ไม่เน้นหรู ไม่โชว์เหนือทำให้ค่ายซูซูกิปล่อยรถแต่ละรุ่นออกมาสู่ตลาดเมืองไทยในราคาที่จับต้องได้ เป็นมิตรกับกระเป๋าตังส์ ทำให้ค่ายนี้เติบโตได้อย่างมั่นคงหลังจากที่เข้ามาลุยในตลาดเมืองไทยเต็มตัว โดยมีรถยนต์รุ่นใหม่ทยอยออกมาอย่างต่อเนื่อง
สำหรับรถยนต์ 7 ที่นั่งตอนนี้ทางซูซูกิมีให้เลือกอยู่สองรุ่นสองรูปแบบ หากเป็นรถใช้งานปกติก็จะเป็น Suzuki ERTIGA ส่วนใครที่ชอบรถตัวถังสูงๆก็จะมี Suzuki XL7 ไว้รองรับเผื่อจะได้ลุยพวกน้ำท่วมขังได้สบายใจกว่ารถตัวถังเตี้ยๆ ส่วนถนนฝุ่นก็พอไปได้แต่ถ้าให้ลุยแบบออฟโรดนั้นมันคนละแนวขอบอก
ในตลาดเมืองไทย Suzuki ERTIGA ได้เปิดตัวรุ่นแรกไปเมื่อปี 55 ส่วนโฉมปัจจุบันเปิดตัวกันไปเมื่อปีที่แล้ว เป็นตัวเลือกให้กับครอบครัวที่มีสมาชิกเยอะหรือบ้านที่มีเด็กๆต้องไปส่งที่โรงเรียน การมีเบาะนั่งเพิ่มมาอีกแถวสามารถปรับเปลี่ยนเป็นที่นอนในช่วงเดินทางรถติดๆได้ เด็กๆสามารถยึดคนละแถวได้ซึ่งรถรุ่นนี้เป็นทางเลือกสำหรับคนที่มีเงินไม่มากพอไปเล่นรถหรูกับค่าตัวเริ่มต้น 659,000 บาท นั้นสามารถลงไปแข่งกับตลาดอีโคคาร์ได้สบาย
Suzuki ERTIGA ถูกพัฒนาขึ้นให้เป็น รถ 7 ที่นั่ง ที่มีสไตล์ และให้อารมณ์การขับขี่ทุกเส้นทางด้วยการออกแบบตัวรถภายนอกตามหลักอากาศพลศาสตร์ไม่ต้านลมซึ่งจะส่งผลดีตอนขับเร็วๆ เสริมหรูด้วยกระจังหน้าโครเมี่ยม ไฟหน้าโปรเจ็คเตอร์ดูดุดันเข้ากับเส้นสายการออกแบบด้านหน้า เสริมด้วยไฟตัดหมอกทรงกลม
พร้อมด้วยเส้นสายดีไซน์โฉบเฉี่ยวโดดเด่นด้านข้างตัวรถ ให้ความรู้สึกโฉบเฉี่ยวเร้าใจ ทันสมัย สะกดสายตาล้ออลูมิเนียมอัลลอยขนาด 15 นิ้ว
สะดุดตาด้วยไฟท้าย LED รูปทรงตัวแอลที่มองเห็นชัดเจนทั้งทางด้านหน้าและด้านข้างเพื่อความปลอดภัยสำหรับรถที่ขับตามหลังมาจะได้เห็นไฟสัญญาณได้อย่างชัดเจน
ภายใน ออกแบบให้ดูเรียบหรู ใช้วัสดุคุณภาพสูง กับเส้นสายการออกแบบที่ให้ความรู้สึกหรู เพิ่มความรู้สึกเรียบหรูแต่ดุดันด้วยคอนโซลลายไม้ อัดแน่นด้วยอุปกรณ์ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย อาทิ ช่องเชื่อมต่อ USB ช่องจ่ายไฟสำรอง 12V ถึง 2 ตำแหน่ง พร้อมฟังก์ชั่นเชื่อมต่อโทรศัพท์ด้วยบลูทูธ
ท้าทายทุกการขับขี่ด้วยพวงมาลัย D-shape ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษเพิ่มพื้นที่วางขามากขึ้น ซึ่งพวงมาลัยแบบนี้มักจะใส่ไว้ในรถสปอร์ตแต่ทางซูซูกิกลับนำมาวางไว้ในรถครอบครัวเฉยเลย
