เควิน เกีก (Kevin Giek) รองประธานฝ่ายบริหารรถปอร์เช่โมเดลไทคานน์ (Taycan) กล่าวว่า “ทุกสนามแข่งรถมีความท้าทายเฉพาะตัว นั่นแสดงให้เห็นว่า ไทคานน์ เทอร์โบ จีที ที่มาพร้อมไวซาค แพ็คเกจ (Taycan Turbo GT with Weissach package) มีความสมบูรณ์เพียงใด เราจึงตั้งเป้าที่จะทำลายสถิติใน 3 สนามแข่งที่แตกต่างกันทั่วโลก เราทำผลงานได้ดีจากทั้ง 3 สถานที่ โดยทำเวลาได้ดีที่สุดในภูมิภาคอีเฟบ (Eifel) ของประเทศเยอรมนี, แคลิฟอร์เนีย (California) และจีน (China) นี่คือข้อพิสูจน์ถึงความสำเร็จของไทคานน์ (Taycan) ในระดับนานาชาติเส้นทางที่เหลือของการขับทดสอบในสนามก็ตื่นเต้นเร้าใจมากเช่นกัน ผมเห็นความเร็วบนมาตรวัดที่จุดที่เร็วที่สุด ขึ้นไปถึง 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ระบบขับเคลื่อนของ ไทคานน์ เทอร์โบ จีที (Taycan Turbo GT) ที่ออกแบบมาสำหรับแรงยึดเกาะและสมรรถนะสูงสุด ได้พิสูจน์ตัวเองอีกครั้งบนสนามแข่ง”
นอกจากนี้ โหมดการโจมตี (attack mode) ยังแสดงประสิทธิภาพที่ดีเยี่ยม บนสนามฟอร์มูล่า 1 ได้อย่างโดดเด่นอีกด้วย ด้วยฟังก์ชันเพิ่มพละกำลังนี้ สามารถใช้พลังงานสูงสุดได้ถึง 120 กิโลวัตต์ เป็นเวลา 10 วินาที.1 ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย รถที่นำมาทดสอบเพื่อทำลายสถิตินี้ จึงมีอุปกรณ์ความปลอดภัยเต็มรูปแบบ รวมถึงกรงและที่นั่งแข่ง การปรับเปลี่ยนดังกล่าวทำให้น้ำหนักรวมเพิ่มขึ้น โดยไม่สามารถที่จะถอดชิ้นส่วนของอุปกรณ์ภายในออกได้ นอกจากนี้ยังมีการติดตั้งยาง Pirelli Trofeo RS ที่มีให้เลือกใช้สำหรับการทำลายสถิติต่อรอบ
ปอร์เช่ (Porsche) ได้เดินหน้าขยายกลุ่มรถสปอร์ตพลังงานไฟฟ้า อย่าง รุ่นไทคานน์ เทอร์โบ จีที (Taycan Turbo GT) และ ไทคานน์ เทอร์โบ จีที ที่มาพร้อมไวซาค แพ็คเกจ (Taycan Turbo GT with Weissach package) อันแสนพิเศษนี้ในช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 2024 โดยจะใช้อินเวอร์เตอร์พัลส์ที่มีประสิทธิภาพและกำลังสูงขึ้น ซึ่งใช้วัสดุเซมิคอนดักเตอร์ อย่างซิลิคอนคาร์ไบด์เป็นเพลาล้อหลัง ทำให้ทั้ง 2 รุ่นสามารถเพิ่มพลังงานสูงสุดระยะสั้น ได้สูงสุดเกิน 1,100 แรงม้าด้วยหลักการสร้างสรรค์อันชาญฉลาดที่เน้นเรื่องหลักการน้ำหนักเบา ปอร์เช่ (Porsche) สามารถลดน้ำหนักของ ไทคานน์ เทอร์โบ จีที (Taycan Turbo GT) ลงได้ถึง 75 กิโลกรัม เมื่อเปรียบเทียบกับ ไทคานน์ เทอร์โบ เอส (Taycan Turbo S) เพราะใช้ชิ้นส่วนคาร์บอนหลายชิ้น ในส่วนของไทคานน์ เทอร์โบ จีที ที่มาพร้อมไวซาค แพ็คเกจ (Taycan Turbo GT with Weissach package) ถูกสร้างขึ้นโดยมุ่งเน้นเพื่อการใช้ในสนามแข่งเป็นหลัก โดยถอดที่นั่งด้านหลังออกเพื่อแลกกับอัตราส่วนกำลังต่อน้ำหนักที่ดีขึ้น
ระบบกันสะเทือนแบบแอคทีฟ (Porsche Active Ride) ที่มีการปรับแต่งเฉพาะสำหรับ GT รวมอยู่ในรุ่นมาตรฐานทั้งสองรุ่น ในสถานการณ์การขับขี่ที่มีความท้าทาย ระบบกันสะเทือนนี้ช่วยให้การเชื่อมต่อกับถนนแทบจะสมบูรณ์แบบ โดยมีการกระจายน้ำหนักล้ออย่างสมดุล ไทคานน์ เทอร์โบ จีที (Taycan Turbo GT) และ ไทคาน์ เทอร์โบ จีที ที่มาพร้อมไวซาค แพ็คเกจ (Taycan Turbo GT with Weissach package) มีจำหน่ายในประเทศไทย ในราคาเริ่มต้นที่ 14.49 ล้านบาทต่อคัน