ฮอนด้า โดย บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด และ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ผนึกกำลังต่อเนื่อง จัดเต็มไลน์อัปผลิตภัณฑ์ ทั้งรถยนต์ รถจักรยานยนต์ เครื่องยนต์อเนกประสงค์ (Power Products) ในงาน Motor Show 2025 ตอกย้ำความเป็นแบรนด์ที่อยู่เคียงข้างสังคมไทย ที่พร้อมสร้างความสุขและขับเคลื่อนการใช้ชีวิตอย่างอิสระในหลากหลายรูปแบบผ่านผลิตภัณฑ์และบริการ
มร.ยูอิจิ ชิมิซุ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด กล่าวว่า “ในโอกาสที่ปีนี้ ไทยฮอนด้าครบรอบ 60 ปี เพื่อเป็นการขอบคุณและสร้างความพิเศษให้กับทุกท่าน รถจักรยานยนต์ฮอนด้ามุ่งมั่นที่จะส่งมอบคุณค่าใหม่ ๆ ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ผสานกับนวัตกรรมล้ำสมัยเพื่อยกระดับประสบการณ์การขับขี่ในทุกการเดินทางด้วยกันถึง 9 รุ่น ด้วยกัน”
ในส่วนของผลิตภัณฑ์ไลน์อัป Honda Technology นำโดย “New Honda CUV e:” รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าที่มาพร้อมคอนเซปต์ ‘Smart Ride, Future Ready’ โดดเด่นด้วยดีไซน์ล้ำสมัยรอบคัน มาพร้อมกับไฟหน้าและไฟท้ายแบบไฟ LED เสริมประสิทธิภาพการขับขี่ด้วยเทคโนโลยี Honda RoadSync duo (เฉพาะรุ่น Connectivity) และระบบช่วยถอยหลัง ที่จะช่วยให้การขับขี่สะดวกสบายยิ่งขึ้น ตามด้วยหน้าจอแสดงผล TFT ที่มีขนาดใหญ่ถึง 7 นิ้ว (เฉพาะรุ่น Connectivity, รุ่น Standard ขนาด 5 นิ้ว) รองรับทุกการขับขี่ทั้งหมด 3 โหมด ได้แก่ โหมดการขับขี่แบบสปอร์ต (Sport Mode) โหมดการขับขี่แบบประหยัด (ECON Mode) และโหมดการขับขี่แบบปกติ (Normal Mode) อีกทั้งยังมอบความเร็วสูงสุด 83 กม./ชม. สามารถวิ่งได้ในระยะทางมากกว่า 70 กม. ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า “New Honda CUV e:” พร้อมเปิดให้เช่าใช้บริการ ทั้ง 2 รุ่น ได้แก่ รุ่น Standard และรุ่น Connectivity มีให้เลือกทั้งหมด 2 สี ได้แก่ สีดำ (Mat Gunpowder Black Metallic) และ สีขาว (Pearl Jubilee White) สำหรับผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนรับสิทธิ์เป็นผู้เช่าในราคาพิเศษเฉพาะในงานบางกอกมอเตอร์โชว์ 2025 จำกัดจำนวนเพียง 100 สิทธิ์เท่านั้น
ตามด้วยเทคโนโลยี Honda E-Clutch ที่ได้ถ่ายทอดลงสู่คลาส 300 ซีซี ถึง 2 รุ่นอย่าง “New Honda CL300” รถจักรยานยนต์ Scrambler สไตล์สายลุยแบบคลาสสิก และ “New Honda Rebel300” รถจักรยานยนต์คัสตอมบ็อบเบอร์ ที่ได้เพิ่มเทคโนโลยีควบคุมระบบคลัตช์ด้วยไฟฟ้า เปลี่ยนเกียร์ได้อย่างลื่นไหล โดยไม่ต้องกำคลัตช์ ทำให้การขับขี่รถสปอร์ตเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นและช่วยเพิ่มประสบการณ์การขับขี่ที่สนุกยิ่งขึ้น “New Honda CL300” พร้อมวางจำหน่ายสีดำ (Mat Gunpowder Black) เปิดตัวในราคาแนะนำที่ 159,900 บาท และ “New Honda Rebel300” พร้อมวางจำหน่าย สีดำ (Pearl Shining Black) ราคาแนะนำที่ 159,900 บาท
