เบนท์ลีย์ มอเตอร์ส ร่วมกับเบนท์ลีย์ มูลินเนอร์ ต่อยอดภาพลักษณ์ความสปอร์ตและสมรรถนะอันเหนือชั้นของ Bentayga S ด้วยการเปิดตัวรุ่นพิเศษ Apex Edition ที่จะมีเพียง 20 คันในโลก ตัวรถโดดเด่นด้วยล้ออัลลอยด์คาร์บอนแบบ Mulliner ขนาด 22 นิ้วที่แข็งแกร่ง ทนทาน และน้ำหนักเบาเป็นพิเศษ พร้อมด้วยเบรกแบบคาร์บอนเซรามิก โดยผู้ครอบครองสามารถเลือกรังสรรค์ได้ถึง 6 รูปแบบที่คิดค้นขึ้นโดยทีมออกแบบจาก Mulliner พร้อมความโดดเด่นด้วยแถบสีตรงกลางที่พาดผ่านเหนือฝากระโปรงและหลังคา ซึ่งถือเป็นครั้งแรกสำหรับรุ่น Bentayga และพิเศษยิ่งกว่าสำหรับผู้ครอบครอง Continental GT/C Le Mans Edition ที่สามารถรังสรรค์ Bentayga Apex Edition รุ่นพิเศษในแบบเฉพาะตัวให้เข้ากับการออกแบบ Continental GT Le Mans Edition
Bentayga Apex Edition มาพร้อมกับพละกำลังกว่า 550 แรงม้าและเทคโนลีป้องกันการโคลงตัวขณะเข้าโค้งแบบแอคทีฟ พร้อมด้วยระบบบังคับเลี้ยวล้อหลังเพื่อตอกย้ำความเป็นสปอร์ตเอสยูวีรุ่นเรือธงของเบนท์ลีย์ ตัวรถยังมอบความคล่องตัวและประสิทธิภาพในการเบรกที่ดียิ่งขึ้นด้วยล้ออัลลอยด์แบบคาร์บอนและเบรกแบบคาร์บอนเซรามิก พร้อมรูปลักษณ์ที่ดูโฉบเฉี่ยวและสมรรถนะในการขับขี่ที่ดียิ่งขึ้น
Apex Edition ถือเป็นการต่อยอดความสปอร์ตของอัครยนตรกรรมอเนกประสงค์รุ่น Bentayga S ตัวรถมาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซินรุ่น V8 เทอร์โบชาร์จขนาด 4.0 ลิตรอันทรงพลังด้วยพละกำลังกว่า 550 แรงม้า แรงบิด 770 นิวตันเมตร โดยมีอัตราเร่งจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตร ต่อ ชั่วโมงเพียง 4.5 วินาที Apex Edition สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 290 กิโลเมตร ต่อ ชั่วโมง พร้อมระบบควบคุมการโคลงตัวขณะเข้าโค้งแบบแอคทีฟ Bentley Dynamic Ride และระบบบังคับเลี้ยวล้อหลังที่ติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน Apex Edition ยังให้เสียงจากท่อไอเสียสไตล์สปอร์ตที่ให้ความรู้สึกเร้าใจยิ่งขึ้นด้วย
คุณลักษณะความสปอร์ตยังได้รับการพัฒนาด้วยล้ออัลลอยด์แบบคาร์บอนจากมูลินเนอร์ ขนาด 22 นิ้วที่ได้รับการออกแบบเฉพาะรุ่น Bentyaga ด้วยความร่วมมือจากผู้เชี่ยวชาญจาก Bucci Composites โดยสามารถลดน้ำหนักลงได้ถึง 24 กิโลกรัม โดยไม่รวมน้ำหนักช่วงล่างที่อยู่ใต้สปริง ซึ่งคาร์บอนไฟเบอร์ไม่เพียงแต่จะช่วยลดน้ำหนักได้อย่างมาก แต่ยังให้ประโยชน์ในด้านความแข็งแกร่งและความทนทานที่เพิ่มขึ้นอีกด้วย
