อุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศไทยมีบทบาทสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ และโดดเด่นเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ที่สำคัญที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ประเทศไทยได้มุ่งสู่อนาคตการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (Net-Zero) โดยมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาและส่งเสริมระบบนิเวศของรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ก่อให้เกิดคลื่นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในภาคยานยนต์
ข้อมูลจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เผยว่าช่วงครึ่งแรกของปี 2566 ได้มอบสิทธิประโยชน์และส่งเสริมการลงทุนให้กับผู้ผลิตรถยนต์แบตเตอรี่ BEV ไปแล้ว 14 ราย มูลค่าโครงการรวม 33.9 พันล้านบาท และคิดเป็นกำลังการผลิตถึง 276,640 คันต่อปี
แม้ว่าความสำเร็จเหล่านี้จะน่าสนใจเพียงใด แต่อุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยยังคงต้องต่อสู้กับการขาดแคลนแรงงานที่มีทักษะเหมาะสม ปัจจุบันพบผู้เชี่ยวชาญเพียง 0.58 ล้านคนที่มีความสามารถด้านดิจิทัล หรือน้อยกว่า 1% ของประชากร ดังนั้นเพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าว “การทำงานร่วมกัน” ของทุกฝ่ายจะช่วยเร่งพัฒนาประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าได้
แดสสอลท์ ซิสเต็มส์ และสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย (EVAT)จึงจัดเสวนาเชิงลึก ในหัวข้อ: Closing the Skills Gap in Thailand: Shifting Gears to Electric Vehicles จากผู้บริหารและผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมยานยนต์ ที่จะเป็นแนวหน้าในการขับเคลื่อนและกำหนดภูมิทัศน์ EV Workforce ของประเทศไทยพร้อมเจาะลึกถึงการเปลี่ยนแปลงแบบไดนามิกที่เกิดขึ้นภายในภาคยานยนต์ ที่ขับเคลื่อนโดยเทคโนโลยีและนวัตกรรมเป็นหลัก โดยมุ่งเน้นไปที่ความท้าทายและโอกาสสำคัญสำหรับขับเคลื่อนการเดินทางของประเทศไทยไปสู่การเป็นศูนย์กลางยานยนต์ไฟฟ้าของภูมิภาคอาเซียน (ASEAN EV hub)