รวมถึง “New Honda ADV350” รถจักรยานยนต์ SUV Bike ที่พัฒนานำเทคโนโลยีหน้าจอแสดงผล TFT ใหม่ ขนาด 5 นิ้ว พร้อมระบบการเชื่อมต่อที่ทันสมัยอย่าง Honda RoadSync รองรับทุกความต้องการของผู้ขับขี่ และปุ่มคอนโทรลเลอร์ดีไซน์ใหม่ แบบมัลติฟังก์ชันสั่งการได้หลายระดับ ให้สมรรถนะการขับขี่ที่ดีเยี่ยม รุ่น Standard Type พร้อมวางจำหน่าย 3 สี ได้แก่ สีแดง-ดำ CANYON RED, สีน้ำเงิน OCEAN BLUE และสีดำ CHARCOAL BLACK ราคาแนะนำที่ 189,900 บาท
นอกจากรุ่น Standard แล้ว ฮอนด้ายังได้นำเสนอ Special Edition จากสำนักแต่ง H2C by Honda ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์สายแอดเวนเจอร์ตัวจริง เสริมความเท่อีกระดับด้วยชุดอุปกรณ์แต่งรอบคันถึง 11 ชิ้น รุ่น “New Honda ADV350 Unstoppable Touring Edition” พร้อมวางจำหน่ายในราคาแนะนำที่ 204,400 บาท
และขอแนะนำ อีกหนึ่งโมเดลเรือธงที่ทุกคนรอคอยในคลาส 750 Series กับ “New Honda Forza750” บิ๊กสกู๊ตเตอร์เรือธงที่มาพร้อมสมรรถนะที่เหนือคลาสด้วยเครื่องยนต์ 750 ซีซี OHC 4 วาล์ว 2 สูบเรียง ผสานเทคโนโลยี Dual Clutch Transmission (DCT) เปลี่ยนเกียร์สมูทไม่ต้องกำคลัตช์ ส่งตรงดีเอ็นเอความแรงจากรถบิ๊กไบค์สู่ท้องถนน มาพร้อมหน้าจอแสดงผล TFT ขนาด 5 นิ้ว ปรับดีไซน์ใหม่ให้ตอบโจทย์การมองเห็นที่ชัดเจนยิ่งขึ้น รองรับการเชื่อมต่อกับระบบ Honda RoadSync พร้อมปรับโหมดการขับขี่ได้ถึง 4 โหมด (Standard, Rain, User, Sport) ให้การควบคุมรถมีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น อีกทั้งตอบโจทย์สายทัวร์ริ่งด้วยระบบ Cruise Control ช่วยควบคุมความเร็วอัตโนมัติเหมาะสำหรับการขับขี่ทางไกลและในเมืองได้อย่างดีเยี่ยม New Honda Forza750 มาในดีไซน์โฉมใหม่ สปอร์ต ดุดัน แต่ยังคงความพรีเมียมไว้ได้อย่างลงตัว โฉบเฉี่ยวด้วยไฟหน้า LED โคมคู่ พร้อม Daytime Running Lights (DRL) ให้ความสปอร์ตเต็มขั้นด้วยไฟเลี้ยวแบบ Built-in ให้การขับขี่มั่นใจด้วยล้อหน้าขนาด 17 นิ้ว และล้อหลังขนาด 15 นิ้ว พร้อมโช้กหน้าหัวกลับขนาด 41 มม. ที่ช่วยเพิ่มความนุ่มนวลและมอบการทรงตัวที่มั่นคง รวมถึงกระจกบังลมไฟฟ้าอัตโนมัติขนาดกว้างขึ้นถึง 25% ปรับความสูงได้ถึง 120 มม. New Honda Forza750 พร้อมวางจำหน่าย 3 สีใหม่ ได้แก่ สีน้ำตาล (Matte Warm Ash Metallic) สีดำ (Matte Ballistic Black Metallic) และสีเทา (Iridium Gray Metallic) ราคาแนะนำที่ 419,000 บาท
ตามด้วย “New Honda CB1000 Hornet SP” ซูเปอร์ Naked ไบค์ระดับท็อปคลาส ผสานความแรงจากสนามแข่งเข้ากับการออกแบบที่ดุดันในแบบสปอร์ต Naked ให้ความแรงที่สุดในคลาสด้วยเครื่องยนต์ 1000 ซีซี 4 สูบเรียง พร้อมไปทุกเส้นทางด้วยโช้ก Öhlins ปรับได้เต็มรูปแบบควบคุมรถได้ดั่งใจ พร้อมปั๊มเบรก Brembo ให้ความแม่นยำทุกครั้งที่หยุดรถ ควบคุมง่ายดั่งใจด้วย Quick Shifter ที่ปรับได้ 3 ระดับ ระบบคันเร่งไฟฟ้า (Throttle-by-Wire), Riding Mode ที่ปรับได้ถึง 5 โหมด และ Honda Selectable Torque Control (HSTC) ที่ช่วยควบคุมการหมุนล้อหน้าและล้อหลังให้สัมพันธ์กัน แสดงผลด้วยเทคโนโลยีหน้าจอ TFT ขนาด 5 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟนผ่านแอปพลิเคชัน Honda RoadSync พร้อมไฟแบ็กไลท์ที่แฮนด์บาร์ใช้งานสะดวก เชื่อมต่อได้ทุกเส้นทาง New Honda CB1000 Hornet SP พร้อมวางจำหน่าย ‘สีดำ MAT BALLISTIC BLACK METALLIC’ ในราคาแนะนำที่ 489,000 บาท
