การกลับมาฟื้นตัวของอุตสาหกรรมแบบเต็มกำลังทำให้ผู้ประกอบการบางรายมีการปรับระบบการผลิตมาเป็นแบบ ออโตเมชัน และมีการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้มากขึ้น เพื่อลดปัญหาการขาดแคลนแรงงานในสายการผลิต และลดปัญหาค่าแรงในอนาคต ซึ่งปัจจุบันต้นทุนของนวัตกรรมและเทคโนโลยีนั้นสามารถเข้าถึงได้มากขึ้น ทั้งผู้ประกอบการรายเล็ก รายกลาง และรายใหญ่ จึงเป็นโอกาสดีที่ในปีนี้ผู้ประกอบการไทยจะได้เข้าร่วมงาน อินเตอร์แมค และ เอ็มทีเอ พร้อมนำเสนอเทคโนโลยีล่าสุด และเครื่องจักรที่ทันสมัยให้กับอุตสาหกรรมการผลิตและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการทุกระดับได้อัปเดตเทคโนโลยีและนวัตกรรมล่าสุด ซึ่งงานนี้จะรวบรวมเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่ไม่หยุดนิ่งที่จะพัฒนาให้ได้ชมทั้งในรูปแบบปกติ และการจัดแสดงแบบเสมือนจริง เป็นประโยชน์ทั้งผู้ประกอบการทั้งในประเทศและจากต่างประเทศ
นายสมพล ธนาดำรงค์ศักดิ์ นายกสมาคมผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไทย (TAPMA) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การคลี่คลายของการระบาดของโรคโควิด-19 หลังจากการปลดล็อกดาวน์ในหลายประเทศ และทั่วโลกได้มีการทยอยฉีดวัคซีนให้กับประชาชน ส่งผลให้อุตสาหกรรมรถยนต์รวมถึงอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ ได้กลับมาเดินเครื่องการผลิตเต็มสูบอีกครั้ง ตั้งแต่ช่วงไตรมาสที่สี่ของปี 2563 และต่อเนื่องถึงปีนี้ ซึ่งถือเป็นสัญญาณเชิงบวกให้กับภาคอุตสาหกรรมแสดงให้เห็นว่าภาคการผลิตได้เข้าสู่สภาวะปกติแล้ว โดยในปีนี้ มีการคาดการณ์ว่าจะมีการกลับมาผลิตรถยนต์ได้ถึง 1.5 ล้าน – 1.6 ล้านคัน ซึ่งได้ส่งผลดีเกี่ยวเนื่องมายังกลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ทั้งกลุ่ม OEM และ After Market ที่ได้ฟื้นตัวกลับมาอย่างรวดเร็ว โดยคาดว่ายอดส่งออกชิ้นส่วนยานยนต์รวมถึงยางรถยนต์ในปีนี้จะเติบโตกลับเป็นบวกอีกครั้ง ที่ประมาณ 10-15 เปอร์เซ็นต์ และมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 20,000 ล้านเหรียญสหรัฐ จากที่ได้ติดลบไปเมื่อปีที่ผ่านมา 14.52 เปอร์เซ็นต์ อยู่ที่ 18,721 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งถือเป็นโอกาสสำคัญของผู้ประกอบการชิ้นส่วนยานยนต์ในการพัฒนาและปรับการผลิตฐานการผลิต เพื่อรองรับการเติบโตของตลาดและความต้องการที่กลับมามากขึ้น พร้อมก้าวทันยุคเทคโนโลยีนวัตกรรมดิจิทัลที่ก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็วไม่หยุดชะงัก”
ในปีนี้ ทางสมาคมผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไทยได้ร่วมกันจัดสัมมนา Future Automotive Forum ในหัวข้อ “Next Generation Automotive – นโยบายพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ใหม่ ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยศูนย์กลางการผลิตยานยนต์อาเซียน” เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ในการผลักดันให้ประเทศไทยเปลี่ยนผ่านสู่สังคมยานยนต์สมัยใหม่รองรับเทรนด์การเติบโตในตลาดโลกอย่างยั่งยืน
นอกจากนี้ทางผู้ประกอบการชิ้นส่วนยานยนต์ไทย ยังหวังว่าจะได้โอกาสในการจับคู่ธุรกิจและขยายคู่ค้าไปยังตลาดโลกมากขึ้นผ่านการร่วมกิจกรรมจับคู่ธุรกิจ ในงาน ซับคอน ไทยแลนด์ (SUBCON Thailand 2021) งานแสดงชิ้นส่วนอุตสาหกรรมการผลิตเพื่อการจัดซื้อชิ้นส่วนอุตสาหกรรมและกิจกรรมจับคู่ธุรกิจชั้นนำของอาเซียน ซึ่งปีนี้จะมีการใช้โปรแกรมจับคู่ธุรกิจสำหรับผู้แสดงสินค้าของงานเพื่อเชื่อมโยงทางธุรกิจและสร้างโอกาสให้กับผู้ประกอบการไทยและชาวต่างชาติ ผ่านระบบออนไลน์ช่วยต่อยอดสู่ความร่วมมือในอนาคต ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาคุณภาพที่ผู้ประกอบการไทยจะได้เจอลูกค้าหน้าใหม่ๆ ผ่านกิจกรรมไฮไลต์ของงาน