พฤติกรรมการเดินทางของคนไทยมีการปรับตัวและเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องตามยุคสมัย เนื่องมาจากการเพิ่มขึ้นของประชากรและความต้องการระบบขนส่งที่มีประสิทธิภาพ บริการเรียกรถผ่านแอป (e-hailing) จึงจำเป็นต้องปรับตัวให้สอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปและตอบโจทย์แนวคิดด้านความยั่งยืน ทำให้หลายแพลตฟอร์มเริ่มขยายบริการออกนอกเมืองใหญ่ เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงและอำนวยความสะดวกในพื้นที่ที่ระบบขนส่งสาธารณะยังมีข้อจำกัดแอปเรียกรถ Maxim เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มที่ปรับตัวให้สอดคล้องกับแนวโน้มเหล่านี้ ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีและการมีส่วนร่วมกับชุมชน เพื่อให้ตอบรับกับความต้องการของผู้คนในทั้งเมืองหลวงและเมืองรอง
เทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพของบริการ e-hailing แอปเรียกรถ Maxim มีการนำ AI และ Machine Learning มาใช้ เพื่อปรับเส้นทางในแอปให้แม่นยำ ลดเวลารอรถของผู้โดยสาร และพัฒนาระบบการเชื่อมต่อระหว่างผู้ใช้บริการ (Interface) ให้ใช้งานง่ายขึ้น มีการใช้ระบบค้นหาแบบ โทเคน (Token) ในการยืนยันตำแหน่ง ที่ช่วยให้ค้นหาตำแหน่งได้เร็วขึ้นถึง 30% และสามารถแก้ไขคำผิดโดยอัตโนมัติ เพื่อให้การปักตำแหน่งหมุดแม่นยำมากยิ่งขึ้นปัญญาประดิษฐ์ (AI) ยังถูกนำมาใช้ในระบบตรวจสอบภาพถ่ายและเอกสาร เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและรองรับข้อกำหนดทางกฎหมายสำหรับคนขับ นอกจากนี้ ระบบคำนวณค่าโดยสารยังอ้างอิงจากเส้นทางที่เหมาะสมที่สุด เพื่อให้ผู้โดยสารได้รับราคาที่ยุติธรรมการใช้งานที่ตอบโจทย์มากขึ้น
Maxim มุ่งพัฒนาแอปให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้ใช้ โดยเพิ่มฟีเจอร์ที่ช่วยให้การเรียกรถเป็นเรื่องง่ายขึ้น เช่น การจดจำประวัติการเดินทาง การจองซ้ำอัตโนมัติ และการบันทึกที่อยู่ที่ตั้งชื่อเองได้ เช่น “บ้าน” หรือ “ที่ทำงาน”นอกจากนี้ แอปเรียกรถ Maxim ยังขยายบริการไปยังเมืองรอง หรือในพื้นที่ที่ขนส่งสาธารณะยังไม่ครอบคลุม เช่น เชียงใหม่และอุดรธานี เพื่อให้ผู้คนในชุมชนได้มีตัวเลือกการเดินทางที่สะดวกขึ้น