สำหรับสาย Fashion A.T. เปิดตัวด้วยโมเดลสุดเอกซ์คลูซีฟ “All New Honda Scoopy x Kuromi Limited Edition” เป็นการ Collab ครั้งแรกของรุ่น All New Honda Scoopy ในโอกาสฉลองครบรอบ 20 ปี ของ Kuromi ตัวร้ายสุดแสบจาก Sanrio มาพร้อมคอนเซปต์สุดซ่าอย่าง “The ICONIC Sassiness เพื่อนตัวป่วน ชวนไปสุดเทรนด์” นำเสนอความแสบซนด้วยสีดำ-ม่วง สีเอกลักษณ์ของ Kuromi พร้อมลวดลายตัวป่วนทั่วทุกมุมรถ โดดเด่นด้วยสติกเกอร์ 3D Emblem ครบรอบ 20 ปี และเสริมความลิมิเต็ดขั้นสุดกับสติกเกอร์ Serial Number รันเลขที่ตั้งแต่ 0001 – 2000 คัน มาพร้อม Box set สุดป่วน ได้แก่ Honda Smart Key พร้อมเคสลาย Kuromi ครบรอบ 20 ปี อีกทั้งหมวกกันน็อก และเสื้อยืดแขนยาวลาย Kuromi แมตช์กับสีรถได้อย่างลงตัว สำหรับ All New Honda Scoopy x Kuromi Limited Edition ผลิตจำนวนจำกัด 2,000 คันเท่านั้น ราคาแนะนำที่ 60,800 บาท พร้อมเปิดรับจองที่งานบางกอกมอเตอร์โชว์ 2025 เป็นที่แรก และ Honda Wing Center ทุกสาขา
ตามมาด้วย “New Honda Lead125” เปิดตัวสีเทาใหม่ ‘Matte Gray’ เติมความมินิมอลให้ลงตัว กับ Special Edition สีเทาแมทท์ มาพร้อมคอนเซปต์ “Minimal Matters ชีวิตลงตัวแน่ แค่มินิมอล” ที่มาพร้อม Emblem สีแดงอันเป็นเอกลักษณ์ โดดเด่นด้วยหน้ากากด้านหน้า เสริมลุคสปอร์ตด้วยโช้ก และคาลิปเปอร์เบรกสีแดง รวมถึงล้อสีดำด้านเสริมลุคสปอร์ตให้ชัดเจนขึ้น ไฟท้าย LED ฟังก์ชันครบครันตอบโจทย์คนเมือง New Honda Lead125 รุ่น Special Edition พร้อมวางจำหน่ายสีเทาใหม่ (Matte Gray) พร้อมกับ สีดำ (Black) ในราคาแนะนำ 62,500 บาท
พร้อมกันนี้ เนื่องในโอกาสครบรอบ 60 ปี ไทยฮอนด้า ขอนำเสนอโมเดลพิเศษเพื่อเฉลิมฉลองไปกับ “New Honda Monkey Chrome Legacy” รุ่น Limited Edition ที่คัสตอมขึ้นมาพิเศษ โดดเด่นด้วยสีโครเมียมทั้งคัน ตั้งแต่ตัวถังน้ำมันโครเมียมสวยสะดุดตาสไตล์กคลาสสิก และฝาครอบข้างที่เป็นโครเมียม ตัดกับเบาะหนังสีดำที่โชว์หมุดสแตนแลสให้ความหรูหราคลาสสิก พร้อมแสดงเอกลักษณ์ความซนในตำนานกับ 3D Soft Emblem โลโก้เจ้าลิงซนครบรอบ 60 ปีไทยฮอนด้า เสริมความลิมิเต็ดด้วย Chrome Edition Serial Number รันเลขตามจำนวนคันที่ผลิต พิเศษ! มาพร้อมกับหมวกกันน็อกสีเงินเมทัลลิค ที่เข้าเซ็ตกับตัวรถได้อย่างลงตัว เปิดตัวในราคาแนะนำที่ 117,000 บาท โดยเปิดพรีออเดอร์ในงานบางกอกมอเตอร์โชว์ 2025 และสามารถจองได้ที่ CUB House Flagship Store ทุกสาขา ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2568 – 6 เมษายน 2568 เท่านั้น
นอกจากนี้ ไทยฮอนด้ายังแสดงวิสัยทัศน์แห่งอนาคต พร้อมกับเดินหน้าขยายธุรกิจสู่ตลาดเครื่องยนต์เรือ ด้วยการนำเครื่องยนต์เรือ Outboard Engine รุ่น “All New Honda BF250 V6” ที่เปิดตัวไปเมื่อไม่นานมานี้ นำมาจัดแสดงภายในงานบางกอกมอเตอร์โชว์ 2025 ครั้งนี้อีกด้วย