การแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก โมโตจีพี 2023 รายการ เจแปนีส กรังด์ปรีซ์ ดวลความเร็วรอบชิงชนะเลิศในวันอาทิตย์ที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา ณ สนาม โมบิลิตี้ รีสอร์ท โมเตกิ ประเทศญี่ปุ่นเกมเรซนี้มีความหมายอย่างยิ่งต่อ “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา ยอดนักบิดไทยเจ้าของหมายเลข 35 จาก อิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม เอเชีย โดยเจ้าตัวสร้างโอกาสลุ้นชัยชนะอย่างเต็มตัว ด้วยการคว้าตำแหน่งโพลหลังสร้างสถิติใหม่เวลาต่อรอบใหม่จากการควอลิฟายที่ โมเตกิ แถมยังทำเวลาเร็วที่สุดตลอดการซ้อมทุกช่วงในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
การแข่งขัน “ก้อง-สมเกียรติ” ชิงจังหวะออกตัวได้อย่างยอดเยี่ยม ขยับขึ้นเป็นผู้นำได้ตั้งแต่โค้งแรกของการแข่งขัน จากนั้นสามารถยืดระยะห่างจากอันดับ 2 ออกไปอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับสร้างสถิติใหม่ “เวลาต่อรอบสำหรับการแข่งขัน” (Best Race Lap) ลงอย่างราบคาบก่อนที่ “นักบิดขวัญใจชาวไทย” จะรักษาความเร็วได้อย่างยอดเยี่ยม นำม้วนเดียวจบ 19 รอบสนาม คว้าชัยชนะครั้งที่ 2 ของชีวิตในการแข่งขัน เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ ได้อย่างยิ่งใหญ่ด้วยเวลารวม 35 นาที 19.273 วินาที เหนือทีมเมทชาวญี่ปุ่นอย่าง ไอ โอกูระ ที่ตามมาในอันดับสอง 1.353 วินาที พาต้นสังกัดคว้าชัยแบบ วัน-ทู เป็นครั้งแรกของปีนี้
ผลการแข่งขันครั้งนี้ส่งให้ “ก้อง-สมเกียรติ” สร้างประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญของวงการมอเตอร์สปอร์ตไทย ด้วยการเป็นนักบิดไทยคนแรกในประวัติศาสตร์ที่คว้าชัยชนะได้ถึง 2 ครั้งใน เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ พร้อมกับทะยานขึ้นมารั้งอันดับ 6 บนตารางคะแนนสะสม โมโตทู 2023 หลังผ่านไป 14 สนาม เก็บไปทั้งสิ้น 114 คะแนน พร้อมกับพา อิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม เอเชีย ขยับขึ้นมารั้งท็อป 3 บนตารางคะแนนสะสมประเภททีม มีทั้งสิ้น 209 คะแนน
นอกจากนี้ “ก้อง-สมเกียรติ” ยังทุบทุกสถิติที่เคยทำไว้ในรุ่น โมโตทู เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ ของการแข่งขันที่ โมเตกิ ด้วยการสร้างสถิติเวลาต่อรอบใหม่ (All Time Lap Record) ด้วยเวลา 1 นาที 49.898 วินาที สร้างสถิติ “เวลาต่อรอบสำหรับการแข่งขัน” ใหม่ (Best Race Lap) ด้วยเวลา 1 นาที 50.679 วินาที พร้อมกับคว้าชัยชนะไปครองด้วยสำหรับการแข่งขันสนามถัดไปของ ศึก โมโตทู เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ 2023 จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 13-15 ตุลาคมนี้ ที่ สนาม เปอร์ตามิน่า มันดาลิกา อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ประเทศอินโดนีเซีย ในรายการ อินโดนีเซียน กรังด์ปรีซ์