ต้องยอมรับว่าชอบสำหรับบีเอ็มดับเบิลยู F 900 R ที่ออกแบบมาเพื่อให้อิสระในการขับขี่ที่หลากหลายในไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ จึงเหมาะสำหรับการขับขี่ในชีวิตประจำวันรับได้ทั้งนักบิดสายสปอร์ตมากประสบการณ์หรือนักบิดมือใหม่ด้วยเทคโนโลยีในการขับขี่ที่ล้ำสมัยมากมายที่ช่วยให้เอาตัวรอดจากเหตุการณ์ไม่คาดคิดได้
ระบบที่เข้ามาช่วยโดยเราไม่รู้สึกก็จะมีทั้งระบบป้องกันการลื่นไถลของล้อหลัง (MSR) จากการชะลอตัวหรือลดเกียร์ โดยจะควบคุมและเปลี่ยนแปลงกำลังของเอนจิ้นเบรคตามสภาพการยึดเกาะของถนนและ Riding Mode ที่เลือกใช้งานอยู่ในขณะนั้น ระบบเบรก ABS Pro ที่บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราดนำมาติดตั้งในมอเตอร์ไซค์ขนาดมิดไซส์เป็นครั้งแรก มีจุดเด่นอยู่ที่การใช้เบรกหน้าแบบฉับพลันในจังหวะที่รถเอียงอยู่ในการเลี้ยวโค้งโดยไม่เสียเสถียรภาพการทรงตัว พร้อมระบบ Dynamic Brake Control (DBC) ที่ช่วยตัดกำลังขับและแรงดึงแปรผันจากเครื่องยนต์ในจังหวะที่ผู้ขับขี่ใช้เบรกแบบฉับพลัน
จึงชะลอความเร็วหรือหยุดรถได้เต็มประสิทธิภาพในเวลาน้อยที่สุด ระบบนี้ช่วยได้มากเวลาเจอโค้งที่ซ่อนอยู่ในโค้งจะสามารถใช้เบรกเพื่อลดความเร็วไม่ให้แกโค้งออกไป
เหนือกว่าด้วยระบบไฟหน้า LED ที่ปรับองศาตามการเลี้ยวโค้ง (Adaptive Cornering Light)ทำให้ช่วยเพิ่มความสว่างในโค้งได้เห็นสิ่งต่างๆได้ชัดเจนขึ้น
ระบบ Dynamic Traction Control (DTC) ป้องกันการลื่นไถลของล้อหลังและการยกตัวของล้อหน้าในจังหวะเปิดคันเร่งแบบฉับพลัน ป้องกันการยกตัวของล้อหลังในทุกสภาวะการขับขี่ ซึ่งจะเปลี่ยนค่าการทำงานตามโหมดการขับขี่และองศาการเอียงของรถใน Riding Modes Pro ที่ผู้ขับขี่ใช้ในขณะนั้น และระบบช่วงล่างไฟฟ้า Dynamic ESA ตรวจจับน้ำหนักบรรทุกในขณะขับขี่เพื่อปรับระดับของระบบช่วงล่างให้เหมาะสมกับทุกสถานการณ์ระบบเหล่านี้ช่วยได้มากเวลาขับขี่บนถนนเปียกลื่นหรือมีกรวดทรายตกหล่นอยู่บนถนน
ได้กำลังมาใช้งานอย่างเพียงพอด้วยเครื่องยนต์สองสูบแถวเรียงที่ให้กำลัง 73 กิโลวัตต์ (99 แรงม้า) แรงบิด 88 นิวตันเมตรที่ 6,750 รอบต่อนาที เป็นเครื่องยนต์ที่เพิ่มความจุเป็น 895 ซีซี จาก 853 ซีซีทำให้เรียกกำลังออกมาใช้ได้ทันท่วงทีโดยเฉพาะการแซงที่ไม่ด้องลุ้น พร้อมองศาการจุดระเบิดที่ 270/450 องศา และระบบเก็บเสียงแบบใหม่ มอบเสียงทรงพลังและเร้าใจยิ่งขึ้น ทั้งยังมาพร้อมระบบคลัทช์แบบ anti-hopping ไม่ต้องกำคลัทช์เปลี่ยนเกียร์ตอนรถวิ่งเพื่อมอบความปลอดภัยยิ่งขึ้นให้แก่ผู้ขับขี่โดยเฉพาะเมื่อต้องเปลี่ยนเกียร์เมื่ออยู่ในโค้ง
