บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เผยผลประกอบการประจำปี 2563 ย้ำความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ลักชัวรีระดับโลกด้วยยอดขายทั่วโลกเกิน 2 ล้านคันติดต่อกันเป็นปีที่ 5 ส่วนในประเทศไทย ยอดขาย “เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี” ก็เติบโตขึ้น 14.9% โดยเฉพาะในไตรมาส 4 ที่เติบโตขึ้นถึง 33.9% แสดงให้เห็นว่าความต้องการขับรถยนต์สมรรถนะสูงจากเมอร์เซเดส-เบนซ์ยังคงเพิ่มขึ้น
มร. โรลันด์ โฟล์เกอร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ในตลาดโลก เมอร์เซเดส-เบนซ์ยังคงสามารถรักษายอดขายได้มากกว่า 2 ล้านคันติดต่อกันเป็นปีที่ 5 ด้วยยอดขาย 2,528,349 คัน นอกจากนี้ ความต้องการในรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดของเมอร์เซเดส-เบนซ์ก็เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี ทำให้เราสามารถทำยอดขายรถยนต์ไฮบริดได้สูงถึง 115,000 คันหรือเพิ่มสูงขึ้นถึง 4 เท่าเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า เมอร์เซเดส-เบนซ์ยังทำผลงานได้อย่างโดดเด่นในหลาย ๆ ตลาด โดยเฉพาะในช่วงครึ่งปีหลัง เฉพาะในเอเชียแปซิฟิก เราสามารถทำยอดขายได้ถึง 1,024,315 คันหรือเติบโตขึ้น 4.7% โดยมีตลาดจีนเป็นตลาดสำคัญในการขับเคลื่อน ด้วยยอดขายที่เติบโตขึ้นถึง 11.7% หรือ 774,382 คันซึ่งถือว่าเป็นสถิติใหม่”
“สำหรับในตลาดไทย ยอดขายของเมอร์เซเดส-เอเอ็มจีที่เพิ่มสูงขึ้น 14.9% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และเฉพาะในไตรมาสที่ 4 ไตรมาสเดียว ยอดขายเมอร์เซเดส-เอเอ็มจีเพิ่มสูงขึ้นถึง 33.9% เลยทีเดียว นั่นแสดงให้เห็นว่า ความต้องการขับรถยนต์สมรรถนะสูงจากเมอร์เซเดส-เบนซ์ยังคงเพิ่มขึ้น ส่วนยอดขายรถยนต์ V-Class ซึ่งเราเปิดตัวรุ่นใหม่ในปีที่ผ่านมาก็เพิ่มสูงขึ้น 59.2% ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้หลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 ฝ่ายบริการลูกค้าของเมอร์เซเดส-เบนซ์ได้วางกลยุทธ์ในการให้บริการที่ครอบคลุมทุกความต้องการและมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า ซึ่งนั่นคือหัวใจในการบริการของเรา โดยเราได้ทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้ามากขึ้นในทุก ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นการยืดระยะเวลาของ “แพ็คเกจเมอร์เซเดส-เบนซ์ เซอร์วิส พลัส” ขยายระยะเวลาเกินกำหนดของการเข้ารับบริการบำรุงรักษา การดูแลเรื่องความสะอาดที่ศูนย์บริการฯ รวมไปถึงการนำเสนอ “Welcome Back Service Campaign” เพื่อเพิ่มความสะดวกให้ลูกค้าด้วยส่วนลดและข้อเสนอพิเศษสำหรับบริการหลังการขาย ทั้งหมดนี้จึงทำให้ยอดขายในส่วนของบริการหลังการขายเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี ทั้งยอดขายน้ำมันเครื่อง MBOil ที่เติบโตขึ้น 14.4% ยอดขาย MBPaint ที่เติบโตขึ้น 24.4% ยอดขายยางรถยนต์ MBTire ที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดถึง 260.8% ฯลฯ”
“สำหรับปี 2564 เมอร์เซเดส-เบนซ์พร้อมสร้างความตื่นเต้นให้กับตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยในครึ่งปีแรก เราเตรียมนำเสนอรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ หลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็นเมอร์เซเดส-เอเอ็มจีรุ่นคอมแพ็คใหม่ รถยนต์ Dream Car รุ่นใหม่ที่หลายคนรอคอย รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดรุ่นใหม่ที่จะมาพร้อมเทคโนโลยีที่เรียกได้ว่าเป็นนิวเอจของเทคโนโลยีไฮบริด รวมถึง Mercedes-Benz The new E-Class ใหม่ ยนตรกรรมอัจฉริยะที่พร้อมมอบทุกสิ่งที่คุณต้องการ สะกดทุกสายตาด้วยดีไซน์ใหม่สุดโฉบเฉี่ยวเปี่ยมด้วยเอกลักษณ์ โดยมาพร้อมความเหนือชั้นของขุมพลังเครื่องยนต์ปลั๊กอินไฮบริดที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี EQ Power เจเนอเรชันที่ 3 ที่เราพร้อมกระตุ้นตลาดรถยนต์ลักชัวรีอย่างต่อเนื่องในไตรมาสแรกด้วย” มร.โรลันด์ กล่าวเพิ่มเติม