ในยุคน้ำมันแพงๆแบบนี้คิดว่าหลายคนคงอยากได้รถประหยัดน้ำมัน ถ้าไม่เลือกรถไฟฟ้าล้วนฮอนด้า ซิตี้ อี:เอชอีวีก็น่าจะเป็นทางเลือกที่ดูจะเข้ากันได้ดีในยุคนี้ ด้วยอัตราบริโภคเกิน 20 กม./ลิตร น่าจะได้ใจหลายๆคน
ในเรื่องหน้าตาภายนอกที่ดูคล้ายๆกันรุ่นพี่ๆทำให้หลายคนบอกแป็นรถคนแก่ก็ว่ากันไป แต่ถ้าเป็นรุ่นเดียวกันก็บอกยากถึงความแตกต่างจากซิตี้รุ่นปกตินอกจากจะเห็นโลโก้ฮอนด้าสีฟ้าและสัญลักษณ์ e:HEVเพื่อตอกย้ำความเป็นไฮบริดติดเอาไว้เท่านั้น
ในรถรุ่นนี้ได้ชุดแต่งสไตล์ RSเสริมความสปอร์ตรอบคันที่ดูเป็นสปอร์ตหน่อยด้วยกระจังหน้าที่มีช่องรวงผึ้งแบบ Gloss Blackพร้อมสปอยเลอร์ด้นล่างที่เราเรียกว่าลิ้นหมามาให้ ก็ไม่ต้องกลัวว่าดูแลยากจะไปครูดกับพื้นเพราะอยู่สูงแบบรถทั่วไป ในรถรุ่นนี้จะได้ไฟหน้าแบบ LED มีระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติและระบบปิดไฟหน้าอัตโนมัติ เมื่อดับเครื่องยนต์ พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED ไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED
โครงสร้างตัวถังแบบ Wide & Low ที่ให้ความสปอร์ตปราดเปรียวด้วยเส้นสายที่เฉียบคม กระจกมองข้างสีดำแบบสปอร์ต ปรับและพับไฟฟ้าพร้อมไฟเลี้ยวในตัว เสาอากาศแบบครีบฉลามพร้อมล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว ดีไซน์สปอร์ต
เพื่อความเป็นสปอร์ตให้เข้ากับตัวรุ่นอาร์เอสจึงได้สปอยเลอร์หลังแบบ Gloss Black เพิ่มเข้ามาเป็นแบบติดกับขอบบนของฝากระโปรงท้ายจึงดูไม่ใหญ่เทอะทะมาก รวมถึงด้านล่างของกันชนออกแบบมาเป็นดิฟฟิวเซอร์ลายคาร์บอนไฟเบอร์พร้อมสัญลักษณ์ RS และ e:HEV ติดไว้ตรงฝาท้าย
ห้องโดยสารออกแบบให้ดูเรียบง่ายมีความกว้างขวางสะดวกสบายทั้งในส่วนของผู้ขับขี่และผู้โดยสารใช้โทนสีดำและเส้นสายในแนวนอนเพื่อช่วยเพิ่มความรู้สึกโปร่งโล่งและสะดวกสบายในการขับขี่ คอนโซลหน้าแบบ Piano Black พร้อมที่วางแก้วน้ำส่วนคอนโซลกลางมาพร้อมที่วางแขนขนาดใหญ่ พนักเท้าแขน พร้อมที่วางแก้วน้ำ
ส่วนที่แตกต่างเห็นได้ชัดก็จะอยู่ที่มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ดิจิตอลแบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว ไม่มีวัดรอบมาให้แต่จะบอกสถานะของการขับเคลื่อนในขณะนั้น ส่วนพวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชัน พร้อมปุ่มควบคุมระบบเครื่องเสียงและปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์และปุ่มปรับเปลี่ยนข้อมูลของจอแสดงผลที่ติดอยู่ตรงก้านพวงมาลัย พร้อมระบบช่วยชะลอความเร็วรถที่พวงมาลัย
ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ และช่องปรับอากาศตอนหลัง เพื่อความสบายในห้องโดยสาร มาพร้อมช่องจ่ายไฟสำรอง 2 ตำแหน่ง ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay พร้อม Google Maps และระบบสั่งการด้วยเสียง SIRI พร้อมช่องเชื่อมต่อ USB จำนวน 2 ช่องระบบสตาร์ทเครื่องยนต์ พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมท ระบบควบคุมประตูแบบอัจฉริยะ
เบาะที่นั่งของรุ่นอาร์เอสจะเป็นเบาะผสมของผ้ากับหนังกลับที่ดีไซน์สปอร์ต ตกแต่งด้วยด้ายสีแดง ใช้การปรับด้วยมือ
ส่วนเบาะหลังจะพับพนักพิงไม่ได้แต่จะมีที่วางแขนมาให้
ระบบขับเคลื่อนในรถรุ่นนี้จะเป็นขุมพลังแบบ Full Hybrid ระบบ Sport Hybrid Intelligent Multi-Mode Drive (i-MMD) เป็นการทำงานร่วมกันของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัวตัวหนึ่งทำหน้าที่ชาร์จไฟ อีกตัวเอาไว้ขับเคลื่อน ซึ่งทำงานร่วมกันอย่างชาญฉลาด จะเริ่มตั้งแต่การออกตัว การขับขี่ด้วยความเร็วต่ำ การใช้ความเร็วสูง และระหว่างลดความเร็ว โดยระบบจะเลือกและปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่อย่างอัจฉริยะ ทั้งโหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า โหมดการขับขี่ด้วยระบบไฮบริด และโหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ เพื่อมอบสมรรถนะการขับขี่ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดสามารถผลิตกำลังออกมาได้ 109 แรงม้า พร้อมแรงบิดที่สูงถึง 253 นิวตัน-เมตรที่ 0-3,000 รอบ/นาที ผสานการทำงานกับเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร Atkinson-Cycle DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว รองรับน้ำมัน E20 ให้กำลัง 98 แรงม้า แรงบิด 127 นิวตัน-เมตร
ระบบส่งกำลังเป็นเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) ที่ให้การตอบสนองที่รวดเร็วลดอาการรอรอบแบบเกียร์ซีวีทีทั่วๆไป มีอัตราเร่งที่ต่อเนื่องทันใจกว่าเครื่องยนต์ไฮบริดรุ่นเก่าๆของฮอนด้า การพยายามให้มอเตอร์ทำหน้าที่ขับเคลื่อนเยอะๆจึงให้อัตราการบริโภคที่ประหยัด ในเมืองและชานเมืองทำได้ 28.7 กิโลเมตร/ลิตร แต่พอเดินทางไกลด้วยความเร็วระดับ 120 กม./ชม. ต่อเนื่องยาวๆ ก็จะใช้กำลังจากเครื่องยนต์เป็นหลักอัตราการบริโภคจะอยู่ที่ 22.3 กิโลเมตร/ลิตร แต่ก็ถือว่าประหยัดอยู่
ถึงจะเป็นรถยนต์พลังลูกผสมที่ต้องใช้พื้นที่จัดเก็บแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนไว้คอยเก็บประจุไฟฟ้า ก็ไม่ได้ทำให้พื้นที่เก็บของทางด้านท้ายรถคับแคบลงไป ยังสามารถจัดเก็บได้เยอะอยู่รวมไปถึงด้านล่างของแผ่นปูก็ยังมี 2 หลุมเล็ก 1 หลุมใหญ่ไว้เก็บของที่ส่งกลิ่นได้อีกต่างหาก
การเดินทางไกลระบบที่ใช้บ่อยจะเป็นระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมระบบรักษาระยะห่างจากรถคันหน้าโดยตังความเร็วไว้ที่ 120 กม./ชม. ซึ่งความเร็วจริงที่วัดได้ 117 กม./ชม. จึงไม่โดนจับความเร็วเกินเดินทางได้สบายใจไร้ใบสั่ง