บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และ มูลนิธิ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย นำโดย มร. เออิอิชิ โคอิโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และประธานมูลนิธิ พร้อมด้วย นายเอกอธิ รัตนอารี กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ สายงานทรัพยากรบุคคลและบริหารทั่วไป และรองประธานมูลนิธิ ร่วมปลูกต้นไม้หลากหลายสายพันธุ์บนพื้นที่ 40 ไร่ ณ ป่าชุมชนบ้านโคกพลวง อำเภอจักราช จังหวัดนครราชสีมา เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมป้องกันวิกฤตสภาพภูมิอากาศ ภายใต้โครงการปลูกป่า “Root for Sustainability : รากกล้าแห่งความยั่งยืน”
“ในวันนี้ ต้นกล้ากว่า 8,000 ต้น ซึ่งถูกปลูกในพื้นที่ป่าชุมชนบ้านโคกพลวง จะเติบโตขึ้นเป็นต้นไม้ใหญ่ในอีก 4-5 ปีข้างหน้า ซึ่งจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับคนในชุมชน อีกทั้งชุมชนและสัตว์ป่ายังสามารถใช้ประโยชน์จากแหล่งน้ำและอาหารที่ถือกำเนิดมาจากต้นไม้ได้ ผมขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่เข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรมปลูกป่าในครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นกรมป่าไม้ องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) และสมาชิกชุมชนบ้านโคกพลวง ผลจากความร่วมมือในครั้งนี้ จะช่วยการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และช่วยทำให้คนกับป่าสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างยั่งยืน นอกจากนี้ คาร์บอนเครดิตเพิ่มเติมที่ได้จากการดำเนินโครงการด้านสิ่งแวดล้อมของ บริษัทฯ จะถูกนำไปลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เราปล่อยสู่สิ่งแวดล้อมได้อีกด้วย พวกเราดีใจที่ได้มีส่วนในการช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับชุมชนผ่านโครงการปลูกป่าในครั้งนี้ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความรับผิดชอบในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ต่อสังคมไทยอย่างยั่งยืน” มร. เออิอิชิ โคอิโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว
มร. เออิอิชิ โคอิโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และประธานมูลนิธิ พร้อมด้วยนักเรียนจากโรงเรียนบ้านหินโคน ร่วมปลูกต้นราชพฤกษ์ ระหว่างเข้าร่วมกิจกรรมปลูกป่า “Root for Sustainability : รากกล้าแห่งความยั่งยืน” ณ ป่าชุมชนบ้านโคกพลวง อำเภอจักราช จังหวัดนครราชสีมา
กิจกรรมปลูกป่า “Root for Sustainability : รากกล้าแห่งความยั่งยืน” เป็นการสานต่อจากโครงการ “ปลูกป่า 60 ปี 60 ไร่” ที่ได้ริเริ่มขึ้นในปี 2564 เพื่อฉลองครบรอบ 60 ปี การดำเนินธุรกิจของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ในประเทศไทย โดยในปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ปลูกต้นไม้ บนพื้นที่ 20 ไร่ ในพื้นที่ชุมชนบ้านอ่างกระพงศ์ อำเภอบ่อทอง จังหวัดชลบุรี และอีก 40 ไร่ ในพื้นที่ชุมชนบ้านนางาม อำเภอวัฒนานคร จังหวัดสระแก้ว