เป็นการจับทางถูกที่ค่ายฮอนด้าได้นำเส้นสายของรถสี่ประตูคูเป้ทีนิยมกันในยุคนั้นมาใช้กับซีวิคเจนเนอเรชั่นที่ 10 เราจึงเห็นได้ถึงความเปลี่ยนแปลงน้อยมากในระยะเกือบๆ5ปีที่เปิดตัวกับมาตั้งแต่เดือนมีนาคมปี2559 เป็นการออกแบบที่ทันสมัยและหรูหราในสไตล์สปอร์ต
ภายนอกเน้นการออกแบบในสไตล์ที่ล้ำสมัยด้วยลักษณะตัวถังที่ให้ความรู้สึกถึงความแข็งแกร่ง ผสานกับเส้นสายด้านข้างตัวรถที่คมชัด สะท้อนรูปลักษณ์ที่โฉบเฉี่ยว
สปอร์ตและดุดันด้วยกระจังหน้าโครเมียมรูปร่างคล้ายปีกที่วางตัวเป็นแนวยาวเต็มกรอบกระจังหน้า เชื่อมต่อกับไฟหน้าสไตล์สปอร์ต พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED ทั้งยังโดดเด่นยิ่งขึ้นด้วยไฟท้ายรูปทรงตัว C แบบ LED
การพัฒนาให้มีระยะฐานล้อที่เพิ่มขึ้นและตัวถังที่กว้างขึ้น ทำให้ห้องโดยสารของ ซีวิคกว้างขวางสะดวกสบายใกล้เคียงกับรถยนต์ในระดับ D-Segment ซึ่งทำให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารสามารถสัมผัสได้ถึงความสะดวกสบายที่เหนือกว่า เป็นการออกแบบห้องโดยสารเป็นการพลิกโฉมการออกแบบรถซีดานสู่รูปแบบใหม่ที่ล้ำสมัยยิ่งขึ้น เน้นการเลือกใช้วัสดุคุณภาพสูง และเส้นสายการออกแบบที่ให้ความรู้สึกสปอร์ตและพรีเมียมไปพร้อมกัน ผสานกับเทคโนโลยีแห่งการเชื่อมต่ออันทันสมัย ให้ความสำคัญกับผู้ขับขี่และผู้โดยสารเป็นหลัก
แผงหน้าปัดมาพร้อมมาตรวัด ประกอบด้วย มาตรวัดอุณหภูมิเครื่องยนต์ มาตรวัดระดับเชื้อเพลิง และมาตรวัดรอบเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ ที่มีมาตรวัดความเร็วแสดงผลเป็นตัวเลขดิจิตอล ส่วนแผงหน้าปัดด้านบนออกแบบให้เป็นชิ้นเดียวกัน ทำให้พื้นที่ช่วงหัวเข่าของที่นั่งด้านคนขับกว้างขวางขึ้น
แผงคอนโซลกลางได้รับการออกภายใต้แนวคิด “Tech Center” ซึ่งเปรียบเสมือนศูนย์กลางเทคโนโลยี โดยด้านบนสามารถแยกออกเป็น 2 ชั้น เพื่ออำนวยความสะดวกในการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนเข้ากับช่องเชื่อมต่อได้อย่างเป็นระเบียบ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบปรับอุณหภูมิแยกอิสระซ้าย-ขวา
สะดวกสบายกับระบบสตาร์ทเครื่องยนต์ พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมทที่สามารถสั่งการได้จากระยะไกลเพื่อช่วยอุ่นเครื่อง พร้อมปรับอุณหภูมิภายในห้องโดยสารให้เย็นสบายล่วงหน้าก่อนออกเดินทาง โดยขณะที่เครื่องยนต์สตาร์ทติดอยู่ ประตูรถจะยังคง ล็อกเช่นเดิม และรถจะยังไม่อยู่ในสถานะที่พร้อมออกตัวได้ จนกว่ากุญแจรีโมทและผู้ขับขี่จะอยู่ภายในตัวรถ และกดปุ่มสตาร์ทการทำงานของเครื่องยนต์ภายในรถอีกครั้ง
เบาะนั่งด้านคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง
นอกเหนือจากความสะดวกสบายภายในห้องโดยสารแล้ว ฮอนด้า ซีวิคยังมีพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายที่ใหญ่และกว้าง โดยสามารถจุสัมภาระได้ 525 ลิตร
เครื่องยนต์ฮอนด้า ซีวิครุ่นนี้เป็นเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร DOHC VTEC TURBO ได้รับการพัฒนาภายใต้เทคโนโลยีเอิร์ธดรีม โดยใช้หัวฉีดไดเรคท์ อินเจคชั่น ฉีดจ่ายเชื้อเพลิงเข้าสู่ห้องเผาไหม้โดยตรง พร้อมการออกแบบท่อไอดีแบบตรง มีเทอร์โบชาร์จเจอร์ที่ช่วยอัดอากาศเข้าสู่ห้องเผาไหม้ของเครื่องยนต์ได้เร็วขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเผาไหม้ให้กำลังสูงสุด 173 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุดที่ 220 นิวตัน-เมตร ที่ 1,700 – 5,500 รอบต่อนาที
เมื่อทำงานร่วมกันกับชุดเกียร์ซีวีทีที่ออกแบบเข้ากันได้อย่างลงตัวทำให้รอบเครื่องยนต์ต่ำ มีอัตราเร่งดีพอๆ เครื่องยนต์ขนาด 2.4 ลิตรแต่ประหยัดน้ำมันมากกว่าเยอะ
ที่ชอบใช้บ่อยๆในรถรุ่นนี้ก็คงจะเป็นระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ที่ช่วยลดจุดบอดในการมองเห็นของกระจกมองข้างด้านซ้าย โดยใช้กล้องจับภาพติดไว้ใต้กระจกมองข้างด้านซ้ายแสดงผลผ่านหน้าจอขนาด 7 นิ้ว สามารถเปิดแสดงผลได้ตลอดด้วยสวิทช์ตรงปลายก้านสวิทช์ยกเลี้ยวทำให้ไม่ต้องหันไปมองกระจกมองข้างแค่มองตรงจอกลางก็เห็นได้ชัดเจนแล้ว