มาสด้าเปิดเผยยอดจำหน่ายรถยนต์มาสด้าประจำเดือนกันยายนที่ผ่านมา เติบโตเพิ่มขึ้นถึง 64% ที่สำคัญเติบโตเพิ่มขึ้นทุกรุ่นทั้งครอสโอเวอร์เอสยูวี CX-Series และรถยนต์นั่ง ชี้เศรษฐกิจไทยเริ่มส่งสัญญาณปรับตัวดีขึ้น ประกาศเดินหน้าเต็มกำลังเตรียมส่งรถใหม่ลุยไตรมาสสุดท้ายของปี
นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ รองประธานบริหารอาวุโส บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันลดลง ประกอบกับการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์จากภาครัฐที่เริ่มมาตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2564 ล้วนเป็นปัจจัยบวกที่ทำให้ผู้บริโภคเกิดความเชื่อมั่นและเริ่มกลับมาจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น รวมถึงรถยนต์ที่ยังคงเป็นปัจจัยที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญและเป็นสินค้าที่มีโอกาสขยายตัว เนื่องจากผู้บริโภคหันมาใช้รถยนต์ส่วนตัวแทนการเดินทางด้วยรถยนต์สาธารณะมากขึ้น จึงทำให้ตลาดรถยนต์ในเดือนกันยายนที่ผ่านมามีภาพรวมอยู่ในทิศทางที่ดีขึ้น รวมถึงมาสด้า ที่ยอดขายรวมในเดือนกันยายน 2564 เติบโตขึ้นจากเดือนสิงหาคม 2564 ถึง 64% ซึ่งเราเชื่อว่าเศรษฐกิจไทยได้ผ่านจุดที่ต่ำที่สุดมาแล้ว และถือเป็นเรื่องน่ายินดีสำหรับประชาชนชาวไทยทุกคนที่เศรษฐกิจเริ่มกลับมาเดินหน้าได้อีกครั้ง
สำหรับเดือนกันยายน 2564 ที่ผ่านมา ยอดขายรถยนต์มาสด้ามีการเติบโตเพิ่มขึ้นทุกรุ่น เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนสิงหาคม 2564 โดยมาสด้า2 ยังคงเป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมมากที่สุด มียอดขายที่ 1,799 คัน หรือเติบโตขึ้นถึง 86% ตามมาด้วย มาสด้า CX-30 จำนวน 484 คัน เพิ่มขึ้น 47% มาสด้า CX-3 จำนวน 350 คัน เพิ่มขึ้น 24% รถปิกอัพมาสด้า บีที-50 จำนวน 144 คัน เพิ่มขึ้น 106% มาสด้า3 จำนวน 122 คัน เพิ่มขึ้น 28% มาสด้า CX-5 จำนวน 46 คัน เพิ่มขึ้น 7% และมาสด้า CX-8 จำนวน 35 คัน เพิ่มขึ้น 35% ตามลำดับ จึงทำให้เดือนที่ผ่านมามาสด้ามียอดขายรถยนต์รวมทุกรุ่นอยู่ที่ 2,980 คัน หรือเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 64%
ในขณะที่ยอดขายสะสมตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนกันยายน 2564 มีจำนวนทั้งสิ้น 25,813 คัน ลดลงเล็กน้อยเพียง 1% โดยแบ่งออกเป็นรถอเนกประสงค์ตระกูล CX-Series จำนวน 9,698 คัน หรือเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 27% ในขณะที่รถยนต์นั่งมียอดขายรวมที่ 15,155 คัน ลดลงเล็กน้อยเพียง 9% ส่วนรถปิกอัพ มาสด้า บีที-50 เริ่มกลับมาได้รับความนิยมเพิ่มสูงขึ้น มียอดสะสมจำนวน 960 คัน