บริดจสโตน ร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจ โฟล์กสวาเกน (Volkswagen) นำเสนอเทคโนโลยียางรถยนต์ที่มีน้ำหนักเบาสำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ID.3 เทคโนโลยี ENLITEN (เอ็นไลท์เทน) เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีความสามารถในการลดแรงต้านการหมุนของล้อเป็นพิเศษและยังใช้วัสดุในการผลิตน้อยลงอีกด้วย บริดจสโตนนำเทคโนโลยีนี้มาใช้เป็นครั้งแรกในยางรถยนต์รุ่น Turanza Eco ที่ได้รับการออกแบบทางวิศวกรรมมาเพื่อรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ID.3 อย่างแท้จริง
สิ้นสุดการรอคอยกับ ID.3 รถยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่นแรกของค่ายโฟล์กสวาเกน ที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาเพื่อให้ผู้ขับขี่ได้รับประโยชน์จากการขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า (e-mobility) ในทุกๆ วัน ซึ่งในช่วงการพัฒนารถยนต์พลังงานไฟฟ้า ID.3 นี้ โฟล์กสวาเกนได้เฟ้นหายางรถยนต์ที่มีสมรรถนะสูงทั้งบนพื้นถนนเปียกและถนนแห้ง, ประสิทธิภาพในการเบรคดี, มีอายุการใช้งานยาวนาน และสิ่งสำคัญที่สุดคือสามารถลดแรงต้านการหมุนของล้อได้อย่างดี เนื่องจากแรงต้านการหมุนของล้อจะมีผลต่อการใช้เชื้อเพลิงของรถยนต์เป็นอย่างมาก ซึ่งสำหรับรถยนต์ ID.3 ในที่นี้ คือระยะเวลาที่พลังงานแบตเตอรี่สามารถใช้งานได้
บริดจสโตนสามารถตอบสนองความต้องการเหล่านั้นทั้งหมดได้ด้วยยางรถยนต์ Turanza ที่พัฒนาด้วยเทคโนโลยี ENTILEN เทคโนโลยียางรถยนต์น้ำหนักเบาซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ของบริดจสโตน ที่เข้ามากำหนดมาตรฐานใหม่ของการลดแรงต้านการหมุนของล้อและการใช้วัสดุในการผลิตให้น้อยลง พร้อมส่งมอบประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งเหมาะสำหรับยานยนต์ที่สร้างสรรค์ขึ้นมาด้วยแนวคิดเพื่อความยั่งยืน
ยางรถยนต์จากเทคโนโลยี ENLITEN สามารถช่วยลดแรงต้านการหมุนของล้อได้ถึง 30 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับยางรถยนต์เกรดพรีเมี่ยมสำหรับฤดูร้อนทั่วไป1 จึงส่งผลให้รถยนต์ที่มีระบบสันดาปภายในสามารถลดการใช้เชื้อเพลิงและปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ พร้อมยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ในรถยนต์พลังงานไฟฟ้าได้อย่างดี ช่วยให้ผู้ขับขี่ ID.3 มั่นใจได้ว่าจะสามารถขับขี่รถยนต์ได้ยาวนานที่สุด นอกจากนี้ ยางรถยนต์จากเทคโนโลยี ENLITEN ยังช่วยประหยัดเชื้อเพลิงหรือแบตเตอรี่เพิ่มขึ้น จากน้ำหนักของยางรถยนต์ที่ลดลงถึง 20 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับยางรถยนต์เกรดพรีเมี่ยมสำหรับฤดูร้อนทั่วไป1 ซึ่งเทียบเท่ากับการลดการใช้วัสดุถึง 2 กิโลกรัมในการผลิตยางรถยนต์ 1 เส้น จึงถือเป็นอีกหนึ่งประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อมที่ได้จากการลดการใช้ทรัพยากรและการจัดการอายุการใช้งานของยางรถยนต์
ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยสมรรถนะที่เหนือชั้นของเทคโนโลยี ENLITEN การผสมผสานระหว่างการใช้วัสดุเอกสิทธิ์เฉพาะ บริดจสโตนและเทคโนโลยีกระบวนการผสมหน้ายางที่ได้เพิ่มขีดความสามารถของความทนทานต่อการสึกของเนื้อยาง โดยไม่ลดทอนสมรรถนะการยึดเกาะถนน และเมื่อรวมกับการออกแบบร่องและลายดอกยาง 3 มิติที่เพิ่มสมรรถนะบนพื้นเปียกและทนต่อการสึกแล้ว เทคโนโลยี ENLITEN ยังช่วยเพิ่มสุนทรียภาพในการขับขี่ ตอบโจทย์การเพิ่มสมรรถนะของรถยนต์ไฟฟ้า Volkswagen ID.3 ได้อย่างแท้จริง