เอ็ม เอ เอ็น ทรัค แอนด์ บัส ประเทศไทย พร้อมก้าวสู่การเป็นแบรนด์รถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์สัญชาติยุโรปที่เติบโตเป็นอันดับหนึ่งควบคู่ไปกับตลาดโลจิสติกส์ไทยด้วยการนำเสนอผ่านผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐานและมีคุณภาพระดับโลก พร้อมส่งไฮไลท์รถบรรทุกหัวลาก MAN รุ่น TGS แบบ 10 ล้อ ทั้งหมด 3 รุ่นย่อย ประกอบด้วย 1.TGS 6×4 360 แรงม้า 2.TGS 6×4 400 แรงม้า 3.TGS 6×4 440 แรงม้า ที่มาพร้อมความโดดเด่นของเครื่องยนต์อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบเรียง ขนาด 10,518 ซีซี สุดประหยัด มีความแข็งแรงทนทานและเทคโนโลยีระดับชั้นนำได้รับการผลิตและนำเข้าทั้งหมดเป็น CBU 100% โดยตรงจากประเทศเยอรมนี ชิงส่วนแบ่งพื้นที่ตลาดควบคู่ไปกับการขยายตัวแทนจำหน่ายและศูนย์บริการหลังการขายอันเป็นไปตามมาตรฐานครอบคลุมทั่วประเทศ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความไว้วางใจแก่กลุ่มลูกค้าทั้งในปัจจุบันและในอนาคตให้ได้รับความพึงพอใจสูงสุดอันเป็นหัวใจสำคัญ
นายจักรพงษ์ ศานติรัตน์ ผู้อำนวยการเอ็ม เอ เอ็น ทรัค แอนด์ บัส ประเทศไทย เปิดเผยว่า “เอ็ม เอ เอ็น” (MAN) เตรียมลุยตลาดรถบรรทุกไทยเต็มสูบ พร้อมส่งไฮไลท์รถบรรทุกหัวลาก MAN รุ่น TGS 6×4 แบบ 10 ล้อ แบบหัวเก๋ง แบบ L และแบบ LX หรือหลังคาสูง ทั้งหมด 3 รุ่นย่อยประกอบไปด้วย 1.TGS 6×4 360 แรงม้า 2.TGS 6×4 400 แรงม้า 3.TGS 6×4 440 แรงม้า ให้เลือกสรรตามวัตถุประสงค์การใช้งาน โดยทุกคันมาพร้อมความโดดเด่นของเครื่องยนต์อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบเรียง ขนาด 10,518 ซีซี ขับเคลื่อนด้วยระบบลหัวฉีดแบบคอมมอนเรล พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์เทอร์โบชาร์จ ด้านระบบเกียร์เป็นแบบ 12 เกียร์เดินหน้า 2 เกียร์ ถอยหลัง ทำงานแบบกึ่งอัตโนมัติด้วยระบบการเปลี่ยนเกียร์อัตโนมัติแบบ TipMatic แบบ Smartshifting ที่ทำให้การปรับเปลี่ยนเกียร์เป็นไปอย่างแม่นยำรวดเร็วที่มาพร้อมกับระบบการตรวจบรรทุกน้ำหนัก (Load Detection) ของตัวรถที่จะช่วยทำการเลือกเกียร์ที่เหมาะสมในการออกตัวและในสถานการณ์ต่างๆ โดยคำนึงถึงน้ำหนักของตัวรถและน้ำหนักบรรทุก ด้านระบบเบรค MAN BrakeMatic เป็นระบบเบรคล้อแบบลมล้วนควบคุมด้วยอิเลคโทรนิคแบบดิสค์เบรคทั้งด้านหน้าและด้านหลังติดตั้งมาพร้อมกับระบบป้องกันล้อล็อคอัตโนมัติ (ABS) และระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน (MAN EasyStart) เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน นอกจากนี้ยังมาพร้อมระบบรองรับน้ำหนักของตัวรถทั้งเพลาหน้าและเพลาหลังเป็นแบบแหนบ (Parabolic Leaf Spring) พร้อมกับโครง เพื่อให้การรองรับน้ำหนักและการทรงตัวเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะที่การบริการหลังการขายผลิตภัณฑ์มีการรับประกันคุณภาพของตัวรถทั้งคัน 12 เดือน โดยไม่จำกัดระยะทาง และการรับประกันระบบขับเคลื่อน 24 เดือน โดยไม่จำกัดระยะทางพร้อมกันกับบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน Roadside Assistance 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 24 เดือนโดยไม่จำกัดระยะทางเช่นกัน ส่วนด้านอะไหล่มีการรับประกันคุณภาพของอะไหล่ 24 เดือน โดยไม่จำกัดระยะทาง ตลอดจนมีช่างเทคนิคที่ผ่านการฝึกอบรมตามมาตรฐานของเอ็ม เอ เอ็น เพื่อสร้างความมั่นใจสูงสุดแก่ลูกค้า
นายจักรพงษ์ กล่าวต่อว่า “เอ็ม เอ เอ็น ทรัค แอนด์ บัส” (MAN Truck & Bus) เป็นหนึ่งในผู้นำด้านการผลิตรถยนต์เพื่อการพาณิชย์และให้บริการขนส่งของยุโรป ด้วยขอบข่ายผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมตั้งแต่รถตู้ รถบรรทุก รถบัส ไปจนถึงเครื่องยนต์ดีเซลและเครื่องยนต์ที่ใช้แก๊ส ตลอดจนบริการที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งมวลชนและสินค้า โดยย้อนหลังไปราว 260 ปี เอ็ม เอ เอ็น ได้มีส่วนอย่างมากในการปฏิวัติโลกยุคใหม่ ส่วนหนึ่งมาจากให้การสนับสนุนและร่วมมือประดิษฐ์คิดค้นเครื่องยนต์ดีเซลสำเร็จเป็นครั้งแรกของโลกโดย รูดอล์ฟ ดีเซล ในปี ค.ศ.1893 ซึ่งเครื่องยนต์ดังกล่าวได้ถูกเรียกตามชื่อผู้ประดิษฐ์ว่า “เครื่องยนต์ดีเซล” และทำให้เครื่องยนต์ดีเซลได้กลายเป็นชิ้นส่วนหลักในรถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์ทั่วโลก
ปัจจุบันตลาดรถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์ในประเทศไทยสามารถแบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ ประกอบด้วย รถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์แบรนด์สัญชาติเอเชียมีสัดส่วนประมาณ 95% ตามมาด้วยกลุ่มรถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์แบรนด์สัญชาติยุโรป ประมาณ 5% ซึ่งมองถึงสัดส่วนของกลุ่มรถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์แบรนด์สัญชาติยุโรปพบว่ายังมีช่องทางการเติบโต ทำให้เอ็ม เอ เอ็น ตั้งเป้าหมายที่ในฐานะแบรนด์รถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์สัญชาติยุโรปที่มีการเติบโตเป็นอันดับหนึ่งของประเทศไทยอย่างยั่งยืนควบคู่ไปกับการสร้างความเชื่อมั่นและความไว้วางใจแก่กลุ่มลูกค้าทั้งในปัจจุบันและในอนาคตให้ได้รับความพึงพอใจสูงสุดอันเป็นหัวใจสำคัญ ทั้งหมดนี้ทำให้มั่นใจว่าเอ็ม เอ เอ็น จะเป็นหนึ่งในแบรนด์รถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าทั่วประเทศ นายจักรพงษ์ กล่าวสรุป