กลายเป็นธรรมเนียมปฏิบัติไปแล้วสำหรับค่ายฮอนด้าที่ต้องมีรุ่น RS เป็นตัวท็อปซึ่งก็ได้รับความสนใจจากตลาดเมืองไทยตลอดมา สำหรับ Honda Civic ก็มีรุ่น RS ด้วยเช่นกันโดยตั้งราคาค่าตัวไว้ที่ 1,199,900 บาท
ความแตกต่างของรุ่น RS ก็คือการตกแต่งในสไตล์สปอร์ตด้วยความพิเศษของโทนสีดำรอบคัน ยิ่งเป็นรถสีขาวเมื่อมีสีดำมาตัดก็ทำให้ดูโดดเด่นมากขึ้นไปอีก โดย Civic RS จะได้ไฟหน้าโปรเจคเตอร์พร้อมไฟตัดหมอกคู่ กระจังหน้าและกันชนที่ออกแบบใหม่โดยมีสัญลักษณ์ RS ติดเอาไว้ด้วย
ในรถรุ่นนี้จะได้มือจับประตูสีดำกระจกมองข้างสีดำและกรอบประตูสีดำเสาอากาศแบบครีบฉลามก็เป็นสีดำ สำหรับล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้วถูกออกแบบให้มีความเป็นสปอร์ตมากยิ่งขึ้น
บนพื้นรถสีขาวก็จะมีสปอยเลอร์สีดำที่ดูใหญ่หน่อย ส่วนโคมไฟท้ายจะเป็นสีดำมีสัญลักษณ์ RS ติดเอาไว้ตรงด้านหลัง เน้นความเป็นสปอร์ตด้วยท่อไอเสียคู่ที่มีปลอกท่อไอเสียโผล่ออกมาจากด้านล่างของกันชนท้าย
ภายในห้องโดยสารดูแปลกตากับตะแกรงรังผึ้งตรงแผงคอนโซลที่มีด้านบนไม่สูงนักจึงไม่บดบังทัศนวิสัยในการมองทางด้านหน้า แต่จะมีจอกลางที่เป็นเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้วที่ดูสูงขึ้นมาหน่อย โดยเครื่องเสียงจะรองรับ Apple carplay แบบไร้สายและระบบสั่งการด้วยเสียง Siri มีอุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สายติดตั้งมาให้พร้อม
ตัวกรอบของแผงหน้าปัดจะมีขนาดพอๆกับรุ่นปกติแต่จะใช้เต็มพื้นที่ของจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFTขนาด 10.2 นิ้ว ซึ่งข้อมูลที่แสดงของรุ่น RS ก็จะต่างไปจากรุ่นปกติด้วย
เห็นกุญแจของ civic RS แล้วรู้สึกเปลี่ยนไปเยอะกับขนาดที่มีพอๆกับนามบัตรไม่มีปุ่มกดมาให้ ที่ดูเรียบหรูพกพาสะดวกใส่กระเป๋าแล้วไม่ตุง เพราะใช้ระบบควบคุมประตูแบบอัจฉริยะ Honda Smart Key Card ช่วยให้การล็อคและปลดล็อคทำได้สะดวกมากขึ้นเมื่อมีกุญแจคีย์การ์ดติดตัวเอาไว้
พวงมาลัยทรงกลม 3 ก้านหุ้มหนังเดินด้วยด้ายสีแดงพร้อมปุ่มควบคุมบนพวงมาลัยสามารถจับได้เต็มไม้เต็มมือพอดี การบังคับควบคุมก็ได้น้ำหนักที่พอดีไม่เบาจนเกินไป หลังพวงมาลัยก็จะมีแพดเดิ้ลชิพมาให้สำหรับคนที่อยากเปลี่ยนเกียร์ด้วยตัวเอง
เบาะนั่งเป็นสีดำเดินด้วยด้ายแดงตรงกลางก็จะเป็นหนังกลับ Design ใหม่ การปรับเบาะจะใช้ไฟฟ้า ในรถรุ่นนี้จะมีแป้นเหยียบเบรคและคันเร่งแบบสปอร์ต
ห้องเก็บของตอนท้ายกว้างขวางไม่ต้องสูญเสียพื้นที่ให้กับพวกแบตเตอรี่ ช่วงที่เชื่อมต่อกับห้องโดยสารก็จะมีคานขวางติดตั้งเอาไว้ตรงกลางเพื่อความมั่นคงแข็งแรง
เครื่องยนต์ที่วางอยู่ในซีวิค RS จะเป็นเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร DOHC VTEC TURBO 4 สูบ 16 วาล์ว มาพร้อม Turbo Charger ที่อัดอากาศเข้าสู่ห้องเผาไหม้ของเครื่องยนต์ได้เร็วขึ้น ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเผาไหม้ได้อย่างรวดเร็ว โดยให้กำลังสูงสุด 178 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 240 นิวตัน-เมตร ที่ 1,700 – 4,500 รอบต่อนาที
ระบบส่งกำลังเป็นเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง CVT ที่ให้อัตราเร่งและอัตราการประหยัดน้ำมันสูงถึง 17.2 กิโลเมตร/ลิตร รองรับพลังงานทางเลือก E85ได้ พร้อมโหมดการขับขี่ที่เลือกได้ตามสไตล์ 3 โหมด ได้แก่
ECON Modeเป็น โหมดการขับขี่แบบประหยัด พร้อมปรับการทำงานของเครื่องยนต์ให้สัมพันธ์กับการขับขี่เพื่ออัตราการประหยัดเชื้อเพลิงมากขึ้น
Normal Mode – โหมดการขับขี่แบบปกติ สำหรับการขับขี่ใช้งานโดยทั่วไป
โดยรุ่น RS มี Sport Mode ที่เพิ่มเข้ามา เป็นโหมดการขับขี่แบบสปอร์ต ที่ตอบสนองการเร่งได้ดียิ่งขึ้นเพื่อการขับขี่ที่สนุกเร้าใจมากขึ้น