จุดเริ่มต้นของ CBR 150 มาจากการเข้ามาทดแทน NSR 150 ที่ถูกยกเลิกไปแม้ว่าจะได้ฟูลแฟริ่งใส่มาแบบรถสปอร์ตแต่ที่ผ่านๆมา CBR 150 ก็เป็นได้แค่รถใช้งานทั่วๆไปซะมากกว่า
พอมาถึงปัจจุบันด้วยความหลากหลายของตัวเลือกทำให้ CBR 150 R ต้องปรับรูปลักษณ์ของตัวเองให้กลายไปเป็นสปอร์ตเต็มตัวหลังจากมี CBR 250 RR เข้ามาทำตลาดในเมืองไทย ปล่อยให้รถใช้งานทั่วๆไปเป็น CB 150 แทน
CBR 150 R ถูกออกแบบมาสำหรับสนองความต้องการของคนที่รัก sport อันเป็นจุดเริ่มต้นที่โคจรมาเจอกัน ทำให้มีการออกแบบปรับปรุงใหม่ทั้งหมดเพื่อเข้าถึงจิตวิญญาณความเป็นสปอร์ตที่สามารถนำลงไปขี่ในสนามได้ทันที
กับรูปโฉมที่ถอดแบบมาจาก CBR 250 RR จึงได้ความกระชับในท่านั่งมีถังน้ำมันที่กว้างทำให้วางเข่าดิบทางได้พอดีโดยมีท่านนั่งที่ก้มต่ำกว่ารุ่นก่อนหน้าซึ่งส่งผลดีในการเข้าโค้งและการใช้ความเร็วสูง
มีการปรับเบาะนั่งแบบ 2 ตอนทำให้ท่านั่งมีองศาที่ลดลงซึ่งจะทำให้การจับแฮนด์ควบคุมรถมีความมั่นคงมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังได้ตัวรถที่ต่ำลง
โดยเลือกโช๊คอัพหัวกลับของโชว่าขนาด 37 มม. มาใช้งานมีการปรับลูกสูบด้านในใหม่ช่วยให้ซับแรงกระแทกได้ดีขึ้น 3-5 เท่าทั้งยังช่วยลดแรงกับความกระด้างไปได้เยอะ
กับรูปโฉมความเป็นสปอร์ตได้ไฟหน้า LED รวมไปถึงกระจกมองข้างที่ยึดติดไว้กับแฟริ่งโดยมีไฟเลี้ยวดวงเล็กๆอยู่ข้างๆซึ่งแฟริ่งจะมีช่องรับลมและระบายลมมากขึ้นในสไตล์ของรถสปอร์ตรุ่นใหม่
เครื่องยนต์ขนาด 150 cc DOHC 4 Valve ระบายความร้อนด้วยน้ำส่งกำลังด้วยเกียร์ 6 สปีด มาพร้อม Assist Slipper Clutchเทคโนโลยีจากสนามแข่งช่วยลดแรงกระชากของล้อหลังเมื่อลดเกียร์ลงต่ำซึ่งเห็นผลดีเมื่อได้ลองขี่ในสนาม เครื่องยนต์จะให้อัตราเร่งที่จัดจ้านมากขึ้นเป็นผลมาจากการออกแบบคอท่อไอดีใหม่เป็นทรงกลมขนาด 761 ตารางมิลลิเมตรทำให้การออกตัวไปจนถึงรอบกลางๆทำได้ดีขึ้น
มีการออกแบบท่อไอเสียใหม่ให้ด้านในมี 2 ช่องจึงได้เสียงที่นุ่มทุ้มให้แรงบิดในช่วงกลางสูงขึ้น 5% มีความไวกระชับเร่งแซงได้มั่นใจมากขึ้น พร้อมกับการปรับมุมเทรลใหม่เพื่อให้ควบคุมรถได้อย่างมั่นคง
ด้านท้ายเพรียวแหลมพร้อมไฟท้าย LED ระบบกันสะเทือนหลังเป็นสวิงอาร์มโช๊คเดี่ยววางบนกระเดื่องทดแรง Prolink แม้ว่าจะปรับความหนืดไม่ได้แต่ก็ซับแรงกระแทกได้ดีในระดับหนึ่ง
จากการลองขี่ในสนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิตก็ต้องยอมรับว่ากลับรถเดิมยางเดิมของ CBR 150 R นั้นทำได้ดีในทุกโค้งแม้ว่าความเร็วสูงสุดเกิน100กม./ชม.ไปไม่มากแต่ก็ถือว่าได้ความสนุกมากกว่า CBR 150 รุ่นก่อนๆจะทำได้ ช่วงเบรกหนักๆนอกจากระบบ ABS จะทำงานแล้วระบบไฟฉุกเฉิน ESSก็จะแสดงสัญญาณไฟกระพริบตอนเบรคกะทันหันด้วย