ในการขับขี่ครั้งแรกเริ่มต้นด้วยโหมดการขับขี่ ‘Rain’เพื่อสร้างความคุ้นเคยหลังจากนั้นขยับเป็น ‘Road’ รวมทั้ง Riding Modes Pro เพื่อให้เร้าใจยิ่งขึ้น มั่นใจในการขับขี่ด้วยระบบความปลอดภัยที่ติดตั้งมาด้วยระบบเบรก ABS Pro และระบบ ASC (Automatic Stability Control) ซึ่งสามารถเลือกเปิดหรือปิดได้ตามต้องการ พร้อมระบบ Dynamic Traction Control (DTC) ระบบ Dynamic Brake Control (DBC) และระบบ Dynamic ESA
เป็นปกติสำหรับรถในตระกูล F-Series บีเอ็มดับเบิลยู ที่ได้โครงสร้างเฟรมแบบเหล็กกล้าที่เสริมความแข็งแกร่งให้แก่เครื่องยนต์และถังน้ำมันซึ่งติดตั้งอยู่ด้านหน้าคนขับโดยฝาปิดถังน้ำมันเป็นแบบอัตโนมัติไม่ต้องใช้กุญแจไขเหมือนในรถยนต์แค่กดแล้วยกฝาถังน้ำมันขึ้นมาได้เลย
การตอบสนองของล้อหน้าทำได้อย่างฉับไวด้วยโช้คอัพแบบหัวกลับที่สามารถซับแรงกระแทกได้ดี มาพร้อมดิสก์เบรกคู่ของเบรมโบ้ที่วางใจได้กับระยะเบรกที่สั้น
ส่วนล้อหลังควบคุมด้วยสวิงอาร์มคู่อะลูมิเนียมที่ออกแบบสวิงอาร์มท้างด้านขวาให้โค้งขึ้นเล็กน้อยเพื่อหลบท่อไอเสียพร้อมระบบกันสะเทือนแบบ Central Suspension strutมีซับแท็งก์ติดมาให้ด้วย
บีเอ็มดับเบิลยู F 900 R วางตำแหน่งเบาะนั่งไม่ให้สูงมากที่ตอกย้ำถึงความเป็นโรดสเตอร์สปอร์ตปราดเปรียวแล้วยกพักเท้าให้สูงทำให้ไม่ต้านลมมากเมื่อใช้ความเร็วสูงๆซึ่งความเร็วสูงสุดรถรุ่นนี้ทำได้เกิน200กม./ชม.อยู่แล้ว
รูปลักษณ์ด้านหน้าที่คมชัดเพื่อโชว์สิ่งที่มีอยู่เพราะไม่มีแฟริ่งมาช่วยเสริมจึงได้ดีไซน์รูปทรงไฟหน้าดุดันเพื่อเป็นจุดเด่นในรถรุ่นนี้
การออกแบบส่วนท้ายรถที่สั้นและโฉบเฉี่ยว ล้วนสื่อถึงสมรรถนะความสปอร์ตอันทรงพลังอย่างแท้จริง จากการใช้ร่วมกันกับ F 900 XR ทำให้ด้านท้ายมีจุดยึดสำหรับการติดตั้งกล่องเก็บสัมภาระเพิ่มเติมได้
พวกข้อมูลต่างๆจะโชว์บนหน้าจอ TFT สีขนาด 6.5 นิ้วที่มีข้อมูลละเอียดไม่แพ้ในรถยนต์รวมถึงระบบเชื่อมต่อ BMW ConnectedRide ที่ให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานด้วย