สแกนเนียเผย ธุรกิจรถบรรทุกมือสองเป็นอีกทางเลือกในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่เติบโตต่อเนื่องถึง 10 % มีมูลค่ายอดขายประมาณ 50 ล้านบาท พร้อมการันตีลูกค้าจะได้รับรถที่มีคุณภาพ และราคาย่อมเยา เสมือนเป็นรถมือหนึ่งของสแกนเนีย
นายยุทธนา มหาวงษ์ ผู้จัดการฝ่ายขายรถบรรทุกมือสอง บริษัท สแกนเนีย สยาม จำกัด เปิดเผยถึง การเข้ามาทำตลาดรถบรรทุกมือสองว่า การทำตลาดรถมือสองนับเป็นหนึ่งในการตอบสนองความต้องการของลูกค้า ซึ่งสแกนเนียได้พยายามที่จะเข้าถึงในทุกกลุ่มเป้าหมาย ทั้งทางด้านผลิตภัณฑ์ และงานบริการเพื่อความเหมาะสมกับลักษณะของธุรกิจ และการใช้งานของลูกค้า ให้ลูกค้าสะดวกในการรับบริการครบวงจรในที่เดียว โดยการเข้ามาในตลาดรถบรรทุกมือสองถือได้ว่าเป็นตลาดกลุ่มที่กำลังเติบโตในประเทศไทย สำหรับการเปิดตลาดรถบรรทุกมือสองในประเทศไทยได้เริ่มมาตั้งแต่ปี 2015 โดยบริษัทแม่ที่สวีเดนได้มองเห็นถึงศักยภาพของตลาดรถบรรทุกในประเทศไทยที่มีความแข็งแกร่ง และยังมีแนวโน้มในการขยายตัวที่ดี โดยในปีนี้มียอดขายอยู่ที่ประมาณ 20 ถึง 30 คัน แต่ถือว่ามีการเติบโตต่อเนื่อง คิดเป็น 10% มีมูลค่ายอดขายประมาณ 50 ล้านบาท จากราคารถมือสองของสแกนเนียโดยเฉลี่ย 2 -2.5 ล้านบาทต่อคัน
โดยแนวทางการทำตลาดรถบรรทุกมือสองในประเทศไทยนั้น นายยุทธนา กล่าวว่า จะมีความแตกต่างจากประเทศในแถบยุโรป เพราะกฎหมายในยุโรปมีการกำหนดการใช้งานของรถบรรทุกเอาไว้ไม่เกิน 5-6 ปี แต่สำหรับประเทศไทยการใช้งานรถแต่ละคันจะใช้กันเป็นระยะเวลานานกว่า 10 ปี ซึ่งทางสแกนเนียต้องนำมาคำนวณหาความเหมาะสมของราคาต่อสภาพรถที่แท้จริงก่อนที่จะนำเสนอแก่ลูกค้า โดยสต็อกรถบรรทุกมือสองได้มาจาก 3 แหล่งด้วยกัน คือ 1. เป็นรถจากไฟแนนซ์สแกนเนีย สยามลิสซิ่ง 2. เป็นรถบรรทุกที่เกิดจากการเทิร์นของลูกค้า อายุของรถอยู่ประมาณ 6 – 8 ปี และ 3. ลูกค้านำรถมือสองมาขายให้กับแผนกรถมือสอง หากเทียบกับรถมือสองของแบรนด์ฝั่งยุโรป ทางสแกนเนียมีจุดเด่นอยู่ที่เป็นเจ้าเดียวในประเทศไทยที่มีไฟแนนซ์เป็นของตัวเองจึงสามารถดูแลลูกค้าได้ดีกว่า ยืดหยุ่นกว่า นอกจากนี้ลูกค้ายังสามารถรับบริการอื่นๆ จากสแกนเนียเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพธุรกิจได้อีกหลากหลายบริการ