นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ รองประธานบริหารอาวุโส บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ตลาดรถยนต์เดือนเมษายนและพฤษภาคมที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าการระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ มีผลกระทบต่ออุตสาหกรรมรถยนต์เมืองไทยพอสมควร เนื่องจากมีจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันค่อนข้างมากทำให้ประชาชนยังไม่มั่นใจถึงผลกระทบที่อาจจะตามมา และบางเคสตัดสินใจชะลอการรับรถออกไปก่อน แต่เชื่อว่าสถานการณ์จะเริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น หลังจากที่ประชาชนเริ่มได้รับการฉีดวัคซีนเยอะขึ้น เห็นได้ชัดจากยอดจำหน่ายรถยนต์มาสด้าในเดือนพฤษภาคมก็เริ่มเติบโตอย่างชัดเจนเมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันของปี 2563 โดยเพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายนที่ผ่านมาถึง 27% หรือเพิ่มสูงขึ้นถึง 75% จากเดือนพฤษภาคมซึ่งเป็นช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
เดือนพฤษภาคม 2564 ยอดขายรถยนต์มาสด้ารวมทุกรุ่นอยู่ที่ 2,805 คัน โดยเฉพาะรถยนต์มาสด้า2 ที่ยังคงรักษาตำแหน่งแชมป์ยอดขายสูงสุด จำนวน 1,325 คัน เพิ่มขึ้น 47% ตามด้วยมาสด้า CX-30 จำนวน 668 คัน เพิ่มขึ้น 73%, มาสด้า CX-3 จำนวน 383 คัน เพิ่มขึ้นถึง 1,061%, มาสด้า3 จำนวน 199 คัน เพิ่มขึ้น 84% ส่วนปิกอัพมาสด้า บีที-50 เริ่มได้ทยอยส่งมอบให้ลูกค้ามากขึ้นหลังจากมีการผ่อนปรนมาตรการจากไฟแนนซ์ ทำให้ส่งถึงมือลูกค้าแล้วจำนวน 122 คัน เพิ่มขึ้น 190%, มาสด้า CX-8 จำนวน 56 คัน เพิ่มขึ้น 65%, มาสด้า MX-5 จำนวน 3 คัน เพิ่มขึ้น 50% ในขณะที่ยอดจำหน่ายมาสด้า CX-5 มีจำนวน 49 คัน ลดลง 48% ตามลำดับ