เรนาสโซ มอเตอร์ ในเครือชาริช โฮลดิ้ง ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ลัมโบร์กินีอย่างเป็นทางการรายเดียวในประเทศไทย นำเสนอยนตรกรรมสายพันธุ์กระทิงดุหลากหลายรุ่นในงาน Motor Show 2020 โดยงานนี้มีเหล่าเซเลบริตี้สาวกกระทิงดุ อย่าง ท็อป – ณัฐเศรษฐ์ พูนทรัพย์มณี และ ก้อง – สุรเชษฐ วรวงศ์วสุ มาร่วมยลโฉมยนตรกรรมสุดหรู ที่อิมแพ็คเมืองทองธานี
คุณอภิชาติ ลีนุตพงษ์ ประธานกรรมการ บริษัท เรนาสโซ มอเตอร์ จำกัด กล่าวว่า “ลัมโบร์กินีได้นำรถซูเปอร์สปอร์ตคาร์ระดับโลกมาให้แฟนพันธุ์แท้ลัมโบร์กินี รวมถึงผู้ที่ชื่นชอบซูเปอร์สปอร์ตคาร์ในประเทศไทยได้สัมผัสกันอย่างใกล้ชิด ทั้ง Lamborghini Aventador (ลัมโบร์กินี อะเวนทาดอร์), Huracan (ฮูราแคน) และ Urus (อูรุส) โดยทุกรุ่นมีดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์และมีสมรรถนะที่เร้าใจ ตอกย้ำดีเอ็นเอความเป็นแบรนด์สุดยอดรถซูเปอร์สปอร์ตคาร์หรูระดับโลก ในงาน Motor Show 2020 ตั้งแต่วันนี้-26 กรกฎาคม 2563 ณ อิมแพ็คเมืองทองธานี”
Lamborghini Huracán EVO RWD Spyder (ลัมโบร์กินี ฮูราแคน อีโว เรียวีลไดร์ฟ สไปเดอร์)
ซูเปอร์สปอร์ตคาร์ขับเคลื่อนล้อหลังแบบเปิดประทุนเครื่องยนต์ V10 รุ่นใหม่ล่าสุด ใช้หลักการออกแบบทางวิศวกรรมให้ตัวรถมีน้ำหนักเบา ให้สมรรถนะเต็มที่ในทุกสภาวะการขับขี่ด้วยระบบ Performance Traction Control System (P- TCS) หลังคาเปิดหรือปิดที่มาพร้อมเอกลักษณ์เสียงคำรามของเครื่องยนต์ V10 ที่ขับเคลื่อนตัวรถไปข้างหน้าอย่างไร้ขีดจำกัด ขับเคลื่อนด้วยพละกำลัง 610 แรงม้า และแรงบิด 560 นิวตันเมตร ซึ่งถูกส่งตรงไปที่ล้อคู่หลังเพื่ออรรถรสสูงสุดแห่งการขับขี่ Huracán EVO RWD Spyder มีอัตราเร่งจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในเวลาเพียง 3.5 วินาที และยังสามารถเร่งความเร็วได้สูงสุดถึง 324 กิโลเมตร/ชั่วโมง มอบประสบการณ์การขับขี่ที่สนุกเร้าใจจากการควบคุมรถได้อย่างอิสระตามต้องการ
Huracán EVO RWD Spyder มาพร้อมเครื่องยนต์ V10 ไร้ระบบอัดอากาศตามแบบฉบับของ Lamborghini แต่ปรับเปลี่ยนดีไซน์ทางด้านหน้าและหลังเพื่อสร้างแรงกด (Downforce) ให้กับรถมากยิ่งขึ้นเมื่อใช้ความเร็วสูง หลังคาผ้าใบของ Huracan EVO RWD Spyder สามารถเปิด-ปิดได้ภายในเวลาเพียง 17 วินาที แม้ขณะขับขี่โดยความเร็วไม่เกิน 50 กม./ชม. จอกลางควบคุมตัวรถแบบ HMI ขนาด 8.4 นิ้ว ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถจัดการกับตัวรถและระบบอินโฟเทนเมนต์ต่างๆ รวมไปถึงระบบ Apple Carplay สำหรับราคาของ Huracán EVO RWD Spyder เริ่มต้นที่ 21,800,000 บาท
Lamborghini Aventador SVJ Roadster (ลัมโบร์กินี อเวนทาดอร์ เอสวีเจ โรดสเตอร์)
มาพร้อมกับประสบการณ์ขับขี่แบบ open air ที่สมบูรณ์แบบที่สุด โดยใช้เครื่องยนต์ V12 ขนาด 6.5 ลิตร ที่สามารถรีดพละกำลังสูงสุดถึง 770 แรงม้า ช่วยให้ทะยานจาก 0-100 ภายในเวลาเพียง 2.9 วินาที ทำความเร็วสูงสุด 350 กม./ ชม. นอกจากสมรรถนะเครื่องยนต์ที่ยอดเยี่ยมแล้ว อเวนทาดอร์ เอสวีเจ โรดสเตอร์ มาพร้อมกับระบบอากาศพลศาสตร์ ALA (Aerodynamica Lamborghini Attiva) 2.0 ที่ถูกพัฒนาให้ทำงานได้รวดเร็วยิ่งขึ้นและมีประสิทธิภาพในการจัดการอากาศได้ดีกว่ารุ่น อเวนทาดอร์ เอสวี โรดสเตอร์ ถึง 40% สำหรับหลังคาของ อเวนทาดอร์ เอสวีเจ โรดสเตอร์นั้น ทำจากวัสดุคาร์บอน ไฟเบอร์เพื่อโครงสร้างที่แข็งแรงและมีน้ำหนักเบาตามสไตล์ของลัมโบร์กินี ซึ่งสามารถจัดเก็บได้ภายใต้ฝากระโปรงด้านหน้าของตัวรถเมื่อต้องการเปิดประทุน ตัวรถมีน้ำหนักเพียง 1,575 กิโลกรัม ซึ่งมากกว่า อเวนทาดอร์ เอสวีเจ เพียง 50 กก.เท่านั้น
ทั้งนี้ อเวนทาดอร์ เอสวีเจ โรดสเตอร์ ถูกจำกัดจำนวนการผลิตไว้เพียง 800 คันทั่วโลก ส่งผลให้อเวนทาดอร์ เอสวีเจ โรดสเตอร์ เป็นกระทิงเปลี่ยวที่ดุดันที่สุดในประวัติศาสตร์ของแบรนด์ลัมโบร์กินี ราคาเริ่มต้นที่ 48,980,000 บาท
Lamborghini Huracán EVO (ลัมโบร์กินี ฮูราแคน อีโว)
ซูเปอร์สปอร์ตคาร์ เครื่องยนต์ V10 Naturally-aspirated อันทรงพลังและได้รับการถ่ายทอดสมรรถนะการขับขี่มาจาก Lamborghini Huracan Performante (ลัมโบร์กินี ฮูราแคน เพอร์ฟอร์มานเต้) ด้วยพละกำลังสูงสุด 640 แรงม้าและแรงบิดสูงสุด 600 นิวตันเมตร ช่วยให้ Huracán EVO ทะยานจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในเวลาเพียง 2.9 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้มากกว่า 325 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
Lamborghini Urus (ลัมโบร์กินี อูรุส)
Super SUV คันแรกของโลก ที่ถ่ายทอด DNA ของลัมโบร์กินีอย่างแท้จริง ผสมผสานกับความเอนกประสงค์ของรถ SUV ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยสมรรถนะอันทรงพลัง ที่มาพร้อมกับนิยามว่า “SINCE WE MADE IT POSSIBLE” ด้วยเครื่องยนต์ V8 Twin-turbo ให้พละกำลัง 650 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 850 นิวตันเมตร ที่มาตั้งแต่รอบต่ำ ส่งผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ไปยังระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ ชม. ในเวลาเพียง 3.6 วินาที และทำความเร็วสูงสุดกว่า 300 กม./ ชม. ดังนั้น อูรุสจึงมาพร้อมจานเบรกแบบคาร์บอนเซรามิกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยขนาด 440 มม. ในด้านหน้า และขนาด 370 มม.ในด้านหลัง ทำให้ระยะเบรกจาก 100-0 กม./ ชม. มีระยะเพียง 33.7 เมตรเท่านั้น ทั้งนี้ ผู้ขับขี่ยังสามารถควบคุมความดุดันของอูรุสผ่าน Tamburo – Lamborghini driving dynamics control ได้ถึง 4 โหมด และยังปรับแต่งรูปแบบการขับขี่ได้ตามความต้องการของผู้ขับขี่ผ่าน EGO mode นอกจากนี้ ยังสามารถติดตั้งโหมดพิเศษเพิ่มเติม อย่างโหมด Terra (ออฟโรด) และโหมด Sabbia (ทะเลทราย) ที่ช่วยให้ทุกเส้นทางเป็นเรื่องสนุกสำหรับคุณ