“เดอะตุ้ย” วชิระ เรืองมาลัย นั่งนายก สรยท.ควบสมัยที่สอง ประกาศนโยบายเติมเต็มสิทธิประโยชน์สูงสุดให้แก่สมาชิกและครอบครัว ทั้งด้านการศึกษา และสาธารณสุข เดินหน้าสานพันธมิตรสู่องค์กรภายนอกทั้งภาครัฐ และเอกชน ยกระดับมาตรฐานกิจกรรมหลักสู่สากล หลังสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย เปิดประชุมใหญ่สามัญประจำปีพร้อมเลือกตั้งนายกฯและคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ ประจำปี 2565-2567 จัดงานใหญ่ฉลองเปิดตัวทีมบริหารใหม่ พร้อมขอบคุณผู้สนับสนุนภายใต้คอนเซ็ปต์ TAJA Independent Day วันประกาศอิสระภาพหลังผลักโควิท-19 เป็นโรคประจำถิ่น พร้อมประกวดร้องเพลง “TAJA ไมค์ทองคำ” ค่ายรถยนต์ จักรยานยนต์ และอุปกรณ์เกี่ยวเนื่องตบเท้าเข้าร่วมงานล้นหลาม
นายวชิระ เรืองมาลัย นายกสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย (สรยท.) หรือ (Thailand Automotive Journalists Association : TAJA) เปิดเผยว่า หลังจากจากได้รับความไว้วางใจให้ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย (สรยท.) อีกครั้งเป็นสมัยที่ 2 ต่อเนื่อง ทีมงานคณะกรรมการบริหารได้กำหนดนโยบายในการบริหารงานสมาคมฯ เน้นเติมเต็มสิทธิประโยชน์สูงสุดให้แก่สมาชิก และครอบครัว ทั้งด้านการศึกษา และสาธารณสุข รุกเพิ่มขยายพันธมิตรสู่องค์กรภายนอกทั้งภาครัฐ และเอกชน ยกระดับมาตรฐานกิจกรรมหลักให้เป็นสากลมากขึ้น ทั้งงานด้านสังคม และงานด้านวิชาการ พัฒนาทักษะความรู้ความสามารถของสมาชิกให้มีมาตรฐานทั้งด้านงานข่าวสารประชาสัมพันธ์ และความเชี่ยวชาญพิเศษเกี่ยวกับอุตสาหกรรมยานยนต์ นอกจากนี้ยังจะช่วยส่งเสริมให้อุตสาหกรรมยานยนต์ได้เจริญก้าวหน้าเป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศอีกด้วย
“การได้รับความไว้วางใจจากสมาชิกให้มารับตำแหน่งนายกสามาคมฯ สมัยแรกไม่กี่เดือนก็เกิดการระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ตลอดระยะเวลา 2 ปี ที่คณะกรรมการชุดก่อนหน้านี้ขยับทำกิจกรรมส่วนรวมได้ยาก โดยการได้รับความไว้วางใจจากสมาชิกให้มารับตำแหน่งนายกฯ ในสมัยนี้ และสถานการ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลายคงจะสามารถวางแผนงานด้านกิจกรรมต่างๆ ที่จะเป็นประโยชน์กับสมาชิกและอุตสาหกรรมยานยนต์ และประเทศได้คล่องตัวยิ่งขึ้นสำหรับสิ่งที่อยากทำให้เกิดเป็นรูปธรรมในการทำหน้าที่ของนายกสมาคมฯ และคณะกรรมการชุดใหม่วาระปี 2565-2567 มุ่งมั่นสานงานเก่า และสร้างสรรค์งานใหม่ให้ชัดเจน เดินหน้าการเชื่อมโยงเครือข่ายของสมาคมฯ และเผยแพร่ชื่อเสียงองค์กรออกไปสู่สังคมในวงกว้างนอกเหนือขอบข่ายของแวดวงสื่อสารมวลชนและอุตสาหกรรมธุรกิจยานยนต์ เช่น หน่วยงานภาครัฐและเอกชน, ราชยานยนต์สมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (ร.ย.ส.ท.), กระทรวงอุตสาหกรรม, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.), กรมการขนส่งทางบก (ขส.ทบ.), ทหาร, ตำรวจ, ภาคเอกชนในธุรกิจท่องเที่ยวโรงแรม องค์กรอิสระต่างๆ รวมถึงการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ที่เข้ามามีบทบาทในกีฬามอเตอร์สปอร์ตมากขึ้นในปัจจุบัน เป็นต้น” นายวชิระ กล่าวในที่สุด