เป็นครั้งแรกที่ทางบริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทย ได้เปิดตัวรถกระบะ MG EXTENDERในเมืองไทยที่เป็นตลาดหินมากแม้ว่าตลาดนี้จะมียอดจำหน่ายเยอะก็ตาม ทำให้หลายค่ายต้องม้วนเสื่อปิดฉากกันไป แต่ค่ายเอ็มจีได้โชว์ความเหนือด้วยกระบะพันธุ์ยักษ์ ที่ให้มากกว่าความแกร่งเพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับลูกค้าหลังจากประสบความสำเร็จในการทำตลาดรถยนต์นั่งกันไปแล้ว
MG EXTENDER เป็นรถที่สามารถตอบโจทย์ของลูกค้าที่กำลังมองหารถสำหรับการใช้งานและใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างลงตัว ในตอนนี้จะทำตลาดในกลุ่มรถกระบะแบบตอนครึ่ง หรือ Giant Cab และแบบ 2 ตอน หรือ Double Cab ซึ่งถูกพัฒนาให้มีความโดดเด่นทั้งในเรื่องรูปลักษณ์ด้วยขนาดมิติตัวถังขนาดใหญ่จึงช่วยเพิ่มปริมาณการบรรทุกได้มากกว่า ด้วยการออกแบบภายใต้แนวคิด BRIT Dynamicที่ให้ความโดดเด่นในด้านรูปลักษณ์และมิติตัวถังที่มีขนาดใหญ่
มาพร้อมโครงสร้างตัวถังแบบ FSF (Full Space Frame) แบบ Ultra-high Strength Body ด้วยโครงสร้างที่ใช้เทคโนโลยีการผลิตขั้นสูง Thermoforming Steel ในบริเวณเสา A ไปจนถึงเสา B และโครงสร้างโดยรวมใช้เหล็กแบบ High Strength Steel ที่มีความแข็งแกร่งสูง ช่วยเพิ่มความปลอดภัย และเสริมความมั่นคงในการขับขี่ พร้อมรับทุกสภาพการใช้งาน
มองด้านหน้าก็รู้ว่าเป็นเอ็มจีด้วยความแตกต่างด้านรูปลักษณ์ที่โดดเด่นของกระจังหน้าแบบโมเดิร์นดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ของเอ็มจี ในขณะที่ไฟหน้าเป็นแบบโปรเจคเตอร์ พร้อม Daytime Running Lights
การออกแบบค่อนข้างใส่ใจทั้งบันไดข้างและซุ้มล้อที่ช่วยได้เยอะเวลาจำเป็นต้องลุยป้องกับเศษดินกระเด็นมาโดนด้านข้างตัวรถได้เป็นอย่างดี ดอนล้างทำความสะอาดจึงช่วยทุ่นเวลาไปได้เยอะ
ตัวรถทั้งสูงและใหญ่แบบนี้มีมุมอับสายตาค่อนข้างเยอะทำให้กล้องมองภาพรอบทิศทางและกล้องมองหลังช่วยเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่พร้อมสัญญาณเตือนกะระยะด้านหลังและด้านหน้าที่ติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานช่วยลดจุดบอดเหล่านี้ไปได้และที่ต่างจากรถกระบะทั่วๆไปคือการออกแบบกันชนท้ายจะมีส่วนเว้าของตัวถังที่ออกแบบมารองรับทำให้ดูเป็นส่วนหนึ่งของตัวรถแทนที่จะเป็นส่วนเกินไป
ภายในห้องโดยสารกว้างขวางมากอีกทั้งยังได้ความสะดวกสบายไม่ต่างไปจากรถเอสยูวีรวมถึงการเก็บเสียงที่ทำได้ดีเยี่ยมจากการออกแบบฉนวนกันเสียง 9 จุด การออกแบบภายในสร้างความรู้สึกแข็งแกร่งสอดคล้องกับรูปลักษณ์ภายนอกโดยใช้โทนสีเข้มและเพิ่มความเรียบหรูด้วยวัสดุให้สัมผัสนุ่ม
แผงหน้าปัดดีไซน์สปอร์ตมาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น หน้าจอสีระบบสัมผัสขนาดใหญ่ 10 นิ้ว กุญแจระบบ Smart Key พร้อมปุ่ม Push Start และระบบปรับอากาศอัตโนมัติ
