ก็ถึงเวลาที่จะต้องเปลี่ยนแปลงกันบ้างแล้วสำหรับยามาฮ่าแอร็อกซ์ 155 หลังจากที่เผยตัวจริงในเมืองไทยในงาน Motor Expo เมื่อปลายปี 2016 ตอนนั้นได้วาเลนติโน่ รอสซี่มาเป็นพรีเซ็นเตอร์เพื่อตอกย้ำความเป็นสปอร์ตตี้ Scooter ได้อย่างชัดเจน
จากเดิมที่ถูกออกแบบมาให้ใช้งานในเมืองเป็นหลักแต่ด้วยความจุ 155 ซีซีที่ช่วยไม่ได้ให้คนใช้ขับขี่เพื่อเดินทางไกล ทาง Yamaha จึงต้องจัดให้ใหม่เพื่อรองรับการใช้งานแบบนี้ด้วย ซึ่งไม่ใช่เรื่องยากเพราะคนออกแบบก็เป็นคนไทยคนพัฒนาก็คือคนไทยส่วนญี่ปุ่นเป็นแค่คนแนะนำเท่านั้นเอง
ในการออกแบบมีการปรับปรุงให้ดูเป็นสปอร์ตมากขึ้นโดยอิงจากทาง r-series เอาไว้ เห็นได้จากชุดคาวริ่งที่มีความเป็น แอโร่มากขึ้นทำให้รถเบา ซึ่งก็ไม่ทำให้บอดี้ดูเทอะทะด้วย ที่สำคัญคือต้องมี icon x อันเป็นสัญลักษณ์เหมือนเดิม
การปรับปรุงตัวรถทำให้สั้นลง 10 มิลลิเมตรแต่ก็เพิ่มความสูง 25 มิลลิเมตร พร้อมกับใต้ท้องถูกปรับให้สูงขึ้นอีก 1 มิลลิเมตร ที่สำคัญคือการปรับมุมแคสเตอร์ให้น้อยลง 0.2 องศา ระยะเทรลปรับเพิ่มอีก 5 มิลลิเมตรซึ่งส่งผลให้ตัวรถมีการขับขี่ที่เสถียรมากขึ้น
ความสูงของเบาะนั่งนั้นดูเหมาะสมดีอยู่แล้วจึงได้ท่านั่งเดิม แต่สิ่งที่น่ารำคาญในรถรุ่นแรกอย่างพักเท้าคนซ้อนที่ดูเกะกะก็ถูกปรับไม่ให้โดนขาผู้ขับขี่ รวมถึงการปรับโหนกของเบาะนั่งเพื่อป้องกันไม่ให้คนซ้อนลื่นไถลมาด้านหน้าอีกด้วย
จุดเด่นของรถรุ่นนี้จะอยู่ที่ไฟ Day Time Running Light ที่ดูชัดเจน ส่วนไฟหน้าก็ถูกปรับระยะให้ความสว่างกระจายมากขึ้นพร้อมทั้งออกแบบไฟสูงให้อยู่ด้านข้าง ติดไฟเลี้ยวเอาไว้ตรงด้านหน้าของคาวเริ่งทำให้ดูไม่เกะกะสายตา ส่วนไฟหรี่ก็จะใช้เป็นแบบ LEDตามสมัยนิยม
สิ่งดีๆ ที่มีอยู่ในรุ่นที่แล้วก็ยังคงใช้เหมือนเดิมทั้งขนาดตัวรถที่ใหญ่ทำให้ดูเหมือนบิ๊กไบค์ แต่ท่านั่งก็ยังวางเท้าได้เต็มพื้นเหมือนเดิม ส่วนคนซ้อนเวลาขึ้นไปนั่งจะดูสูงๆหน่อยก็เป็นเรื่องธรรมดาของรถรุ่นนี้
อย่างยางขนาดใหญ่ก็ทำให้ได้ความมั่นคงในการเกาะถนนดีแต่ก็ให้ความคล่องตัวในการขับขี่ด้วย การใช้งานมี Stop/ start เพื่อความประหยัดสำหรับรุ่น ABS ก็ไม่ต้องกลัวว่าไดสตาร์ทจะพังง่ายเพราะรถรุ่นนี้จะใช้ขดลวดมัดข้าวต้มเป็นตัวสตาร์ทแทนที่จะเป็นไดสตาร์ทจึงตัดปัญหาความกังวลเหล่านี้ไปได้
