บริษัท เบลฟอร์ต ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายแบรนด์รถยนต์ฝรั่งเศสเปอโยต์ และ จี๊ป ราชาออฟ-โรดสัญชาติอเมริกัน อย่างเป็นทางการในประเทศไทย แถลงผลประกอบการปี 2565 ปลื้มทั้งสองแบรนด์โตเกินเป้า ส่งมอบลูกค้าสะสมรวมกว่า 1,600 คัน เปิดแผนปี 2566 ตั้งเป้าทำยอดขายรวมกว่า 1,000 คัน ลุยขยายเครือข่ายโชว์รูมพร้อมศูนย์บริการมาตรฐานครบวงจร
ภาพรวมยอดขาย เปอโยต์ ปี 2565 ทำได้ถึง 590 คัน เติบโตจากปีที่ 2564 ถึง 34% และมียอดขายสะสมนับตั้งแต่เริ่มกลับมาทำตลาดในเมืองไทย ในช่วงเวลาเพียง 3 ปี รวม 1,618 คัน และเชื่อมั่นว่าตลอดปี 2566 ด้วยความพึงพอใจของลูกค้าพร้อมการบริการ ที่ดีเยี่ยม จนนำไปสู่การบอกต่อขยายเป็นวงกว้าง อีกทั้งสมรรถนะ และความโดดเด่นของรถที่ได้รับรางวัล Red Dot Design Awards ต่อเนื่องหลายปี จากรุ่น 2008 และ 3008 แรงหนุนเหล่านี้ จะทำให้สามารถดันยอดขายได้ถึง 1,000 คัน หรือเติบโตเพิ่มขึ้นเป็น 70%ด้วยชื่อชั้นของแบรนด์ รูปลักษณ์ สมรรถนะ อีกทั้งเครือข่ายและบริการหลังการขายครบครัน ของ เปอโยต์ และ จี๊ป นอกจากจะสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า ยังช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้ที่สนใจร่วมธุรกิจ เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนความสำเร็จ
ปัจจุบัน เปอโยต์ มีเครือข่ายโชว์รูมพร้อมศูนย์บริการมาตรฐานครบวงจร 9 สาขา ได้แก่ เกษตร-นวมินทร์, เยาวราช, สุขุมวิท, มีนบุรี, วงเวียนพระราม 5-ราชพฤกษ์, อุบลราชธานี, หาดใหญ่, ภูเก็ต, พัทยา และอีก 1 สตูดิโอ สยามพารากอน โดยมีแผนเปิดเพิ่มตามหัวเมืองใหญ่อีก 5 สาขา รวมเป็น 15 สาขาในปีนี้ คือ เชียงใหม่, ขอนแก่น, อุดรธานี, นครราชสีมา และกรุงเทพฯ พร้อมตั้งเป้าหมาย 20 สาขาภายในปี 2567
ในช่วงไตรมาส 3 และไตรมาส 4 ของปี 2565 หลังจาก เบลฟอร์ต ออโตโมบิล (ประเทศไทย) ได้ทำพิธีลงนามกับ สเตลแลนทิส เป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถยนต์ จี๊ป อย่างเป็นทางการในประเทศไทย บริษัทฯ ได้มีการส่งมอบรถ จี๊ป ให้ลูกค้าไปแล้ว 46 คัน ด้วยข้อจำกัดเรื่องซัพพลายในปีที่ผ่านมา ทำให้เรามีรถที่รอการส่งมอบอีกจำนวนหนึ่ง บริษัทฯ จึงได้ตั้งเป้าหมายเพิ่มขึ้นกว่า 150 คัน ในปีนี้
มีเครือข่ายโชว์รูมพร้อมศูนย์บริการมาตรฐานครบวงจร เริ่มจากสาขาสุขุมวิท โดยตั้งแต่ต้นปี 2566 ได้ขยายเพิ่มอีก 3 สาขา ได้แก่ พัทยา, วงเวียนพระราม 5-ราชพฤกษ์ รวมถึงสาขานิมิตรใหม่ ที่คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ในช่วงไตรมาสแรกของปี นอกจากนี้ยังเตรียมลุยปักหมุดในต่างจังหวัดเพิ่มอีก 5 สาขา คือ เชียงใหม่, อุดรธานี, ขอนแก่น, นครราชสีมา และอุบลราชธานี พื้นที่ยุทธศาสตร์ที่มีกำลังซื้อที่ดี พร้อมกับการเปิดโอกาสสำหรับผู้ที่สนใจจากทั่วประเทศ ได้ร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อสร้างความแข็งแกร่งและยั่งยืน ให้กับทั้งสองแบรนด์อีกด้วย