บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด รายงานตัวเลขการจำหน่ายรถยนต์ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2565 (เดือนมกราคม-เดือนพฤษภาคม) โดยมียอดจำหน่ายรวมทั้งสิ้น 9,710 คัน ตอกย้ำถึงความสำเร็จที่มาจากความมุ่งมั่นในการมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า ด้วยสินค้าทุกรุ่นที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคด้านความคุ้มค่า คุ้มราคา ในช่วงสภาวะเศรษฐกิจกำลังซบเซา เดินเกมเสริมทัพด้วยผลิตภัณฑ์ใหม่ เร่งปรับแผนด้านงานขายและงานบริหารที่เข้าถึงลูกค้าได้อย่างครอบคลุมมากขึ้น
นายมิโนรุ อามาโนะ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า นับตั้งแต่ช่วงต้นปี 2565 ที่ผ่านมา หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เริ่มผ่อนคลายลง ตลาดรถยนต์ในประเทศไทยเริ่มกลับมามีการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น แม้จะยังคงได้รับผลกระทบจากสภาวะซบเซาของเศรษฐกิจภายในประเทศ ราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น กลุ่มผู้บริโภคชะลอการจับจ่ายใช้สอย รวมถึงวิกฤตการขาดแคลนชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์บางชนิดทำให้ผู้ผลิตไม่สามารถส่งมอบรถยนต์ทันตามความต้องการของลูกค้า ภาพรวมของอุตสาหกรรมยานยนต์ในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา ยังมียอดจำหน่ายอยู่ที่ 359,351 คัน
สำหรับ ซูซูกิแม้จะได้รับผลกระทบจากปัจจัยลบต่างๆ แต่ในช่วงเดือนมกราคม – พฤษภาคม 2565 ที่ผ่านมา สามารถสร้างยอดจำหน่ายรวมไปได้ถึง 9,710 คัน มีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นถึง 11.74% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยรุ่นที่สามารถสร้างยอดจำหน่ายได้อย่างโดดเด่น คือ SUZUKI SWIFT สปอร์ตแฮทช์แบ็กคาร์ มียอดจำหน่ายอยู่ที่ 4,026 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 45.55% SUZUKI CELERIO รถยนต์นั่งขนาดคอมแพ็คคุณภาพเกินตัว มียอดจำหน่ายอยู่ที่ 2,204 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 21.30% SUZUKI CARRY รถกระบะบรรทุกอเนกประสงค์เพื่อการพาณิชย์ขนาดย่อม มียอดจำหน่ายอยู่ที่ 1,433 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 38.59% ด้านรุ่นอื่น ๆ มียอดขายรวมกันอยู่ที่ 2,047 คัน
โดยเฉพาะ SUZUKI CELERIO รถยนต์นั่งขนาดคอมแพ็คคุณภาพเกินตัว ยังคงเป็นทางเลือกสำคัญของกลุ่มผู้บริโภคที่ต้องการเป็นเจ้าของรถคันแรกที่คุ้มค่าด้วยคุณภาพ สมรรถนะดี ประหยัดน้ำมัน มีประโยชน์ใช้สอยสูงสุด และตอบโจทย์การใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน ส่วน SUZUKI CARRY รถกระบะบรรทุกอเนกประสงค์เพื่อการพาณิชย์ขนาดย่อม ยังคงเป็นตัวเลือกแรกของผู้ประกอบธุรกิจขนาดย่อม SME ที่ถูกออกแบบมาให้มีรูปลักษณ์ที่พร้อมจะนำไปดัดแปลงและพัฒนาต่อยอดให้เข้ากับทุกแนวทางของการดำเนินธุรกิจเคลื่อนที่ จึงเป็นที่มาของยอดขายที่เติบโตขึ้น