ใครที่เป็นไบค์เกอร์หน้าใหม่ และกำลังมองหารถบิ๊กไบค์คันแรก บอกเลยว่าต้องมีชื่อแบรนด์ “ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์” เป็นหนึ่งในตัวเลือกในใจ เพราะแน่นอนว่าการตัดสินใจซื้อรถไทรอัมพ์สักคัน ไม่ใช่เพียงแค่ซื้อรถมอเตอร์ไซค์เพื่อการขับขี่ แต่ยังเป็นเรื่องของการเลือกรถมอเตอร์ไซค์ที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ อีกทั้งเลือกความพรีเมียมของแบรนด์ ซึ่งการเป็นเจ้าของรถไทรอัมพ์จะได้สัมผัสกับความพิเศษอะไรที่แตกต่างจากแบรนด์อื่นบ้าง ไปดูกันเลย
เป็นเจ้าของแบรนด์รถที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 118 ปี
ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ ถือเป็นแบรนด์รถมอเตอร์ไซค์สัญชาติอังกฤษที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานที่สุด จากการก่อตั้งในปีคริสต์ศักราช 1902 หากนับถึงปัจจุบันก็เป็นระยะเวลากว่า 118 ปีแล้ว ซึ่งไทรอัมพ์ได้มีวิวัฒนาการในการสร้างสรรค์รถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ ๆ ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น ผสมผสานงานออกแบบที่สวย คลาสสิก ร่วมสมัย เข้ากับความแม่นยำในการควบคุมรถ และสมรรถนะอันเป็นเลิศ เพื่อประสบการณ์การขับขี่ที่สมบูรณ์แบบ ตามสโลแกน “FOR THE RIDE” มาโดยตลอด เพื่อเป็นการรวบรวมประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ และเรื่องราวมากมายของไทรอัมพ์ จึงได้ถือกำเนิด “ไทรอัมพ์ แฟคทอรี่ วิซิเตอร์ เอ็กซ์พีเรียนซ์” (Triumph Factory Visitor Experience) ขึ้นที่เมืองฮิงคลีย์ ประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ โดยที่นี่มีเรื่องราวมากมายเกี่ยวกับไทรอัมพ์ ไม่ว่าจะเป็น การออกแบบ วิศวกรรม การผลิตรถมอเตอร์ไซค์รุ่นต้นแบบ การจัดแสดงรถมอเตอร์ไซค์ที่หาชมยากและมีความสำคัญมากมายหลายคัน ตลอดจนเปิดให้เยี่ยมชมในส่วนของโรงงานผลิตของไทรอัมพ์ เรียกได้ว่าใครที่ได้ครอบครองรถไทรอัมพ์ ก็เหมือนได้เป็นส่วนหนึ่งของแบรนด์ที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน
ไม่ว่าไลฟ์สไตล์การขับขี่ของคุณจะเป็นอย่างไร ก็สามารถเสริมลุคความพรีเมียมได้ ด้วยรถไทรอัมพ์ทั้ง 3 ตระกูล
ด้วยเอกลักษณ์ความเป็นแบรนด์รถมอเตอร์ไซค์ระดับพรีเมียม ทำให้การสร้างสรรค์รถจักรยานยนต์ไทรอัมพ์ทุกคัน ออกมาอย่างมีเอกลักษณ์ ผสมผสานสไตล์การออกแบบที่คลาสสิก ร่วมสมัย ไม่ว่าจะเป็นรถในกลุ่มใดก็ตาม โดยสำหรับไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ในประเทศไทย มีการผลิตรถมอเตอร์ไซค์ทั้งหมด 3 กลุ่ม เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การขับขี่ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ผู้ที่ชื่นชอบสไตล์คลาสสิกอันเลื่องชื่อของแบรนด์ ในกลุ่มโมเดิร์นคลาสสิก (Modern Classic) หรือผู้ที่ชื่นชอบการขับขี่แบบผจญภัยและออฟโรด ก็ต้องเป็นรถมอเตอร์ไซค์ในกลุ่มแอดเวนเจอร์แอนด์ทัวร์ริ่ง (Adventure & Touring) และสุดท้าย สำหรับผู้ที่ชื่นชอบสมรรถนะอันทรงพลัง ความปราดเปรียวในการขับขี่เหมือนอยู่ในสนามแข่ง หรือรถมอเตอร์ไซค์ในกลุ่มเน็กเก็ตโรดสเตอร์ (Naked Roadster) ซึ่งไม่ว่าคุณจะเลือกเป็นเจ้าของรถมอเตอร์ไซค์ในกลุ่มใดก็ตาม ก็ยังคงมั่นใจว่าสามารถสัมผัสได้ถึง DNA ความเป็นไทรอัมพ์ในรถทุกรุ่น
เป็นเจ้าของความเป็นที่สุดในทุกด้าน
