ฮอนด้า แอคคอร์ดเจนเนอเรชั่นที่ 9 มีการปรับเปลี่ยนที่ทำให้แอคคอร์ดรุ่นนี้มีความหรูหรา สะดวกสบาย รวมถึงความปลอดภัยที่ใส่ไว้มากขึ้น โดยทำการปรับความยาวตัวถังและฐานล้อให้มีขนาดกะทัดรัดมากขึ้นเพื่อความคล่องตัว แต่ยังคงความกว้างของห้องโดยสารเอาไว้เช่นเดิม
ฮอนด้า แอคคอร์ด 2.4 เทค ซึ่งเป็นรุ่นท็อปสุด ใส่ออพชั่นมาให้เยอะ เป็นครั้งแรกที่ฮอนด้าแอคคอร์ดได้ติดตั้งไฟหน้าแบบ LED ไว้ในรถขนาดนี้ พร้อมกับไฟ LED ส่องสว่างในการขับขี่ตอนกลางวันเพื่อความปลอดภัยมากขึ้นแบบรถยุโรป เส้นสายของตัวรถจะถูกกดให้ต่ำลง เพื่อให้ขอบหน้าต่างอยู่ในระดับต่ำ ทำให้การมองเห็นของคนในรถดีขึ้น ซึ่งรถส่วนใหญ่พยายามยกขอบหน้าต่างให้สูงเหลือพื้นที่กระจกเพียงน้อยนิด เป็นการสร้างจุดบอดในการมองเห็นมากขึ้น กระจกหน้าก็ถูกออกแบบให้เก็บเสียงดีขึ้น เวลาเจอฝนจะได้ยินเสียงน้อยลง
ถึงตัวถังจะมีขนาดเล็กกว่าเดิม ฐานล้อสั้นกว่าเดิม แต่ภายในถูกออกแบบให้มีความกว้างมากที่สุด เพื่อให้คนที่นั่งในห้องโดยสารรู้สึกปลอดโปร่งเรื่องแบบนี้ฮอนด้าถนัดอยู่แล้ว เห็นได้จากรถฮอนด้าซีวิคในปี 84 มีขนาดตัวถังเล็กมาก ฝรั่งเห็นยังส่ายหัว แต่พอไปนั่งข้างในกลับกว้างกว่าที่คิดเยอะ
เบาะนั่งไม่หนาแต่กว้างเวลาขึ้นไปนั่งจะรู้สึกสบายกว่ารุ่นก่อน โดยเฉพาะพนักพิงศีรษะที่อยู่ห่างจากศีรษะมากขึ้น หากเป็นรุ่นที่แล้วจะอยู่ติดศีรษะตลอด ทำให้รู้สึกรำคาญเวลาขับรถ ระยะห่างของเบาะหน้ามีมากพอสมควร เห็นได้จากคอนโซลกลางเบาะที่มีพนักวางแขนมาให้จะสามารถวางได้ทั้งสองฝั่งแบบสบายๆ มีการตกแต่งด้วยลายไม้ เสริมความหรูหรามากขึ้น เบาะหลังจะมีพนักพิงที่ปรับพับลงมาได้ด้วยเช่นกัน
ตรงกลางแผงคอนโซลจะมีจอแสดงผลขนาด 8 นิ้วแบบจอสัมผัส โดยมีจอแยกกัน ปุ่มควบคุมต่างๆ เน้นใช้งานง่าย เวลาขึ้นไปนั่งจะเห็นเสาหน้าที่บางลงทำให้ลดการบดบังสายตาไปได้ส่วนหนึ่ง เวลาจับพวงมาลัยจะได้สัมผัสกับพวงมาลัยที่มีวงเล็กลง ใช้การหุ้มด้วยหนังคุณภาพสูง ซ่อนตะเข็บเอาไว้ไม่ให้รู้สึกถึงรอยต่อ เป็นพวงมาลัยที่มีปุ่มควบคุมติดตั้งเอาไว้มากขึ้น
เครื่องยนต์ 2.4 ลิตร จะให้กำลังสูงสุด 174 แรงม้าที่ 6,200 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 225 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที ใช้ระบบส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด พร้อมระบบช่วยในการออกตัวเวลาอยู่บนทางลาดชันใช้การกดปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์รุ่นใหม่ก็ทำงาน เป็นเครื่องยนต์ที่ติดตั้งกลับด้านจากเดิม กลับมาอยู่ในแบบปกติแล้วโดยหันท่อไอเสียออกด้านนอก เครื่องยนต์เอิร์ธดรีมรุ่นใหม่จะมีน้ำหนักเบากว่าเดิม 10 กก. ใช้ระบบเปิด-ปิด วาล์วแปรผันพร้อมระบบวีเทคในน้ำมัน อี 85 ได้
สิ่งที่เห็นชัดเจนคือความต่อเนื่องในการเร่งตั้งแต่ออกตัว สามารถทำความเร็วได้ไหลลื่นแบบไม่ติดขัด ไม่ต้องกดคันเร่งเยอะก็คุมความเร็วได้ ทำให้เวลาเข้าโค้งยาวๆ รถจะไม่มีอาการคุมยาก สามารถเร่งผ่านได้จนถึงปลายโค้งเสียงภายนอกเงียบลงช่วงล่างทำงานดีขึ้น ซับแรงกระแทกได้ดีจากการเปลี่ยนระบบกันสะเทือนหน้าเป็นแม็คเฟอร์สันสตรัท ด้านหลังเป็นแบบมัลติลิงค์เห็นได้ถึงความนุ่มและความหนึบที่ต่างจากรุ่นที่แล้วเป็นผลมาจากการใช้ทีมแข่งฟอร์มูล่าวันมาช่วยกันออกแบบ
ออฟชั่นสำหรับรุ่นท็อปมีให้เยอะทั้งระบบสัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน ระบบเตือนการชนด้านหน้าด้วยเรดาห์ พร้อมระบบช่วยเบรก ฮอนด้าเลนวอท์ชแสดงภาพของมุมอับสายตาทางด้านซ้ายผ่านจอแสดงผลจากกล้องที่ติดไว้ตรงกระจกมองข้างด้านซ้าย ไฟส่องสว่างด้านข้างอัตโนมัติเพิ่มความสว่างเวลาเลี้ยวตอนกลางคืน กล้องส่องภาพด้านหลังที่ปรับมุมมองได้ 3 ระดับและแอคทีฟ ครูส คอนโทรล