เกรท วอลล์ มอเตอร์ เดินหน้าตอกย้ำการเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมยานยนต์ระดับโลก ด้วยการจัดงานเทศกาลเทคโนโลยีของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ซึ่งนับเป็นเทศกาลที่แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าและความสำเร็จด้านเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมยานยนต์ของบริษัท โดยในปีนี้ได้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 8 ภายใต้หัวข้อ “Accelerating Carbon Neutralization and Creating Intelligence” เพื่อนำเสนอเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่สะท้อนระบบนิเวศทางเทคโนโลยีสมัยใหม่อันชาญฉลาด ปลอดภัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของ เกรท วอลล์ มอเตอร์
มร.แจ็ค เว่ย ประธาน เกรท วอลล์ มอเตอร์ กล่าวว่า “ในช่วงเวลา 3-5 ปี หลังจากนี้ นับเป็นช่วงเวลาที่ดี ที่แบรนด์รถยนต์จากประเทศจีนจะก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้นำด้านอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานใหม่ของโลก เกรท วอลล์ มอเตอร์ จะใช้ช่วงเวลานี้อย่างเต็มที่เพื่อมุ่งมั่นคิดค้น วิจัย และพัฒนาทั้งในด้านพลังงานใหม่และเทคโนโลยีอัจฉริยะ เพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรม โอกาส และความได้เปรียบในตลาดโลก โดยเราจะผลักดันศักยภาพ พร้อมทั้งเพิ่มขีดความความสามารถในการแข่งขันอย่างต่อเนื่อง รวมถึงสร้างความเปลี่ยนแปลงขององค์กรเพื่อให้ก้าวสู่การเป็น “บริษัทที่ให้บริการการขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีระดับโลก” (Global Mobility Technology Company) อย่างแท้จริง ผ่าน 4 กลยุทธ์หลัก ได้แก่ 1.การวางแผนงานระดับโลก (Global Layout) 2.การลงทุนขนาดใหญ่ในการวิจัยและพัฒนา (Large Investment in R&D) 3.การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ขององค์กร (Great Change of Enterprise) และ 4.การดำเนินงานที่เน้นผู้บริโภคเป็นศูนย์กลาง (User-Centric Operation)”
ด้วยเป้าหมายหลักที่จะเป็น “ผู้นำในจีนและก้าวไปสู่แบรนด์ระดับโลก” ในปี ค.ศ. 2025 หรือ พ.ศ. 2568 เกรท วอลล์ มอเตอร์ วางแผนที่จะบรรลุเป้าหมายยอดขายทั่วโลกที่ 4 ล้านคันในปีนั้น ซึ่ง 80% ของยอดขายดังกล่าวจะมาจากรถยนต์พลังงานใหม่ พร้อมตั้งเป้ารายได้จากการดำเนินงานมากกว่า 6 แสนล้านหยวน (3 ล้านล้านบาท) และในอีก 5 ปีข้างหน้าจะเพิ่มงบลงทุนในการวิจัยและพัฒนาอีกมากกว่าแสนล้านหยวน (5 แสนล้านบาท) เพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีความชาญฉลาด และปลอดภัยมากยิ่งขึ้นให้แก่ผู้บริโภคทั่วทุกมุมโลก และตั้งเป้าให้มีบุคลากรด้านการวิจัยและพัฒนาทั่วโลกจำนวนมากกว่า 30,000 คน ซึ่งรวมถึงผู้ที่มีทักษะความสามารถด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์อีกกว่า 10,000 คน ภายใน 2 ปีข้างหน้า นอกจากนี้ บริษัทยังคงเน้นย้ำแนวคิดการทำงานที่เน้น “ผู้บริโภคเป็นศูนย์กลาง” เพื่อสร้างระบบการทำงานใหม่ที่องค์กรและผู้บริโภคทำงานร่วมกันผ่านการเชื่อมโยงเครือข่ายและนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อขยายขอบเขตของผู้บริโภคสู่ภาคธุรกิจ (Consumer to Business หรือ C2B) ซึ่งจะเป็นการสร้างรูปแบบธุรกิจใหม่ระหว่าง “ผลิตภัณฑ์ ซอฟต์แวร์ และบริการ” ที่ทุกฝ่ายจะได้รับผลประโยชน์ร่วมกันให้เกิดขึ้น