นอกเหนือจากการเลือกรถจักรยานยนต์ที่ตรงกับสไตล์การขับขี่ส่วนตัว การเลือกแบรนด์รถจักรยานยนต์ที่สร้างตำนานความเป็นที่สุดในหลาย ๆ ด้าน ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ช่วยทำให้แบรนด์รถจักรยานยนต์ที่เราขับขี่ ดูมีเรื่องราวที่น่าสนใจ ซึ่งไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ ได้สร้างตำนานความเป็นที่สุดไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น รถจักรยานยนต์ที่มีเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง ร็อคเก็ต 3 อาร์ (Rocket 3R) และ ร็อคเก็ต 3 จีที (Rocket 3 GT) มาพร้อมเครื่องยนต์อันทรงพลัง 3 สูบ ขนาด 2,500 ซีซี เรียกได้ว่าเป็นซุปเปอร์ไบค์ไอคอนที่ไม่มีใครเทียบได้ หรือจะเป็นความเป็นที่สุดในด้านความเร็ว แรงของเครื่องยนต์ในสนามแข่ง ซึ่งไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ ได้เป็นผู้สนับสนุนเครื่องยนต์ที่ใช้ในการแข่งขัน Moto2 อย่างเป็นทางการ ซึ่งเครื่องยนต์ดังกล่าวพัฒนามาจากเครื่องยนต์ที่ติดตั้งอยู่ในสตรีท ทริปเปิล อาร์เอส (Street Triple RS) ด้วยเครื่องยนต์แบบ 3 สูบ ขนาด 765 ซีซี และสุดท้ายกับความเป็นที่สุดของไอคอนของบิ๊กไบค์สายลุย ในรถรุ่นไทเกอร์ 900 แรลลี่ (Tiger 900 Rally) และไทเกอร์ 900 แรลลี่ โปร (Tiger 900 Rally Pro) ที่มอบสไตล์การขับขี่อันดุดัน เพื่อการขับขี่ผจญภัยและออฟโรดยิ่งกว่าที่เคยมีมา มาพร้อมโหมดการขับขี่สูงสุดถึง 6 โหมด ได้แก่ Rain, Road, Sport, Off-Road, Rider และ โหมดการขับขี่สำหรับการผจญภัยโดยเฉพาะอย่างโหมด Off-road Pro เรียกได้ว่าเป็นรถมอเตอร์ไซค์ที่เกิดมาเพื่อสายลุยตัวจริง หรือสำหรับใครที่มีไลฟ์สไตล์การขับขี่ทั้งแบบท่องเที่ยวทางไกล ควบคู่กับความต้องการใช้งานเพื่อการขับขี่ในชีวิตประจำวัน ไทรอัมพ์ก็มี
“ไทเกอร์ 900 จีที” (Tiger 900 GT) และ “ไทเกอร์ 900 จีที โปร” (Tiger 900 GT Pro) เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจ และตอบโจทย์นักขี่สายลุยได้เช่นกัน
อุ่นใจกับมาตรฐานการบริการ “ไทรอัมพ์ เวิลด์ สแตนดาร์ด” ทั่วโลก
ยิ่งไปกว่าความมุ่งมั่นสร้างสรรค์เอกลักษณ์อันโดดเด่น และสไตล์เฉพาะตัวในรถแต่ละรุ่น ไทรอัมพ์ยังให้ความสำคัญกับการให้บริการที่ดีที่สุด ด้วยมาตรฐาน “ไทรอัมพ์ เวิลด์ สแตนดาร์ด” เพื่อมอบความรู้สึกอุ่นใจให้แก่ลูกค้าไทรอัมพ์ ไม่ว่าจะขับขี่ไทรอัมพ์อยู่ที่ไหนก็ตาม โดยไทรอัมพ์มีตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการกว่า 650 รายทั่วโลก ทำหน้าที่จัดจำหน่าย และให้บริการหลังการขายแบบครบวงจร ครอบคลุมทั้งการตรวจสภาพรถ การซ่อมบำรุงด้วยเครื่องมือที่ได้มาตรฐาน พร้อมให้บริการด้วยพนักงานที่ได้รับการอบรมมาตรฐานทั้งด้านให้คำปรึกษาทางด้านการขาย และการบริการหลังการขายระดับมืออาชีพ ตลอดจนช่างเทคนิคมากประสบการณ์ เพื่อมอบความประทับใจเหนือระดับให้กับลูกค้าไทรอัมพ์
เป็นส่วนหนึ่งของคอมมูนิตี้ไทรอัมพ์
เพราะไทรอัมพ์เชื่อว่ายิ่งกว่าการส่งมอบคุณภาพการขับขี่รถจักรยานยนต์ และการบริการที่ดีให้แก่ลูกค้า ต้องควบคู่ไปกับการสร้างสังคมของการขับขี่ เพื่อให้การขับขี่รถมอเตอร์ไซค์สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น ดังนั้นไทรอัมพ์จึงให้ความสำคัญในการสร้างสังคมของคนรักไทรอัมพ์ให้สมบูรณ์แบบในทุกด้านผ่านการดำเนินการรูปแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น การจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย หรือกิจกรรมรวมตัวของคนที่รักรถไทรอัมพ์ ซึ่งในประเทศไทยเองก็มีการจัดกิจกรรมที่สร้างการมีส่วนร่วมระหว่างลูกค้าไทรอัมพ์ในไทย และลูกค้าไทรอัมพ์ทั่วโลก ผ่านโครงการ “เดอะ ดิสธิงกวิช เจนเทิลแมนไรด์” (The Distinguished Gentleman’s Ride) กิจกรรมการรณรงค์และระดมทุนเพื่อสนับสนุนเกี่ยวกับสุขภาพของเพศชายโดยเฉพาะ ที่จะจัดขึ้นพร้อมกันหลายประเทศทั่วโลกในช่วงปลายเดือนกันยายนของทุกปี หรือกิจกรรมรวม “ไทรอัมพ์ เดย์” (Triumph Day) ที่เป็นงานรวมตัวครอบครัวไทรอัมพ์ โดยภายในงานมีกิจกรรมมากมายที่ขนมาให้เหล่าบรรดาคนรักไทรอัมพ์ได้ร่วมสนุก และเอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะไทรอัมพ์ ไรด์เดอร์โดยเฉพาะ