สำหรับแนวกลยุทธ์ขับเคลื่อนองค์กรและธุรกิจ ฝ่าวิกฤติโควิด-19 ในปี 2020 ที่อาวดี้ได้ทำ เพื่อก้าวข้ามความท้าทายครั้งใหม่นี้ ประกอบด้วย
- Walk the Talk พิสูจน์ด้วยการกระทำ โดยเฉพาะการสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้ลูกค้า ที่จะต้องมีความต่อเนื่อง เช่น งานบริการหลังการขายที่อาวดี้ให้ความสำคัญเป็นอันดับหนึ่ง จะต้องมีความพร้อมเสมอในการบริการลูกค้า อีกทั้งยังได้เปิดตัวรถรุ่นใหม่อย่างต่อเนื่องตามแนวคิด Product Varity ที่วันนี้มีรถหลากหลายรุ่นครอบคลุมทุกเซกเมนต์ รวมถึงมีทางเลือกใหม่ๆ ดังเช่นที่ผ่านมา ด้วยมาตรการเว้นระยะห่าง การป้องกันการแพร่ระบาด อาวดี้ จึงมีการบริการ Audi at Home ทั้งในส่วนของฝ่ายขายและศูนย์บริการในทันที เพื่อให้บริการทดลองขับ-ส่งมอบรถใหม่ถึงบ้าน และบริการรับ-ส่งรถเพื่อเข้ารับบริการ ทำให้ลูกค้าได้รับความสะดวก ได้การบริการที่รวดเร็วทันใจ
- Customer Centric การดำเนินการของบริษัทฯ เน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลาง มีการตอบสนองความต้องการและโจทย์ของลูกค้าที่มีความหลากหลาย ภายใต้กลยุทธ์ Product Variety Strategy มีการนำเข้ารถใหม่ครบทุกเชกเมนต์ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ จากจำนวน 11 รุ่น ในปี 2017 ปัจจุบัน มีถึง 19 Body Type รวม 30 รุ่นย่อย ให้ลูกค้าได้เลือก โดยปีที่แล้วอาวดี้ยังได้ส่งตระกูล RS มาตอบโจทย์คนชอบซุปเปอร์คาร์ ในราคาจับต้องได้ ตลอดจนมีการนำรถผู้บริหาร ไมล์น้อย และรถใหม่ในสต๊อกมาให้ลูกค้าได้เลือกเป็นเจ้าของในราคาพิเศษด้วย
- Worst Case Scenario Projection มีการจำลองสถานการณ์ในระดับที่เลวร้ายที่สุด เพื่อการวางแผนเชิงรุก ในการตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ทุกรูปแบบ เช่น ในสถานการณ์โควิดทำให้คนกังวลเรื่องการจับจ่ายใช้สอย จากกลยุทธ์เขย่าพอร์ตที่มุ่งเปลี่ยนมุมมอง จากที่คิดว่า Audi เป็นรถหรู นำเข้า ราคาแพง จับต้องยาก เปลี่ยนเป็น Audi เป็นรถหรู นำเข้า คุณภาพดี สวย แต่ซื้อไหว โดยได้มีการขยับปรับพอร์ตทันที คือ นำเข้ารถที่มีราคาจับต้องได้เข้ามาจำหน่ายเพิ่ม เช่น A5 ใหม่ ที่มีออฟชั่นส์ครบ เพื่อให้ลูกค้าที่มีความกังวลแผนการใช้จ่าย ได้มีทางเลือก ดังกลยุทธ์ที่ตั้งใจให้ Audi เป็นรถที่ Attractive & Affordable
