“ สถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติ (มว.) พัฒนาระบบสอบเทียบเครื่องตรวจจับความเร็วพร้อมด้วยอาคารห้องปฏิบัติการ รวมถึงระบบการถ่ายทอดเทคโนโลยีสำหรับถ่ายทอดค่าความถูกต้องของผลการวัดของเครื่องตรวจจับความเร็ว เพื่อสนับสนุนการบังคับใช้กฏหมาย ให้มีความถูกต้องรัดกุม มีประสิทธิภาพ และเป็นธรรมต่อประชาชน ส่งผลให้เกิดความปลอดภัยบนท้องถนน อีกทั้งยังช่วยลดเวลา และลดค่าใช้จ่ายของผู้ใช้งานในการส่งเครื่องมือไปสอบเทียบต่างประเทศ ”
สถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติ (มว.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ตระหนักถึงความจำเป็นในการสร้างระบบการสอบกลับ (Traceability) ไปยังหน่วย SI ได้อย่างถูกต้อง ซึ่งเป็นกระบวนการที่ใช้พิสูจน์และสร้างมาตรฐานให้แก่เครื่องตรวจจับความเร็วให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เชื่อถือได้ในระดับสากล จึงได้ริเริ่มพัฒนาระบบสอบเทียบเครื่องตรวจจับความเร็ว พร้อมด้วยอาคารห้องปฏิบัติการ รวมถึงระบบการถ่ายทอดเทคโนโลยีสำหรับถ่ายทอดค่าความถูกต้องของผลการวัดของเครื่องตรวจจับความเร็วขึ้นในประเทศไทย
ทั้งนี้ การสอบเทียบที่สามารถสอบกลับไปยังมาตรฐานการวัดแห่งชาติ เป็นวิธีการที่สามารถใช้เพื่อการพิสูจน์และสร้างมาตรฐานให้แก่เครื่องตรวจจับความเร็วดังกล่าวให้สามารถใช้งานได้อย่างถูกต้องและนำมาใช้ในการควบคุมวินัยจราจร ความปลอดภัยบนท้องถนน และความเป็นธรรมในการอ้างอิงทางกฎหมาย โดยกล้องตรวจจับความเร็วรถ แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ 1. Radar Camera และ 2. Laser Camera ซึ่งกรมตำรวจใช้มากสุดคือ Laser Camera ปัจจุบันห้องปฏิบัติการสอบเทียบเครื่องตรวจจับความเร็วของ มว. สามารถสอบเทียบเครื่องตรวจจับความเร็วชนิด Lidar ซึ่งเป็นชนิดที่ใช้หลักการสะท้อนกลับของ Laser เท่านั้น โดยสามารถวัดความเร็วสูงสุดได้ที่ 120 กม./ชม. มีความผิดพลาดของระบบเพียง 0.01 กิโลเมตร / ชั่วโมง โดยจะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ ในเดือนมกราคม 2564 นี้