โดยในรุ่น GRAND 4WD สี่ประตูยังมาพร้อมเบาะปรับไฟฟ้าคู่หน้า เป็นเบาะหุ้มหนังผสมไวนีลสีดำเดนด้วยด้ายสีแดงจะเป็นเบาะนั่งที่ออกแบบมาค่อนข้างแข็งหน่อย
เบาะหลังมีพนักพิงที่เอนไปด้านหลังในองศาที่พอดีและสามารถพับได้มีช่องปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารด้านหลังมาไห้พร้อมจะได้ไม่ร้อนเวลาเจอแดดจัด
ขุมพลังในการขับเคลื่อนจะเป็นเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล ไดเร็คอินเจ็คชั่น 2.0 ลิตร พร้อมเทอร์โบแปรผัน ให้กำลังสูงสุด 161 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิด 375 นิวตันเมตร เป็นกำลังที่เพียงพอสำหรับใช้งานแม้จะต้องเจอกับตัวถังใหญ่ๆก็ตาม โดยรอบเครื่องยนต์ที่ใช้ก็ต่ำความเร็ว100กม./ชม.อยู่ที่1,700รอบ/นาที
ระบบส่งกำลังเป็นเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ที่สามารถปรับรูปแบบการขับขี่ได้ทั้ง ECO และ POWER เพื่อตอบสนองทุกการใช้งาน สิ่งที่ควรจะปรับเล็กน้อยก็คือการตอบสนองตอนออกตัวให้เร็วกว่านี้จะทำให้ขับสนุกขึ้นส่วนการเร่งแซงทำได้ดีอยู่แล้ว ในรุ่น GRAND 4WD สี่ประตูจะมีระบบขับเคลื่อนให้เลือกทั้งแบบ 2 ล้อและ 4 ล้อให้เหมาะกับรูปแบบการใช้งานได้อย่างลงตัวซึ่งมีโหมดการขับขี่ให้เหมาะกับสภาพถนน 3 รูปแบบ คือ 2H, 4H และ 4L
สะดวกสบายและมั่นใจในการขับขี่ในทุกสภาพถนนด้วยระบบช่วงล่างแบบ EUROPEAN TUNING SUSPENSION ที่ปรับช่วงล่างให้แข็งหน่อยทำให้ขาดความนุ่มสบายสำหรับรถสี่ประตูที่เน้นการใช้งานแบบรถเก๋ง ส่วนระบบความปลอดภัยมีการติดตั้งมาให้อย่างครบครัน รวมทั้งยังเป็นรถกระบะที่มาพร้อมระบบดิสก์เบรก 4 ล้อด้วย
ระบบกันสะเทือนด้านหน้าอิสระปีกนกคู่ ด้านหลังแหนบแบบซ้อนแผ่น ทำงานควบคู่กับช่วงล่างแบบ BRIT Dynamic ซึ่งให้ความนุ่มนวลในการขับขี่ในความเร็วต่ำ และให้ความมั่นคงในการขับขี่ที่ความเร็วสูง เพิ่มความปลอดภัยและมั่นใจในการใช้งาน
สิ่งที่เป็นหน้าเป็นตาสำหรับค่ายนี้ก็คือระบบปฏิบัติการ i–SMART เอกสิทธิ์เฉพาะสำหรับผู้ใช้รถยนต์เอ็มจี ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่กับรถสามารถเชื่อมต่อกันได้ เพื่อความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น การสั่งการ หรือ SMART Command ผ่านระบบสั่งการด้วยเสียงภาษาไทย ที่สามารถสั่งการให้โทรออก เปิด-ปิดหรือควบคุมระบบปรับอากาศ หน้าต่างฝั่งคนขับ ตลอดจนวิทยุภายในรถ รวมทั้งค้นหาจุดสนใจ นอกจากนี้ยังสามารถควบคุมหรือสั่งการระบบต่างๆ ผ่านหน้าจอทัชสกรีนภายในรถ หรือเลือกสั่งการบนสมาร์ทโฟนผ่าน MG Mobile Application การเชื่อมต่อ หรือ SMART Connect ที่สามารถเลือกฟังเพลงผ่าน Online Music ค้นหาร้านอาหารและที่พัก รวมทั้งเรียกดูข้อมูลข่าวสารและเหตุการณ์ปัจจุบันจากเว็บไซต์ดังได้บนหน้าจอในรถ และการตรวจเช็กรถ หรือ SMART Check โดยสามารถสั่งล็อกหรือปลดล็อกประตู ตรวจสอบตำแหน่งและค้นหารถ แจ้งความผิดปกติ และแจ้งสถานะการทํางานของรถ รวมถึงระบบช่วยค้นหาศูนย์บริการ นัดหมาย และบันทึกการดูแลรักษารถยนต์ตามระยะ