ประสิทธิภาพในการเบรกยังได้รับการพัฒนาด้วยจานเบรกแบบคาร์บอน-ซิลิคอน-คาร์ไบด์ (CSiC) ซึ่งเป็นคุณสมบัติของ Apex Edition ที่ช่วยให้ลดน้ำหนักลงได้มากกว่า 20 กิโลกรัมเมื่อเทียบกับจานเบรกแบบเหล็ก พร้อมให้แรงบิดในการเบรกสูงสุด 6,000 นิวตันเมตรและสามารถทนทานต่ออุณหภูมิได้สูงถึง 1,000 องศาเซลเซียส
การรังสรรค์ Apex Edition รูปแบบแรกมาพร้อมกับภายนอกที่โดดเด่นด้วยเฉดสีแดงซาติน Candy Red พร้อมด้วยลายเส้นสีเทา Anthracite และแถบสีขาว Arctic White ภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยหนังเฉดสีขาว Arctic White และหนังเฉดสีแดง Hotspur พร้อมเสริมด้วยการเย็บตะเข็บสีขาว Arctic White บนเบาะโดยสาร โดยเฉดสีที่ตัดกันนี้ได้ถูกนำไปตกแต่งบริเวณคอนโซลหน้ารอบแผงหน้าปัดคาร์บอนไฟเบอร์แบบซาติน
รูปแบบที่สองของ Apex Edition ให้อารมณ์ที่ดุดันและลึกลับยิ่งขึ้นด้วยการตกแต่งภายนอกด้วยเฉดสีเทา Anthracite และแถบสีดำ-เงา พร้อมด้วยลายทางในเฉดสีส้ม Mandarin ที่ให้ความรู้สึกคอนทราสต์ ภายในห้องโดยสารมีการใช้หนังเฉดสีส้ม Mandarin เป็นหลัก และหนังเฉดสีดำ Beluga พร้อมการตกแต่งด้วยวีเนียร์แบบซาตินคาร์บอนไฟเบอร์
รูปแบบที่สามมาพร้อมกับการตกแต่งภายนอกที่โดดเด่นด้วยเฉดสีส้ม Orange Flame และใช้สีเดียวกันนี้กับแถบบนชุดตัวถังคาร์บอนไฟเบอร์แทนการใช้แถบเฉดสีที่ตัดกัน ภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยหนังเฉดสีขาว Linen และหนังเฉดสีน้ำตาล Newmarket Tan เสริมด้วยการเล่นเฉดสีดำ Charcoal บนเบาะโดยสารแบบคอนทราสต์
รูปแบบที่สี่ยังโดดเด่นด้วยแถบลวดลายอันละเอียดอ่อนในการตกแต่งภายนอกแบบเฉดสีซาตินกับเฉดสีเขียว Alpine Green พร้อมด้วยลายทางสีส้มบนตัวถังตลอดแนวแอโรไดนามิก ภายในห้องโดยสารมีการตกแต่งด้วยเฉดสีเทา Portland และเฉดสีเขียว Cumbrian Green พร้อมการเน้นขอบด้วยเฉดสีส้มแบบคอนทราสต์บนเบาะโดยสาร ขอบคอนโซลวีเนียร์ และพวงมาลัย
รูปแบบที่ห้ามาพร้อมกับการตกแต่งภายนอกด้วยเฉดสีบรอนซ์เงิน Pale Brodgar พร้อมด้วยแถบสีเทา Anthracite และลายทางในเฉดสีบรอนซ์ Bacalar Bronze ซึ่งเป็นเฉดสีที่ใช้รังสรรค์กับรุ่น Bentley Bacalar อัครยนตรกรรมรุ่นพิเศษโดย Bentley Mulliner สำหรับภายในห้องโดยสารมีการใช้เฉดสีขาว Linen และเฉดสีเทา Porpoise เพื่อสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลาย พร้อมเสริมด้วยการใช้เฉดสีบรอนซ์ Bacalar Bronze บนเบาะโดยสารรวมถึงบนพวงมาลัยและบริเวณรอบคอนโซล
