คงต้องแสดงความเสียใจจากการโบกมือลาของดูคาทิสติผู้ปลุกปั้นให้ดูคาดิเป็นที่รู้จักในบรรดาขาซิ่งเมืองไทยหนึ่งในนั้นก็มีดูคาติ มอนสเตอร์ รถที่ไร้อาภรณ์ประดับกายได้โชว์มัดกล้ามและขุมพลังอย่างเต็มที่ เป็นผลพวงมาจากความบังเอิญที่ทางผู้บริหารได้เห็นรถสปอร์ต ถอดแฟริ่งของดูคาติที่พนักงานได้ดัดแปลง จึงเป็นโชคของพนักงานคนนี้ ที่ได้ร่วมทีมออกแบบมอนสเตอร์ด้วย
สำหรับดูคาติ มอนสเตอร์ 1200 ถูกออกแบบให้มีความเป็นรถในตระกูลมอนสเตอร์สร้างความโดดเด่นด้วยสีแดงสด มีฝาพลาสติกรอบทับเบาะนั่งด้านหลัง ให้อารมณ์ความเป็นสปอร์ตมากขึ้น เบาะนั่งปกติจะสูง 810 มม. สำหรับคนเอเซียสูง170 ซม. สามารถวางเท้าทั้งสองข้างได้ครึ่งฝ่าเท้า ถ้าเอียงรถเล็กน้อยก็วางได้เต็มฝ่าเท้าหรือจะลดเบาะต่ำสุดเหลือ 785 มม. ก็สามารถทำได้ ด้วยการปรับแกนเบาะให้อยู่ในช่องล่างสุดแล้ว ถอดตัวรองเบาะออก 2 ชิ้น แค่นี้ก็ได้เบาะเตี้ยๆ สำหรับการใช้งานในเมืองแล้ว
ถึงตัวรถจะมีขนาดตัวถังใหญ่กว่า 796 โดยมีน้ำหนักตัว 209 กก.ก็ตาม แต่การควบคุมก็ทำได้ไม่ยากจากแฮนด์ที่กว้างแบบรถวิบาก ช่วยลดแรงในการหักเลี้ยวได้เยอะ รวมถึงการบาลานซ์น้ำหนักที่ดีส่งผลให้การทรงตัวในความเร็วต่ำๆ ก็ไม่เหนื่อยมาก แต่เวลาเดินทางไกลระดับเบาะปกติจะให้ความรู้สึกในการควบคุมรถได้ดีกว่า จากท่านั่งที่เอนมาทางด้านหน้ามากกว่าเบาะเตี้ยๆ อีกทั้งเบาะที่กว้างช่วยให้มีพื้นที่ขยับก้นบ้างเมื่อต้องการจะหมอบลดกระแสลมปะทะได้อีกต่างหาก
ล้อ 5 ก้านคู่ของเอนไก ขนาด 3.50×17 นิ้ว ด้านหน้าใส่ยางพีเรลลี่ ไดอะโบล รอสซี่ ll ล้อหลังขนาด 6.00 x 17 นิ้ว ใส่ยาง 190/55 แซด อาร์ 17 โดยมีพื้นฐานล้อ 1511 ม.ม. โดยวางตำแหน่งโช้คอัพหน้า มีระยะแกรล 93.2 มม. มุมแร็ค 24.3 องศา โช้คอัพหน้าหัวกลับสีเงินปรับได้ขนาด 43 มม. ช่วงยุบ 130 มม. หลังเป็นโช้คอัพเดี่ยว สปริงสีเหลืองยึดติดกับสวิงอาร์มอลูมิเนียมแบบโปรอาร์ม ปรับระดับได้ มีช่วงยุบ 152 มม.
ด้วยทรวดทรงที่ดูเพรียว แม้จะมีถังน้ำมันขนาดใหญ่ จุ 17.5 ลิตร แต่ก็ได้มีบั้นท้ายที่เรียวมาชดเชยโดยย้ายแผ่นป้ายทะเบียนมาไว้ หลังล้อแทนที่จะห้อยตรงท้ายแบบรถทั่วๆ ไป
เครื่องยนต์ แอล-ทวิน Testastretta 11 องศา 4 วาล์วต่อสูบ ระบบวาล์วแปรผัน เดสโมโดรมิก ใช้การระบายความร้อนด้วยหม้อน้ำทรงโค้งช่วยระบายความร้อนได้ดี โดยเฉพาะตอนเจออากาศร้อนๆ เครื่องยนต์จะยึดติดกับเฟรมเหล็กทรงกลมแบบ Tubular ซึ่งจะยึดด้านบนของเครื่องยนต์เอาไว้ จึงไม่ไปเกะกะท่อไอเสียด้านหน้าที่โค้งขึ้นและท่อโค้งลงด้านหลังแล้วยกปลายท่อคู่ขึ้น ไม่สูงนักปลายท่อไอเสียจะเป็นสีตะกั่ว เป็นท่อคู่ที่ให้เสียงดุดันพอสมควรในการใช้งาน
เครื่องยนต์สามารถเลือกโหมดได้ด้วยปุ่มกดด้านซ้ายของแฮนด์ ถ้าเลือกโหมดสปอร์ตก็จะได้กำลังเต็มๆ 135 แรงม้า ที่ 8,750 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 118 นิวตัน-เมตร ที่ 7,250 รอบต่อนาทีระบบส่งกำลังใช้เกียร์ 6 สปีดคลัตซ์เปียกเรียกรอบเครื่องยนต์ออกมาใช้งานได้อย่างรวดเร็ว แต่โหมดสปอร์ตจะเหมาะกับเส้นทางลาดยางมากกว่าคอนกรีต เพราะช่วงล่างแข็งๆ จะรู้สึกกระด้างหน่อยแต่ได้ฟิลลิ่งที่ดุดันแบบเต็มๆ