู้นำด้านออโตเมติก โดยในส่วนของแฟชั่นออโตเมติกนั้น เน้นการออกแบบให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าเป็นหลักสำหรับพรีเมียมออโตเมติก เน้นภาพลักษณ์และส่งเสริมความเป็น MAX Series ให้แข็งแกร่งมากขึ้น และสปอร์ตออโตเมติกจะเน้นในการสร้างและขยายฐานลูกค้าให้ไปยังหัวเมืองใหญ่
2.) กลยุทธ์การตลาดของกลุ่มรถสปอร์ตที่ยามาฮ่ายังคงรักษาความเป็นรถสปอร์ตยอดนิยมอันดับ 1 ในคลาส 150 ซีซี ได้อย่างเหนียวแน่น เน้นการเข้าถึงและตอบสนองไลฟ์สไตล์ ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะและเหมาะสมกับลูกค้าในแต่ละกลุ่ม ทั้งกลุ่มสปอร์ต กลุ่มเนคเกต กลุ่มสปอร์ตเฮอริเทจ กลุ่มเอ็นดูโร่ เพื่อความแข็งแกร่งสมกับเป็นเบอร์ 1
3.) กลยุทธ์การตลาดของกลุ่มรถครอบครัว พร้อมกระตุ้นและส่งเสริมกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง ด้วย การรับประกันทุกชิ้นส่วนยาวนาน 5 ปี โดยไม่จำกัดระยะทางและเน้นหนักเรื่องการส่งเสริมภาพลักษณ์ความทันสมัยในรถครอบครัว โดยเน้นกิจกรรมการตลาดทุกพื้นที่ทั่วประเทศ
4.) สร้างความผูกพันกับลูกค้าให้มากขึ้น โดยการนำความต้องการและไลฟ์สไตล์ของลูกค้ามาผสมผสานกับกลยุทธ์ทางการตลาด ผ่านกิจกรรมของคลับให้มากขึ้น โดยร่วมกับผู้จำหน่ายในพื้นที่ เพื่อตอบโจทย์ลูกค้า สร้างความสัมพันธ์อันดีและการมีส่วนร่วมมากขึ้นระหว่างยามาฮ่า กับลูกค้า
5.) ยกระดับการตลาดด้วยรูปแบบ Digital Marketing เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการสื่อสารกับลูกค้าในทุกๆ Online Touch Point ด้วยแอปพลิเคชัน Y-Connect และแอปพลิเคชันใหม่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งจะช่วยเสริมประสิทธิภาพในการสื่อสารกับลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น และสามารถจัดการข้อมูลของลูกค้าผ่านทางระบบออนไลน์ได้เป็นอย่างดี”