ในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าคงจะปฏิเสธไม่ได้ว่าผู้นำของรถประเภทนี้คือค่ายเทสล่า เมื่อมาทีหลังค่ายปอร์เช่ก็ได้นำรถสปอร์ตพลังงานไฟฟ้าสมบูรณ์แบบของแบรนด์ออกมาต่อกรด้วยโดยมีตัวขายดีที่สุดอย่างไทคานน์ 4 เอส สปอร์ตซาลูน4ประตูในเมืองไทยตั้งราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 7,100,000 บาท โดยเปิดตัวในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ที่ผ่านมาหลังจากเปิดตัวในเยอรมนีในปีก่อนหน้า
ด้วยการออกแบบภายนอกที่รักษา อัตลักษณ์ของ DNA ปอร์เช่เอาไว้ได้เป็นอย่างดี เช่นเดียวกับงานตกแต่งภายในห้องโดยสารที่ยึดถือบรรยากาศโอบล้อมผู้ ขับขี่สไตล์ปอร์เช่ ซึ่งสามารถสัมผัสได้ในทันทีด้วยงานออกแบบที่เรียบหรู สะอาดตาของปอร์เช่ ไทคานน์ แสดงให้เห็นถึงการเข้าสู่ยุดใหม่ของปอร์เช่ แต่ก็ยังคงอัตลักษณ์ ดีไซน์สไตล์ดั้งเดิมของ DNA ปอร์เช่ อย่างครบถ้วน เริ่มตั้งแต่มุมมองด้านหน้าที่กว้าง และแบนราบ ขนาบด้วยโป่งซุ้มล้อที่โค้งมน ยกระดับรูปทรงโดยรวมให้ปราดเปรียว เฉียบคม ด้วยแนวหลังคาสไตล์สปอร์ตที่ เทลาดลงอย่างต่อเนื่องกลมกลืนจรดด้านท้าย
แนวตัวถังด้านข้างที่เปี่ยมไปด้วย บุคลิกเฉพาะตัว มุมมองจากห้องโดยสาร ที่ปลอดโปร่ง แนวโค้งของเสา C-pillar ที่วางตัวผสานกับซุ้มล้อหลัง เป็นหนึ่งเดียวกับสปอยเลอร์ท้ายรถที่ตอกย้ำถึง ความกร้าวแกร่งทรงพลัง อันเป็นสมรรถนะติดตัวรถยนต์ปอร์เช่ทุกคัน เสริมความโดดเด่นด้วยนวัตกรรมล้ำสมัยรายรอบคัน อาทิ ตราสัญลักษณ์ปอร์เช่ที่สะท้อนประกายสวยงาม หรือ glass-effect Porsche logo ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่รวมอยู่กับแผงไฟ light bar บริเวณท้ายรถ
สิ่งที่สร้างความแตกต่างระหว่าง ปอร์เช่ ไทคานน์ 4 เอสกับรุ่น เทอร์โบและ เทอร์โบ เอสได้แก่ ล้ออัลลอยที่ออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ ขนาด 19 นิ้ว ลาย Taycan S Aero คาลิเปอร์เบรกสีแดงทั้่ง 4 ล้อ ชิ้นส่วนตัวถังด้านหน้าดีไซน์ใหม่ ชายล่างด้านข้าง และดิฟฟิวเซอร์หลังสีดำ เสริมอารมณ์ สปอร์ตเต็มพิกัด ไฟหน้า LED พร้อมระบบ Porsche Dynamic Light System Plus (PDLS Plus) ติดตั้งเป็นอุปกรณ์
ห้องโดยสารแสดงออกถึงการเริ่มต้นเข้าสู่ยุคใหม่ของยนตรกรรมล้ำอนาคต ปลอดโปร่งด้วยโครงสร้างสถาปัตยกรรมใหม่หมดจดสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเป็นการจัดวางอุปกรณ์รายรอบ แผงหน้าปัทม์ทรงโค้งมนในตำแหน่งบน สุดของแผงคอนโซลหน้า ให้มุมมองที่ชัดเจนที่สุดจากสายตาของผู้ขับขี่ คอนโซลกลางติดตั้งหน้าจอ infotainment ขนาดใหญ่ถึง 10.9 นิ้ว พร้อมหน้าจอสำหรับผู้โดยสารตอนหน้าเป็นอุปกรณ์พิเศษติดตั้งเพิ่มเติม วางตัวต่อเนื่องครอบคลุม เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันด้วยแผ่นกระจกที่ให้สัมผัสสไตล์ black-panel สร้างบรรยากาศที่กลมกลืนลงตัวกับงานตกแต่ง
ภายในของปอร์เช่ ไทคานน์ 4 เอสเพียบพร้อมไปด้วยวัสดุหนังคุณภาพสูงและได้รับ การติดตั้งเบาะนั่งคู่หน้าแบบ comfort seats ปรับระดับด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทาง นอกจากนี้ยังนำเสนอมิติใหม่ของงานตกแต่งภายในที่ปราศจากการใช้วัสดุหนังเป็นครั้งแรก ชิ้นงานภายในประกอบด้วยนวัตกรรมวัสดุรีไซเคิล ซึ่งล้วนแล้วแต่ตอบโจทย์แนวคิดในการพัฒนารถสปอร์ตพลังงานไฟฟ้า อย่างยั่งยืนยาวนาน