ที่เป็นสิ่งดีสำหรับคนเมืองก็คือกล่องใต้เบาะจะมีขนาดใหญ่จากการแยกช่องเติมน้ำมันมาอยู่ทางด้านหน้าทำให้กล่องเก็บของมีขนาดใหญ่สามารถใส่หมวกเต็มใบได้สบาย เก็บของได้อย่างจุใจ
สำหรับคนยุคใหม่สิ่งที่ขาดไม่ได้คือโทรศัพท์มือถือตอนเก็บก็จะมีกล่องเก็บของทางด้านหน้าที่มีการออกแบบใหม่ให้มีความแข็งแรงมากขึ้นไม่ก๊องแก๊งเหมือนรถรุ่นเก่า
เมื่อมีโทรศัพท์ติดตัวก็ต้องมีระบบระบบเชื่อมต่อกับรถได้ แอร็อกซ์ใหม่จึงเป็นมอเตอร์ไซค์รุ่นแรกของ Yamaha ที่มีระบบ Y -Connect มาใช้งาน สามารถเชื่อมต่อกันได้โดยมีการแสดงไอคอนรูปโทรศัพท์ทำให้รับรู้ได้เมื่อมีสายเข้ามา รวมไปถึงข้อความที่มีการแสดงเพื่อไม่ให้พลาดสาระสำคัญ ซึ่งในรถรุ่นนี้จะมี CCU Unit สำหรับเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือ อีกทั้งยังมีข้อมูลของรถแสดงไว้ที่มือถือได้ด้วยเมื่อมีการโหลด App มาใช้งาน
เรือนไมล์ใหม่ที่ต้องแสดงผลข้อมูลก็มีการออกแบบให้ดูสปอร์ตมากขึ้น มีวัดรอบเป็นกราฟแท่งขึ้นมาทั้ง 2 ด้าน ส่วนวัดความเร็วจะเป็นตัวเลขขนาดใหญ่มองเห็นได้ชัดเจน โดยแสงของหน้าจอก็สามารถปรับความสว่างได้ 3 ระดับเพื่อให้สู้แสงสว่างตอนกลางวันได้ดีขึ้น
สำหรับสวิทช์ปรับโหมดก็ถูกย้ายมาอยู่ที่ประกับแฮนด์แทนเพื่อให้การเปลี่ยนโหมดทำได้ง่ายไม่ต้องกังวลในการปรับ ช่วยให้การขับขี่ทำได้สนุกเร้าใจมากยิ่งขึ้น
นอกจากตัวรถที่ถูกออกแบบใหม่แล้วเครื่องยนต์ก็ยังเป็นเครื่องยนต์ใหม่ เป็นเครื่องยนต์ Blue Core 4 วาล์ว ที่เพิ่มขึ้นมาคือกำลังอัดจาก 10.5: 1 มาเป็น 11.6 :1 ซึ่งช่วยให้มีกำลังเพิ่มขึ้นจากเดิม 15.1 แรงม้ามาเป็น 15.4 แรงม้าที่ 8,000 รอบ/นาที เท่าเดิม ส่วนแรงบิดจะมีการเพิ่มจาก 13.8 นิวตันเมตรที่ 6,250 รอบต่อนาทีเป็น 13.9 นิวตันเมตรที่รอบเครื่องยนต์สูงขึ้น 6,500 รอบต่อนาที น้ำมัน 1 ลิตรก็สามารถที่จะเดินทางได้ไกลขึ้น
เพื่อให้อากาศไม่ขาดตอนกล่องกรองอากาศถูกขยายจาก 4 ลิตรเป็น 4.3 ลิตร ใช้ไส้กรองอากาศเคลือบน้ำมันเพื่อให้การดักจับฝุ่นละอองทำได้ดีขึ้น ถังน้ำมันก็มีการเพิ่มความจุจาก 4.6 เป็น 5.5 ลิตรช่วยให้มีระยะทางในการขับขี่ไกลขึ้น คนที่ใช้รถแอร็อกซ์ขี่ข้ามจังหวัดก็ไม่ต้องกังวลเรื่องการเติมน้ำมันบ่อยๆอีกต่อไป