เหนือกว่าด้วยพื้นที่ภายในห้องโดยสารขนาด 3 แถว 7 ที่นั่ง ที่กว้างขวาง โปร่งสบาย สามารถปรับเปลี่ยนเพื่อตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ให้ใช้งานได้อย่างเต็มที่และมีจุดยึดเบาะนั่งนิรภัย ISOFIX และ Top tether สำหรับเด็กอีกด้วย
สะดวกสบายยิ่งขึ้นด้วยระบบ Keyless Entry และ Keyless Push Start เมื่อเวลาที่มีสัมภาระเต็มมือการไม่ต้องเสียเวลามาควานหากุญแจในกระเป๋าเพื่อปลดล็อคมันช่วยอำนวยความสะดวกได้มากเลย
สิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับเมืองร้อนอย่างบ้านเราก็คือความเย็นซึ่งในรถคันนี้สามารถสัมผัสกับความเย็นสบายตลอดการเดินทางด้วยระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารแถวหลัง พร้อมช่องวางเครื่องดื่มที่สามารถรักษาอุณหภูมิความเย็นของเครื่องดื่มได้นานยิ่งขึ้น
Suzuki ERTIGA ทรงพลังในสมรรถนะการขับขี่ ด้วยเครื่องยนต์ K15B 1.5 ลิตรให้กำลังสูงสุดถึง 105 แรงม้า/6,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์ออโตเฟือง4สปีดทำให้การออกตัวทำได้ดี รอบเครื่องยนต์ไม่สูง ที่ความเร็ว 100 กม./ชม. อยู่ที่2,500รอบ/นาที
ด้วยตัวถังที่ใหญ่ทำให้การเดินทางด้วยความเร็วระดับ 110 กม./ชม. จึงประหยัดกว่าวิ่ง 80-90 กม./ชม แต่ต้องระวังกล้องตรวจจับความเร็วด้วยเพราะช่วงที่ใช้ความเร็วขนาดนี้ตัวเลขความเร็วชอบขึ้นไปเกิน 120 กม./ชม. อยู่เรื่อยเมื่อตัวถังลอยตัวคันเร่งจึงเบากว่าตอนใช้ความเร็วต่ำอัตราบริโภคเฉลี่ย 16.3 กม/ลิตร
กับรถตัวถังใหญ่มีผู้โดยสารมากขึ้นเรื่องความปลอดภัยก็ต้องใส่ใจมากขึ้นทางซูซูกิจึงเลือกแพลตฟอร์มใหม่ HEARTECT ที่เป็นเทคโนโลยีเฉพาะของซูซูกิมาใช้ ช่วยเพิ่มทั้งสมรรถนะและความปลอดภัย ทนทานด้วยโครงสร้างตัวถัง TECT ออกแบบจากเหล็กกล้าทำให้ทนทานต่อการสึกหรอจากการใช้งาน
ช่วงล่างทำจากเหล็ก High Tensile เชื่อมเป็นหนึ่งเดียวกัน เพื่อความแข็งแกร่งและปลอดภัยอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ระบบ NVH จะให้การขับขี่นุ่มนวล ดูดซับแรงสั่นสะเทือน พร้อมลดเสียงรบกวนตลอดเส้นทาง
ส่วนเรื่องความมั่นใจในความปลอดภัยในรถรุ่นนี้จะมีระบบถุงลมนิรภัย SRS คู่หน้า ระบบเบรก ABS ช่วยป้องกันไม่ให้ล้อล็อกขณะเบรกกะทันหัน พร้อมระบบ EBD ช่วยกระจายแรงเบรกได้อย่างสมดุล ระบบ ESP ที่ช่วยควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวให้เข้าโค้งได้อย่างแม่นยำ รวมทั้งระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน