เป็นกิจกรรมที่ทางฟอร์ด ประเทศไทย ได้เชิญคณะสื่อมวลชนไทยและต่างประเทศร่วมกิจกรรมทดสอบขับรถฟอร์ด เอเวอเรสต์ เจเนอเรชันใหม่ เพื่อสัมผัสประสบการณ์การขับขี่รถยนต์นั่งแบบอเนกประสงค์รุ่นล่าสุดจากฟอร์ดที่ผสานสุดยอดสมรรถนะเพื่อพิชิตทุกการผจญภัยทั้งบนทางเรียบและออฟโรด เข้ากับอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัย ความสะดวกสบายเหนือระดับ และเทคโนโลยีล้ำสมัยภายใต้แนวคิด ‘Life is Yours to Master’ จัดขึ้นที่จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนได้สัมผัสสมรรถนะของรถยนต์รุ่นใหม่ และทดสอบการทำงานของหลายๆ ฟีเจอร์ในฟอร์ด เอเวอเรสต์ เจเนอเรชันใหม่ ที่ติดตั้งมาเป็นครั้งแรกในเซกเมนต์
งานนี้เริ่มต้นด้วยการบรรยายข้อมูลผลิตภัณฑ์ โดยมี มร. เอียน ฟอสตัน หัวหน้าวิศวกรแพลตฟอร์ม T6 เป็นผู้ให้รายละเอียดของการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่คำนึงถึงลูกค้าเป็นอันดับแรก ตั้งแต่การออกแบบตัวถังภายนอกใหม่ให้ดูโดดเด่นมากขึ้น สมรรถนะในการขับขี่ที่ดีกว่าเดิม ความสะดวกสบายและความประณีตภายในห้องโดยสาร รวมถึงเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยและระบบเชื่อมต่อทันสมัยที่ได้รับการยกระดับไปอีกขั้น
โดยภายในงาน ฟอร์ดยังได้จัดแสดงรถฟอร์ด เอเวอเรสต์ เจเนอเรชันใหม่ ครบทั้ง 4 รุ่นย่อย ที่มีจำหน่ายในประเทศไทย ได้แก่ รุ่นเทรนด์ รุ่นสปอร์ต รุ่นไทเทเนียมพลัส 4×2 และรุ่นไทเทเนียมพลัส 4×4 ที่มาพร้อมตัวเลือกขุมพลังเครื่องยนต์ที่เหมาะกับการใช้งานที่แตกต่างกันของรถแต่ละรุ่นย่อย ได้แก่
ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ไทเทเนียมพลัส 4×4 10AT: มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทอร์โบคู่ ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติแบบ E-Shifter 10 สปีด มอบพละกำลัง 210 PS ที่ 3,750 รอบต่อนาที ให้แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตรที่ 1,750-2,000 รอบต่อนาที
ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ไทเทเนียมพลัส 4×2 10AT: ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทอร์โบคู่ มาพร้อมเกียร์อัตโนมัติแบบ SelectShift 10 สปีด ให้กำลัง 210 PS ที่ 3,750 รอบต่อนาที ให้แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตรที่ 1,750-2,500 รอบต่อนาที
ฟอร์ด เอเวอเรสต์ สปอร์ต 4×2 6AT: มาพร้อมเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทอร์โบเดี่ยวทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ให้กำลัง 170 PS ที่ 3,500 รอบต่อนาที ให้แรงบิดสูงสุด 405 นิวตันเมตรที่ 1,750-2,500 รอบต่อนาที
ฟอร์ด เอเวอเรสต์ เทรนด์ 4×2 6AT: ผสานการทำงานของเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทอร์โบเดี่ยว กับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ให้กำลัง 170 PS ที่ 3,500 รอบต่อนาที และให้แรงบิดสูงสุด 405 นิวตันเมตรที่ 1,750-2,500 รอบต่อนาที
กิจกรรมในครั้งนี้ได้สัมผัสสมรรถนะอันเหนือชั้นของฟอร์ด เอเวอเรสต์ เจเนอเรชันใหม่ ทั้งบนทางเรียบและออฟโรด ด้วยฐานล้อที่กว้างขึ้น 50 มิลลิเมตร ฟอร์ด เอเวอเรสต์ เจเนอเรชันใหม่ มอบการควบคุมบนถนนได้ดียิ่งขึ้น ขณะที่การปรับแต่งโช้คอัพใหม่ช่วยเพิ่มความสนุกเร้าใจในการขับขี่และช่วยให้การควบคุมรถทั้งบนถนนและเส้นทางออฟโรดง่ายยิ่งกว่าเคย ทั้งยังมีห้องโดยสารที่ออกแบบอย่างประณีตพิถีพิถัน มอบความสะดวกสบาย ตอบโจทย์การใช้งานอเนกประสงค์ โดยเส้นทางการเดินทางทดสอบครั้งนี้ได้รับการออกแบบโดยเฉพาะ เพื่อให้สื่อมวลชนได้ทดสอบโหมดการขับขี่ที่หลากหลาย อาทิ