รูปแบบที่หกโดดเด่นด้วยการตกแต่งภายนอกด้วยเฉดสีเงิน Extreme Silver ตัดด้วยแถบสีดำ Beluga พาดผ่านกลางฝากระโปรงหน้าและหลังคา พร้อมด้วยลายทางในเฉดสีเหลือง Signal Yellow ตลอดแนวตัวถังและขอบด้านล่างตามแนวแอโรไดนามิก ภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยหนังเฉดสีเหลือง Signal Yellow และหนังเฉดสีดำ Beluga ที่ให้ความรู้สึกแตกต่าง
สำหรับผู้ที่เป็นเจ้าของ Continental GT และ GTC Le Mans Edition ที่รังสรรค์ขึ้นในปี 2566 เพื่อเฉลิมฉลองโอกาสครบรอบ 20 ปีแห่งชัยชนะครั้งที่ 6 ของเบนท์ลีย์ ณ สนาม La Sarthe จะได้ครอบครอง Bentayga Apex Edition รุ่นพิเศษกับลวดลาย Le Mans ในเฉดสีเขียว Verdant และ เฉดสีขาว Moonbeam สำหรับภายในห้องโดยสารมีการตกแต่งให้เข้ากับแบบ Continental GT Le Mans Edition ที่ประกอบไปด้วยเบาะโดยสารที่รังสรรค์ขึ้นจากหนัง Dinamica ในเฉดสีดำ Beluga พร้อมด้วยโทนสีโมโนโครมที่รังสรรค์ขึ้นผ่านความคอนทราสต์ของการเย็บเบาะโดยสารและสายเข็มขัดนิรภัยในเฉดสีแดง Hotspur พร้อมการตกแต่งพวงมาลัยด้วยหนัง Dinamica ที่โดดเด่นด้วยการเย็บแบบคอนทราสต์ในเฉดสีแดง Hotspur
Bentayga Apex Edition ได้รับการรังสรรค์ขึ้นตามข้อกำหนดในแบบเฉพาะตัวขั้นสูงด้วยคุณสมบัติภายนอกที่สามารถออกแบบได้ตามความต้องการอย่างชุดแต่ง Styling Specification รอบคันที่จะให้ประโยชน์ตามหลักอากาศพลศาสตร์อย่าง สปอยเลอร์หน้า สปอยเลอร์หลัง กาบบันได และฝาครอบกระจกมองข้างที่ผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์แบบซาติน สำหรับการออกแบบภายในห้องโดยสารได้รับการรังสรรค์ขึ้นด้วยรูปแบบของเฉดสีบนแผงหน้าปัดคาร์บอนไฟเบอร์แบบซาติน คอนโซลกลางและบริเวณข้างห้องโดยสาร พร้อมด้วยคุณสมบัติแบบ Comfort Specification รูปแบบเบาะโดยสารแบบ 5 ที่นั่ง เสริมด้วยระบบเครื่องเสียง Naim for Bentley โดยมีความพิเศษที่เพิ่มเข้ามาอย่างการปักเบาะโดยสารแบบ Blind Seat พร้อมด้วยโลโก้เบนท์ลีย์ที่ใช้สีตัดกัน และการออกแบบสไตล์ Apex Edition บริเวณข้างประตูห้องโดยสาร และกาบบันไดคาร์บอนไฟเบอร์โลโก้ Apex Edition พร้อมด้วยป้ายคาร์บอนไฟเบอร์ Apex Edition ที่ตกแต่งบริเวณเสา D-Pillar สำหรับเทคโนโลยีช่วยเหลือผู้ขับขี่ Apex Edition มีระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ชั้นสูง (ADAS) พร้อมด้วยคุณลักษณะเฉพาะสำหรับการขับขี่ระยะไกลอย่าง Touring Specification