นิสสัน ประเทศไทย เดินหน้านำเสนอรถยนต์ นิสสัน ลีฟ (Nissan LEAF) ซึ่งเป็นมากกว่ารถยนต์ไฟฟ้า ด้วยระบบการผลิตไฟฟ้าจากรถยนต์สำหรับที่พักอาศัย ‘Vehicle to Home’ (V2H) เพื่อสร้างความยั่งยืนแก่ประเทศไทยอย่างแท้จริง หลังจากที่รัฐบาลได้ออกมาตรการจูงใจเพื่อส่งเสริมโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในครัวเรือน และส่งเสริมให้ภาคประชาชนสามารถมีส่วนร่วมในการผลิตพลังงานสะอาด โดยการติดตั้งระบบพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา แนวทางดังกล่าวสอดคล้องกับ Nissan Ambition 2030 ที่เป็นวิสัยทัศน์ระยะยาวใหม่ของบริษัทในการเสริมสร้างศักยภาพในการขับเคลื่อนและก้าวต่อไปในอนาคต เพื่อส่งมอบคุณค่าที่เหนือกว่าโดยการเพิ่มขีดความสามารถในทุกการเดินทางและสังคมโดยรวม ผ่านยานยนต์พลังงานไฟฟ้าที่น่าตื่นเต้นและครบเครื่องทางด้านนวัตกรรมทางเทคโนโลยี
นิสสัน เป็นผู้นําระดับโลกในฐานะผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าออกจำหน่ายจํานวนมาก โดย นิสสัน ลีฟ มีชื่อเสียงในการมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ไม่เหมือนใคร ด้วยระบบส่งกําลังขั้นสูง เร่งความเร็วได้อย่างราบรื่นและตอบสนองได้ดี ขับขี่ได้อย่างมั่นคง และให้ความเงียบ นิสสัน ลีฟ ได้เปิดตัวในฐานะรถยนต์ไฟฟ้า 100% คันแรกของโลกที่ออกแบบมาสําหรับตลาดมวลชนและเป็นหนึ่งในรถยนต์ไฟฟ้าเพียงไม่กี่รุ่นที่จำหน่ายในประเทศไทย และสามารถผลิตไฟฟ้าให้กับที่พักอาศัย (V2H) ได้โดยตรง ผ่านการชาร์จด้วยระบบชาร์จ CHAdeMO ที่ได้ออกแบบตั้งแต่เริ่มต้นเพื่อรองรับการชาร์จแบบสองทิศทาง ซึ่งได้รับการรับรองในหลายประเทศทั่วโลก นิสสัน ลีฟ จึงสามารถรองรับระบบผลิตไฟฟ้าสำหรับที่พักอาศัย เชื่อมต่อกับระบบโครงข่ายไฟฟ้าและอื่น ๆ ได้ตามความต้องการของผู้ใช้รถยนต์ควบคู่ไปพร้อมกันถึงสองระบบ เท่ากับเป็นการเพิ่มความหลากหลายในการใช้งาน เสถียรภาพของพลังงาน และความมั่นใจ จึงทำให้ผู้ใช้รถยนต์มีความอุ่นใจได้ ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่รถยนต์บนท้องถนนหรือใช้งานที่บ้าน
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และบริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ได้ร่วมมือกับ นิสสัน ลีฟ ในการส่งเสริมทั้ง V2H และการผลิตไฟฟ้าจากรถยนต์เพื่อธุรกิจ (Vehicle to Business: V2B) ในประเทศไทย โดยนำอุปกรณ์ที่ปลอดภัย ผ่านการรับรอง และมีประสิทธิภาพออกสู่ตลาด และรับรองการใช้งานร่วมกันระหว่างโครงสร้างพื้นฐานและรถยนต์ไฟฟ้า การดำเนินการดังกล่าวจะทำให้ผู้ที่สนใจ V2H หรือ V2B สามารถใช้รถยนต์ของตนในการผลิตไฟฟ้าเพื่อใช้ภายในครัวเรือนหรือธุรกิจขนาดเล็กได้เอง เป็นการประหยัดค่าไฟ หรือมีทางเลือกในการใช้ไฟฟ้าผลิตจากพลังงานทางเลือกในช่วงไฟตกหรือภาวะฉุกเฉิน และยังมีส่วนร่วมในการขยายการใช้พลังงานทางเลือกในสังคมไทยได้อีกทางหนึ่งด้วย
ทั้งนี้ การชาร์จไฟฟ้าของรถยนต์ในแต่ละครั้งสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ประมาณ 12 กิโลวัตต์ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งเพียงพอสำหรับการใช้งานในครัวเรือนหรือธุรกิจขนาดเล็กเป็นเวลาประมาณสามวัน หากการจ่ายไฟจากระบบไฟฟ้าจากภายนอกเกิดขัดข้อง นอกจากนี้ ระบบดังกล่าวยังมีบทบาทสําคัญในการวางแผนลดค่าใช้จ่ายไฟฟ้ารายเดือนได้ด้วย โดยผู้ใช้สามารถใช้ไฟฟ้าทั้งสองระบบที่มีส่วนช่วยให้เกิดความยั่งยืนจากไฟฟ้าที่ผลิตได้จากรถยนต์ไฟฟ้าร่วมกับไฟฟ้าที่ผลิตจากพลังแสงอาทิตย์ในครัวเรือน