นับเป็นเวลาเกือบ 25 ปีแล้วที่ GAC ได้เสริมแกร่งการพัฒนานวัตกรรมผ่านการร่วมทุนและการสร้างความร่วมมือ รวมถึงผ่านการลงทุนอย่างมหาศาลในศูนย์วิจัยและพัฒนาหลายแห่ง ซึ่งการลงทุนในเทคโนโลยีได้สร้างผลลัพธ์อันยอดเยี่ยมให้แก่บริษัท โดย ณ วันที่ 2 สิงหาคม 2564 GAC ได้ทะยานขึ้น 30 ขั้น สู่อันดับ 176 ในการจัดอันดับ 500 บริษัทยักษ์ใหญ่ Fortune 500แม้ว่าทั่วโลกกำลังเผชิญกับขาลง GAC ยังคงมีรายได้เติบโตกว่า 5% ในปี 2563 และมียอดขายรถมากกว่า 2 ล้านคัน ทั้งยังทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจในช่วงครึ่งแรกของปี 2564 โดยมียอดขายรวมเพิ่มขึ้นกว่า 25% ในงาน GAC Group 2021 Investors’ Day บริษัทได้นำเสนอความสำเร็จทางเทคโนโลยีอันน่าตื่นตาตื่นใจ ซึ่งจะเป็นรากฐานของการเติบโตในอนาคตและผลักดันให้บริษัทเป็นผู้ผลิตยานยนต์ชั้นนำระดับโลก
เมื่อไม่นานมานี้ GAC Group ได้พัฒนาและปรับปรุงเทคโนโลยียานยนต์มากมาย เช่น ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ L2++, Robotaxi รถยนต์ไร้คนขับระดับ L4, Magic Box รถต้นแบบที่บริษัทพัฒนาขึ้นเอง และ GIEC หนึ่งในห้องโดยสารอัจฉริยะที่ทันสมัยที่สุดของจีน ตลอด 5 ปีข้างหน้า GAC Group จะให้ความสำคัญกับการพัฒนานวัตกรรมอย่างอิสระและครอบคลุม ตลอดจนบรรลุความสำเร็จในการพัฒนาคุณภาพสูง 5 ด้าน ได้แก่ พลังงานไฟฟ้า การเชื่อมต่ออัจฉริยะ ระบบดิจิทัล การใช้งานร่วมกัน และการขยายธุรกิจสู่สากล
หนึ่งในส่วนสำคัญของเป้าหมายดังกล่าวคือนิคมอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานใหม่ GAC New Energy Vehicle Industrial Park ซึ่งเน้นผลิต EV (ยานยนต์พลังงานไฟฟ้า 100%) และ ICV (ยานยนต์เชื่อมต่ออัจฉริยะ) อันเป็นกุญแจสำคัญสู่การพัฒนายานยนต์และการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น คาร์บอนต่ำ และยั่งยืน นอกจากนี้ GAC ยังทำงานอย่างใกล้ชิกกับบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่าง Huawei เพื่อผลิตยานยนต์อัตโนมัติระดับไฮเอนด์ โดยจะเริ่มผลิตปริมาณมากภายในปี 2566การรั้งอันดับ 176 ในการจัดอันดับ Fortune 500 สะท้อนถึงการทำงานหนักและการร่วมแรงร่วมใจกันของบุคลากรทุกภาคส่วนในเครือ GAC Group ความสำเร็จนี้เป็นสิ่งที่น่าภาคภูมิใจอย่างยิ่ง แต่ GAC ยังคงมุ่งมั่นทำในสิ่งที่ดียิ่งขึ้น โดยจะก้าวข้ามขีดจำกัดเดิมเพื่อไต่อันดับให้สูงขึ้นไปอีกบนเวทีโลก