จุดเด่นรถบรรทุก สแกนเนีย ซุปเปอร์ ยูโร 5 ว่า นวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ของ สแกนเนีย ซุปเปอร์ ยูโร 5 มีหลายส่วนที่น่าสนใจไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์ตัวใหม่ที่พัฒนาระบบฉีดจ่ายน้ำมันใหม่เรียกว่าระบบ Scania XPI ที่เป็นระบบฉีดจ่ายน้ำมันด้วยแรงดันสูงทำให้เผาไหม้ได้สมบูรณ์ขึ้น จึงปล่อยไอเสียลดลง เครื่องยนต์ใหม่ถูกออกแบบมาให้ลดแรงเสียดทานพร้อมมีระบบหล่อเย็นที่พัฒนาขึ้นร่วมกัน การเปลี่ยนฝาสูบแยกเป็นฝาสูบเดี่ยวทำให้การหายใจของเครื่องยนต์ดีขึ้นมีแรงบิดมากขึ้น อย่างรุ่น 420 แรงม้า จะให้แรงบิดสูงถึง 2,300 นิวตันเมตร มากกว่าสแกนเนียรุ่นเดิมถึง 10% และยังมีรอบเครื่องต่ำกว่าเดิม ช่วยให้ประหยัดน้ำมันมากขึ้นถึงอย่างน้อย 8% ซึ่งหากเปลี่ยนเฉพาะระบบบำบัดไอเสียอย่างเดียว อาจทำให้แรงม้าเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเท่านั้น
สำหรับ สแกนเนีย ซุปเปอร์ ยูโร 5 ที่นำเข้ามาจำหน่ายในครั้งนี้ เป็นรถหัวลากทั้ง 4 รุ่น โดย 3 รุ่นจะเป็น 420 แรงม้า และอีกหนึ่งรุ่นเป็น 460 แรงม้า แต่ละรุ่นเหมาะกับลักษณะงานไม่เหมือนกัน
รุ่น P420 A6x2NZ จะเป็นรถบรรทุกลากหางที่เป็นตู้ผ้าใบ เป็นพื้นเรียบ หรือตู้คอนเทนเนอร์
รุ่น P420 A6x2NA (ADR) เป็นรถบรรทุกแท็งก์น้ำมันหรือสารเคมี จะมีอุปกรณ์ความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้น เพื่อรองรับการขนส่งที่เป็นลักษณะการขนส่งวัตถุอันตราย
รุ่น P420 A6x2NA เป็นรถบรรทุกเพลาเดียวเหมือนกัน แต่มีระบบเบรกเสริมรีทาร์เดอร์ มีถังน้ำมันเสริมอีกถังหนึ่ง เพื่อตอบโจทย์การขนส่งขึ้นเขาหรือขนส่งระยะทางไกลข้ามประเทศ
รุ่น G460 A6x4NZ เป็นรถบรรทุกที่มีแรงม้ามากขึ้น เป็นรถขับเคลื่อน 2 เพลา เหมาะกับการขนส่งเครื่องจักรที่มีน้ำหนักมาก
สำหรับระบบเบรคเสริมที่เพิ่มมาพร้อมเครื่องยนต์ใหม่นั้น คือ เบรค CRB ซึ่งเป็นเทคโนโลยีช่วยให้รถชะลอตัวจากการปล่อยแรงดันออกจังหวะอัด เพื่อลดกำลังเครื่องยนต์ลงเล็กน้อยทำให้รถชะลอตัว ด้านระบบบำบัดไอเสียนั้น จะไม่มีการไปยุ่งเกี่ยวกับระบบเครื่องยนต์เลย ซึ่งการกำจัดไอเสียจะใช้วิธีฉีดน้ำยาบำบัดไอเสีย หรือ แอดบลู (AdBlue) เข้าไปดักจับแก๊สไนโตรเจนออกไซด์ที่ออกมาจากเครื่องยนต์ ให้กลายเป็นไนโตรเจนและน้ำที่ไม่เป็นอันตรายก่อนปล่อยสู่ภายนอก ส่วนน้ำยาบำบัดไอเสียก็ไม่ใช่สารอันตรายและไม่ติดไฟ อัตราสิ้นเปลืองในการใช้งานนั้นอยู่ที่ 5-7 ลิตรต่อน้ำมัน 100 ลิตร ขึ้นอยู่กับการใช้งาน สภาพถนน สภาพน้ำหนักบรรทุก ความเร็วที่วิ่ง เป็นต้น ส่วนน้ำยาบำบัดไอเสียก็หาซื้อได้ไม่ยาก โดยสามารถซื้อได้จากศูนย์บริการสแกนเนียทั่วประเทศ ซึ่งนักขับสามารถดูระดับน้ำยาได้จากหน้าจอเหมือนการดูน้ำมันเชื้อเพลิง
สแกนเนีย ซุปเปอร์ ยูโร 5 นั้น นับว่ามีความคุ้มค่าต่อการลงทุนอย่างมาก เพราะไม่ใช่แค่พัฒนาระบบบำบัดไอเสีย แต่เป็นการเปลี่ยนเครื่องยนต์ใหม่ทั้งหมด ให้แรงบิดและแรงม้ามากขึ้น และยังประหยัดน้ำมันได้มากกว่า มีระบบเบรกเสริมใหม่เพิ่มเติม รวมถึงเพิ่มรายละเอียดอื่นๆ อีกมากมายด้วยด้านการบำรุงรักษา อะไหล่ และการบริการนั้น เครื่องยนต์ซุปเปอร์ จะมีความคงทนและอายุการใช้งานที่ยาวนานยิ่งขึ้น ซึ่งสแกนเนียมีความพร้อมอย่างยิ่งในการให้บริการ เพราะรถมาตรฐานยูโร 5 มีใช้ในยุโรปมาตั้งแต่ปี 2552 ทำให้ผู้ประกอบการและผู้ขับขี่ไม่ต้องกังวลกับการดูแลรักษา ซ่อมบำรุง อะไหล่ และความเชี่ยวชาญของศูนย์บริการสแกนเนียที่พร้อมช่วยเหลือ ให้คำแนะนำและแก้ไขทุกปัญหาที่เกิดขึ้น