- Business Continuity แม้จะมีการปรับรูปแบบการทำงาน มีการเว้นระยะห่าง แต่อาวดี้ก็ไม่หยุดนิ่งในการมอบข้อเสนอที่คุ้มค่าให้ลูกค้า มีการทำ Projection ภาพรวมใหม่ มีการปรับรูปแบบจัดกิจกรรมทางการตลาด การเปิดตัวรถรุ่นใหม่ ผ่านออนไลน์ อย่างต่อเนื่องทุกเดือน ดังเช่นหลังจากออกแคมแปญ “ลดโหดเหมือนโกรธใครมา” แคมเปญ “ดอกเบี้ย 0% นาน 7 ปี ไม่มีบอลลูน” เมื่อต้นปี ขณะที่เมื่อช่วงเดือนพฤษภาคมที่เริ่มมีการคลายล๊อก ก็มีการเปิดตัว A5 ในราคาที่จับต้องได้ในทันที ตามมาด้วยรถในตระกูล RS ทั้ง TT RS, RS4 Avant, และ RS Q8 และยังมี A4 Avant ใหม่ รวมถึง รถไฟฟ้าอย่าง e-tron Sportback ในส่วนของเครือข่ายศูนย์บริการก็มีการเดินหน้าก่อสร้างไม่หยุด ทำให้ช่วงไตรมาสแรกนี้ เราพร้อมที่จะให้บริการลูกค้าที่ Audi ถนนราชพกฤษ์ (เยื้องๆกับ The Circle) และที่จังหวัดอุดรธานี
- Involvement & Team Spirit ได้มีการปรับ mind set ของทุกคนในองค์กร ให้ทุกคนมีความรู้ ให้ทุกคนมีส่วนร่วม มุ่งสร้างความสามัคคีของทีมและการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ ทุกคนตระหนักถึงเป้าหมาย มีพลังและไฟในการทำงาน เพื่อร่วมกันส่งมอบการบริการที่ดีให้ลูกค้าอยู่เสมอ ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร ดังเช่นฝ่ายขาย การตลาด ที่ทำงานร่วมกันเป็นหนึ่งเดียว การตลาดก็ช่วยขาย ฝ่ายขายก็ช่วยการตลาด ทุกคนสามารถใช้เครื่องมือออนไลน์ในการสื่อสารกับลูกค้า ส่งต่อ แชร์ข้อมูล ให้แก่กัน ทำให้สามารถใช้ข้อมูลจากการสื่อออนไลน์ ไปสู่การประสานงานออนกราวน์ (O2O marketing) ติดต่อลูกค้า ให้ข้อมูล ข้อเสนอ จนกลายเป็นยอดจองได้ในที่สุด
- People Development อาวดี้ยังคงให้ความสำคัญในการพัฒนาบุคลากร โดยเฉพาะทีมช่างที่จะต้องมีการยกระดับฝีมือไว้รองรับการบริการ เช่น การซ่อมบำรุงยนตรกรรมไฟฟ้า ที่มีจำนวนลูกค้าเพิ่มมากขึ้น แม้จะเดินทางไปฝึกอบรมต่างประเทศไม่ได้ แต่ก็มีการจัดอบรมผ่านช่องทางออนไลน์ หรือใช้พื้นที่สำนักงานใหญ่ในการถ่ายทอดความรู้ ทักษะการซ่อมบำรุง ให้ทีมงานของอาวดี้และของดีลเลอร์ รวมถึงการจัดอบรมเพิ่มพูนทักษะการขาย ความรู้เรื่องผลิตภัณฑ์ใหม่ และการใช้เครื่องมือสื่อสารออนไลน์ เพื่อตอบสนองความต้องการลูกค้าอย่างดีที่สุด
- Communication Paradigm shift อาวดี้ ประเทศไทย ทำตลาดมากกว่า 4 ปีแล้ว ได้เริ่มทำ Data Marketing เน้นไปที่คนชื่นชอบแบรนด์ Audi เป็นหลัก มีการกำหนดกลยุทธ์ Niche Target Right Message เพื่อให้สื่อสารได้ตรงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น ให้ข้อมูลที่โปร่งใส (Transparency data) ให้ความสำคัญกับการการผลิตเนื้อหาในรูปแบบของคลิป Info graphic live รีวิว เผยแพร่ผ่านช่องทางการสื่อสารทุกแพลตฟอร์ม เพื่อให้ข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจของลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