ไทคานน์ 4 เอส มีทางเลือกที่หลากหลายจากชุดแบตเตอรี่ ขับเคลื่อนที่มี 2 ขนาดความจุ โดยเริ่มต้นจากชุด Performance battery ความจุพลังงานรวม 79.2 กิโลวัตต์ชั่วโมง ที่ให้พละกำลังสูงสุดตั้งแต่ 530 แรงม้า เมื่อได้แบตเตอรี่เพิ่มขึ้นมาอีก5โมดูลก็จะได้สัมผัสพลังแรงยิ่งขึ้นจากชุด Performance battery Plus มีความจุพลังงานรวม 93.4 กิโลวัตต์ชั่วโมงให้พละกำลังเพิ่มขึ้นเป็น 571 แรงม้า กำลังและระยะทางขึ้นอยู่กับขนาดความจุของแบตเตอรี่ขับเคลื่อน ไม่ว่าจะเป็นแบตเตอรี่ชุดใดปอร์เช่ ไทคานน์ 4 เอสก็สามารถสร้างอัตราเร่งจาก0- 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้ภายใน 4.0 วินาที พร้อมทำความเร็วสูงสุดได้กว่า 250 กิโลเมตรต่อ ชั่วโมง ระยะการเดินทางสูงสุดกว่า 407 กิโลเมตร สำหรับรุ่นที่ติดตั้งชุด Performance Battery และวิ่งได้ไกล 463 กิโลเมตร สำหรับรุ่นที่ติดตั้งชุด Performance Battery Plus ซึ่งเป็นระยะทางที่ไกลที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับ ไทคานน์ทุกรุ่นที่มีจำหน่ายอยู่ในปัจจุบัน ส่วนของประสิทธิภาพการประจุพลังงานสูงสุด หรือ maximum charging capacity (peak) อยู่ที่ 225 กิโลวัตต์สำหรับชุด Performance Battery หรือ 270 กิโลวัตต์สำหรับชุดPerformance Battery Plus
ถึงจะเป็นรุ่นต่ำสุดในตอนนี้แต่ไทคานน์ 4 เอสก็ยังให้อัตราเร่งที่เร้าใจอันเป็นคุณสมบัติประจำตัวของสปอร์ตพลังไฟฟ้าที่ถ่ายทอดพลังขับเคลื่อนได้อย่างต่อเนื่อง โดยยังคงรักษาเอกลักษณ์ทั้งหมดของปอร์เช่ ไทคานน์ เอาไว้ได้อย่างครบถ้วน กับกลไกขับเคลื่อนสมรรถนะสูง permanently excited synchronous machine บริเวณเพลาคู่หลังที่ยาวเพียง 130 มิลลิเมตร จะมีขนาดเล็กกว่ากลไกขับเคลื่อนที่ติดตั้งใน ไทคานน์ เทอร์โบ เอส และ ไทคานน์ เทอร์โบถึง 80 มิลลิเมตร ในส่วนของอุปกรณ์ pulse-controlled inverter ซึ่งติดตั้งบริเวณเพลาคู่หน้าของ ไทคานน์ 4S สามารถสร้างกระแสไฟฟ้าได้สูงสุดถึง 300 แอมป์ และ inverter ของเพลาคู่หลัง สร้างกระแสไฟฟ้าได้สูงสุดถึง 600 แอมป์ การประสานงานกันอย่างลงตัวของอุปกรณ์ permanently excited synchronous machines ระหว่าง เพลาขับคู่หน้า และคู่หลัง คือการทำงานของระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ all-wheel drive ถ่ายทอดพละกำลังได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ผ่านชุดส่งกำลัง two-speed transmission ของเพลาคู่หลัง อันเป็นสถาปัตยกรรมระบบขับเคลื่อนชั้นเลิศ พร้อมระบบประจุพลังงานเหนือระดับและด้วยค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน Cd ที่ต่ำเพียง 0.22 รวมทั้งอัจฉริยภาพด้านระบบอากาศพลศาสตร์ที่ยอดเยี่ยมจากการออกแบบรูปทรงตัวถังที่เหมาะสม ผลลัพธ์ที่ได้คืออัตรา การใช้พลังงานไฟฟ้าที่ประหยัด และพิสัยระยะเดินทางที่ทำได้ไกลอย่างน่าอัศจรรย์
ปอร์เช่ ไทคานน์ 4 เอส มาพร้อมระบบเบรกคู่หน้าคาลิเปอร์ 6 ลูกสูบ จานเบรกเหล็กหล่อพร้อมครีบ ระบายความร้อน เส้นผ่านศูนย์กลาง 360 มิลลิเมตร ระบบเบรกคู่หลังคาลิเปอร์ 4 ลูกสูบ จานเบรกเส้นผ่านศูนย์กลาง 358 มิลลิเมตร เติมเต็มความโฉบเฉี่ยวด้วยตัวเรือนคาลิเปอร์เบรกสีแดง
มั่นใจในเรื่องความปลอดภัยด้วยระบบ Porsche 4D-Chassis Control ที่รับบทบาทวิเคราะห์และประมวลผลข้อมูลที่ได้จากระบบควบคุมช่วงล่าง ทั้งหมดในแบบ real time โดยปอร์เช่ ไทคานน์ 4 เอส จะติดตั้งระบบช่วงล่างถุงลมที่ปรับระดับอัตโนมัติ พร้อมเทคโนโลยี three-chamber รวมทั้งระบบ PASM (Porsche Active Suspension Management) เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน