มาสด้า CX-8 เป็นรถอเนกประสงค์เอสยูวีขนาดใหญ่ที่ถูกพัฒนาขึ้นจากโครงสร้างของรถยนต์นั่ง โดยไม่ได้มีโครงสร้างพื้นฐานมาจากรถกระบะเช่นเดียวกับ PPV จึงทำให้การขับขี่มีความนุ่มนวลมากกว่า หรือเทียบเท่ากับรถยนต์นั่ง แต่ยังคงมีความอเนกประสงค์ด้านการใช้งานตามที่ลูกค้ามองหา ซึ่งเชื่อว่ารถรุ่นนี้จะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และส่งมอบความสุขให้กับสมาชิกทุกคนในครอบครัวได้อย่างลงตัวในทุกการเดินทาง พร้อมเติมเต็มการใช้ชีวิตให้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น
ด้วยความครบครันของเทคโนโลยีความสะดวกสบายและความปลอดภัย ที่มีเพิ่มเติมเข้ามาในทุกรุ่น ควบคู่กับทางเลือกรุ่นย่อยที่หลากหลายมากขึ้น แต่ยังคงรักษาเอกลักษณ์ที่โดดเด่นตามแบบฉบับของมาสด้า เฉกเช่นเดียวกับรถอเนกประสงค์เอสยูวีรุ่นอื่นในตระกูล CX-Series ไม่ว่าจะเป็นคุณภาพพรีเมี่ยมของห้องโดยสาร สมรรถนะในการขับขี่ที่เหนือกว่า ความอเนกประสงค์ของการใช้งาน และเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกสบายและระบบความปลอดภัยที่ครบครัน ที่ล้วนแล้วได้รับการออกแบบโดยคำถึงถึงการใช้งานของทุกคนในครอบครัวอย่างแท้จริง
การปรับในครั้งนี้ เพื่อให้มาสด้า CX-8 มีความครบครันตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของลูกค้ามากยิ่งขึ้นจึงมาพร้อมทางเลือกใหม่ที่ลูกค้าเรียกร้อง โดยเพิ่มเติมมาในรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 2.5 SP Exclusive แบบ 6 ที่นั่ง โดยมาพร้อมที่นั่งแถวที่สองแบบ Captain Seat แยกอิสระซ้าย-ขวา สามารถปรับเอน และเลื่อนหน้า-หลังได้ พร้อมคอนโซลกลาง ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ทุกช่วงเวลาอันมีค่าของครอบครัว
มีพื้นที่ห้องโดยสารกว้างขวางนั่งสบาย มอบความสบายแบบพรีเมี่ยมที่แตกต่างอย่างเหนือชั้น นอกจากนี้ในทุกรุ่นย่อยยังได้รับการยกระดับความคุ้มค่า ด้วยการเสริมเทคโนโลยีด้านความสะดวกสบายและความปลอดภัยให้ครบครัน อาทิ หน้าจอสี Center Display แบบทัชสกรีน ขนาด 8 นิ้ว พร้อมปุ่มควบคุมอัจฉริยะ Center Commander ไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่เวลากลางวัน แบบ LED Signature ไฟท้ายแบบ LED Signature ระบบปรับองศาไฟหน้าตามการเลี้ยวของรถ AFS และเซ็นเซอร์กะระยะด้านหน้า 4 จุด และด้านหลัง 4 จุด เป็นต้น
สำหรับห้องโดยสารแบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง ยังคงมาพร้อมเอกลักษณ์ที่โดดเด่น ด้วยเบาะที่นั่งแถวสองแบบ 3 ที่นั่ง กว้างขวาง สะดวกสบายในทุกอิริยาบถ และสามารถขึ้น-ลงรถได้สะดวก พร้อมตอบรับทุกรูปแบบของการใช้ชีวิต ด้วยความจุของห้องเก็บสัมภาระด้านหลังที่สามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่เก็บสัมภาระ ให้เหมาะสมกับการใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ เมื่อพับเบาะแถวที่สองและสาม เพื่อส่งมอบประสบการณ์ดีๆ และความเพลิดเพลินของทุกคนในครอบครัวได้อย่างลงตัวไปตลอดการเดินทาง
การออกแบบภายนอกและภายใน ยังคงพิถีพิถันในทุกรายละเอียดดุจงานศิลปะชิ้นเอก ภายใต้แนวคิด Kodo: Soul of Motion ถ่ายทอดความงามที่อยู่เหนือกาลเวลา มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว หรูหรา ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Less is More” ที่เน้นความเรียบง่ายแต่งดงาม ห้องโดยสารตกแต่งด้วยโทนสีเข้ม ใช้วัสดุแบบ Real Wood และตกแต่งด้วยสีเงินซาตินโครม ผสานกับเบาะหนัง Nappa สีแดง Deep Red รองรับการเชื่อมต่อกับแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟนผ่านระบบ Mazda Connect ที่มาพร้อม Apple CarPlay และ Android Auto โดยแสดงข้อมูลผ่านหน้าจอสี Center Display แบบทัชสกรีนใหม่ ขนาด 8 นิ้ว ควบคุมด้วยปุ่มควบคุมอัจฉริยะ Center Commander ที่หรูหราและสะดวกสบายต่อการใช้งาน พร้อมเพิ่มความสุนทรีย์ภายในห้องโดยสารด้วยระบบเสียงคุณภาพ Bose® รอบทิศทาง พร้อมลำโพง 10 ตำแหน่ง
มาพร้อมประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือกว่า ถูกพัฒนาขึ้นโดยคำนึงถึงประโยชน์ใช้สอยและการใช้งานของทุกคนในครอบครัวเป็นหลัก มอบความสะดวกสบายด้วยการจัดวางอุปกรณ์ต่างๆ ภายในรถให้อยู่ในตำแหน่งศูนย์กลาง ตามปรัชญามนุษย์เป็นศูนย์กลาง HMI (Human-Machine Interface) ช่วยให้ผู้ขับไม่ต้องละสายตาจากถนน มอบความเป็นหนึ่งเดียวระหว่างคนกับรถ พร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบสี บนกระจกหน้า (Windshield Active Driving Display) เพื่อตอบสนองการใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
MAZDA CX-8 มีให้เลือก 2 เครื่องยนต์ ประกอบด้วย เครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน ขนาด 2.5 ลิตร (SKYACTIV-G 2.5) มีใน 3 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น 2.5 S (แบบ 7 ที่นั่ง) รุ่น 2.5 SP (แบบ 7 ที่นั่ง) และรุ่น 2.5 SP Exclusive (แบบ 6 ที่นั่ง) มาพร้อมระบบวาล์วแปรผันคู่อัจฉริยะ Dual S-VT ที่ถูกพัฒนาให้สามารถตอบสนองอัตราเร่งได้อย่างดีเยี่ยม ให้พละกำลังสูงถึง 194 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 258 นิวตัน-เมตร ประหยัดน้ำมันถึง 13.2 กิโลเมตรต่อลิตร และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ทางเลือกที่สองกับเครื่องยนต์สกายแอคทีฟคลีนดีเซล ขนาด 2.2 ลิตร (SKYACTIV-D 2.2) ในรุ่น XDL (แบบ 7 ที่นั่ง) และ XDL Exclusive (แบบ 6 ที่นั่ง) มาพร้อมระบบวาร์ลไอเสียแปรผันอัจฉริยะ VVT และระบบเทอร์โบแปรผัน 2 ขั้น ที่ได้รับการพัฒนาให้ตอบสนองรวดเร็วและแม่นยำยิ่งกว่าเดิมในทุกรอบความเร็ว และในรุ่น XDL Exclusive ยังมาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัตโนมัติ i-ACTIV AWD* ที่ช่วยปรับระบบการขับขี่ให้เหมาะสมกับสภาพถนน แรงม้าสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร ประหยัดน้ำมันสูงถึง 17.5 กิโลเมตรต่อลิตร4 และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม