มาสด้าสุดปลื้มยอดขายเกินคาดการณ์ผ่านมาครึ่งปีส่งมอบรถไปแล้วมากกว่า 20,000 คัน เติบโตเพิ่มขึ้น 6.4% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกับปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะรถยนต์นั่งมาสด้า2, ครอสโอเวอร์เอสยูวีมาสด้า CX-3 และมาสด้า CX-30 ที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามสร้างยอดขายให้มาสด้าอย่างเป็นกอบเป็นกำ
มร.ทาดาชิ มิอุระ ประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า แม้ว่าในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา อุตสาหกรรมรถยนต์จะมีการแข่งขันสูงและการดำเนินธุรกิจจะต้องประสบกับความท้าทายรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็น จากปัญหาการขาดแคลนเซมิคอนดัคเตอร์สำหรับการผลิต หรือค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้น ฯลฯ แต่ด้วยการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากลูกค้าที่เชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีของมาสด้า จึงทำให้รถยนต์มาสด้ายังคงได้รับการตอบรับที่ดีทุกรุ่น ส่งผลให้ยอดขายรวมระหว่างเดือนมกราคมจนถึงมิถุนายน 2565 เติบโตเพิ่มขึ้นประมาณ 6.4% ซึ่งนับว่าเป็นสัญญาณบวกที่ดีต่อตลาดรถยนต์ ภายหลังจากที่เศรษฐกิจต้องหยุดชะงักไปในช่วง 2 ปี ที่ผ่านมา อันเป็นผลกระทบต่อเนื่องมาจากวิกฤตโควิด-19
สำหรับในช่วงเดือนมกราคม-มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา มาสด้ามียอดขายสะสมสูงถึง 20,117 คัน แบ่งเป็นรถยนต์นั่ง จำนวน 12,111 คัน ได้แก่ รถมาสด้า2 จำนวน 11,242 คัน มาสด้า3 จำนวน 866 คัน และรถสปอร์ตเปิดประทุน มาสด้า MX-5 จำนวน 3 คัน ในขณะที่รถครอสโอเวอร์เอสยูวี มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 7,496 คัน แบ่งเป็น มาสด้า CX-30 จำนวน 3,869 คัน, มาสด้า CX-3 จำนวน 2,792 คัน, มาสด้า CX-5 จำนวน 421 คัน และ มาสด้า CX-8 จำนวน 414 คัน ในขณะที่รถปิกอัพต้นแบบแห่งความสง่างาม มาสด้า บีที-50 สามารถสร้างยอดขายได้อีกจำนวน 510 คัน
“เช่นเดียวกับในเดือนมิถุนายน 2565 ที่ยอดขายมาสด้ามีการเติบโตไปในทิศทางเดียวกัน โดยคิดเป็นเปอร์เซ็นต์เติบโตอยู่ที่ 6.5% ด้วยยอดขายรวมอยู่ที่ 3,199 คัน แบ่งออกเป็น มาสด้า2 จำนวน 1,785 คัน, มาสด้า CX-30 จำนวน 973 คัน, มาสด้า3 จำนวน 175 คัน, มาสด้า CX-3 จำนวน 122 คัน, มาสด้า CX-5 จำนวน 51 คัน, มาสด้า CX-8 จำนวน 12 คัน และรถปิกอัพ มาสด้า บีที-50 อีกจำนวน 81 คัน ตามลำดับ” มร. มิอุระ กล่าวเพิ่มเติม