โหมดปกติ: ออกแบบเพื่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน ทดสอบคู่กับระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติพร้อมฟังก์ชัน Stop and Go และระบบควบคุมรถให้อยู่กลางช่องทางที่ช่วยตรวจสอบช่องทางจราจรเพื่อให้รถอยู่ตรงกลางเลน ช่วย
ให้ผู้ขับขี่รักษาระยะห่างที่ปลอดภัย และจำกัดความเร็วได้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะขณะขับขี่บนทางไฮเวย์ หรือเส้นทางที่ใช้ความเร็วสูงและมีรถพลุกพล่าน
โหมดประหยัด: ทำงานด้วยการประเมินพฤติกรรมการขับขี่ และปรับการทำงานของระบบส่งกำลังและระบบควบคุมความเร็วให้เหมาะสม เพื่อเพิ่มอัตราการประหยัดน้ำมันให้ได้สูงสุด
โหมดทางลื่น: ปรับการทำงานของเครื่องยนต์ เกียร์ และระบบควบคุมการยึดเกาะถนน เพื่อลดโอกาสที่ล้อจะหมุนฟรี ป้องกันการลื่นไถล
โหมดโคลน: ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ผิวที่ปกคลุมด้วยโคลน กรวด หรือร่องดิน ฟอร์ด เอเวอเรสต์ เจเนอเรชันใหม่ พร้อมตะลุยผ่านได้อย่างมั่นใจด้วยระบบดิฟล็อคหลังไฟฟ้าที่ทำงานแบบอัตโนมัติในโหมดนี้ พร้อมเพิ่มการยึดเกาะให้เต็มประสิทธิภาพและรักษากำลังของรถไว้ ควบคู่กับการปล่อยให้ล้อหมุนด้วยความเร็วเพื่อรีดโคลนออกจากดอกยาง ผู้เข้าร่วมการทดสอบยังได้ขับฟอร์ด เอเวอร์เรสต์ เจเนอเรชันใหม่ลุยผ่านทางน้ำได้อย่างง่ายดาย ด้วยความสามารถในการลุยน้ำได้สูงสุดถึง 800 มม. และทัศนวิสัยที่เพิ่มขึ้นจากกล้องมองรอบคัน 360 องศา
นอกจากประสบการณ์ขับขี่บนทางเรียบและออฟโรดแล้ว คณะสื่อมวลชนยังได้สัมผัสเทคโนโลยีที่ฟอร์ดพัฒนาขึ้นเพื่อมอบทั้งความอเนกประสงค์และความสะดวกสบายในสถานี ‘Comfort and Convenience’ โดยมีฟีเจอร์เด่นๆ อาทิ ฟอร์ดพาส (FordPass™): แอปพลิเคชันที่ยกระดับประสบการณ์การเป็นเจ้าของรถฟอร์ดได้ทุกที่ ทุกเวลา ด้วยบริการเชื่อมต่อและฟีเจอร์อำนวยความสะดวกที่หลากหลาย เช่น การสตาร์ทรถ ล็อกและปลดล็อก ปรับอุณหภูมิรถล่วงหน้า และตรวจสอบสถานภาพของรถผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน
เบาะที่นั่งปรับได้ตามการใช้งาน นอกจากจะรองรับผู้โดยสารได้สูงสุดถึง 7 ที่นั่งแล้ว เบาะนั่งแถวที่ 2 ของฟอร์ด เอเวอเรสต์ เจเนอเรชันใหม่ ยังปรับให้พับราบได้แบบ 60:40 ส่วนเบาะนั่งแถวที่ 3 แบ่งสัดส่วน 50:50 พร้อมฟังก์ชั่นการพับเบาะแบบไฟฟ้าได้ง่ายๆ เพียงกดปุ่มบริเวณที่เก็บของท้ายรถในรุ่นไทเทเนียมพลัส ผู้ขับขี่จึงขนของที่มีขนาดใหญ่ได้อย่างสะดวกสบายและปลอดภัย
ห้องโดยสารของฟอร์ด เอเวอเรสต์ เจเนอเรชันใหม่ กว้างขวางและนั่งสบายได้ทั้งครอบครัว ใส่ใจในรายละเอียดด้วย ‘จุดดักแอปเปิ้ล’ หรือแนวแผงกั้นบริเวณท้ายรถ ช่วยกันไม่ให้ของตกเมื่อเปิดประตูท้าย พร้อมที่เก็บของใต้พื้นรถ ช่วยให้การเก็บสัมภาระเป็นระเบียบยิ่งขึ้น
ฟอร์ดติดตั้งหน้าจอสีแบบสัมผัสขนาด 10.1 หรือ 12 นิ้ว มาในฟอร์ด เอเวอเรสต์ เจเนอเรชันใหม่ เป็นหน้าจอความละเอียดสูงแบบสัมผัสแนวตั้งขนาดใหญ่เพื่อให้ผู้ขับขี่ควบคุมอุปกรณ์เพื่อความบันเทิงและเชื่อมต่อการสื่อสารผ่านระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNC® 4A ซึ่งเป็นระบบล่าสุดของฟอร์ด
ในสถานี ‘Smart Technology’ยังได้ลองใช้เทคโนโลยีช่วยในการขับขี่ขั้นสููง ที่ติดตั้งมาเพื่อเสริมความมั่นใจของผู้ขับขี่ และช่วยให้ควบคุมรถได้ดียิ่งขึ้นในหลากหลายสถานการณ์ ได้แก่ ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ 2.0: ฟอร์ด เอเวอเรสต์ เจเนอเรชันใหม่ ช่วยให้ผู้ขับขี่จอดรถเทียบข้าง หรือถอยจอดเข้าซองได้ง่ายๆ เพียงกดปุ่มเดียว โดยระบบจะช่วยหมุนพวงมาลัย เปลี่ยนเกียร์ รวมถึงควบคุมคันเร่งและเบรก ให้รถเข้าสู่ช่องจอดได้อย่างง่ายดาย
ระบบช่วยเบรกขณะถอยหลัง: ช่วยให้ผู้ขับขี่ถอยรถได้มั่นใจยิ่งขึ้น ด้วยการตรวจจับวัตถุบริเวณท้ายรถ และส่งเสียงเตือน หากผู้ขับขี่ไม่สามารถตอบสนองได้ทัน ระบบจะส่งแรงเพื่อเบรกจนรถหยุดนิ่ง