ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ เจเนอเรชันใหม่ ไม่ได้พัฒนามาเพื่อตะลุยทะเลทรายและพิชิตเขาสูงชันเท่านั้น แต่เครื่องยนต์เบนซิน 3.0 ลิตร Ecoboost V6 เทอร์โบคู่อันทรงพลัง ยังมอบความเงียบสงบเมื่อขับขี่ในเมืองได้ ด้วยระบบท่อไอเสียควบคุมไฟฟ้า พร้อมโหมดปรับเสียงให้เลือกได้ถึง 4 โหมด รวมถึง ‘โหมดเงียบ’ สำหรับการสตาร์ทรถตอนเช้าตรู่ด้วย ระบบท่อไอเสียที่ออกแบบใหม่ทั้งหมด ควบคุมเสียงจากเครื่องยนต์ที่ให้พละกำลังสูงถึง 397PS ด้วยการใช้ระบบท่อไอเสียแบบแอคทีฟวาล์วที่เปิด-ปิดได้เหมือนการทำงานของแซกโซโฟนหรือออร์แกนขนาดใหญ่ เพื่อกำหนดความดังของเสียงท่อรถตามความต้องการของผู้ขับขี่ ผู้ขับขี่เลือกโหมดท่อไอเสียได้ทั้งแบบแมนนวล เพียงกดปุ่มที่แสดงสัญลักษณ์ของท่อไอเสียบนพวงมาลัย หรือให้ระบบเลือกโหมดเสียงแบบอัตโนมัติ ซึ่งปรับตามโหมดการขับขี่ที่เลือกใช้ โดยเสียงท่อมีให้เลือกถึง 4 แบบ ได้แก่ โหมดเงียบ โหมดปกติ โหมดสปอร์ต และโหมดบาฮา
หนึ่งในฟีเจอร์ที่ลูกค้าชื่นชอบมากที่สุดในรถยนต์สมรรถนะสูงอย่างฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ เจเนอเรชันใหม่ คือเสียงท่อไอเสียอันทรงพลังที่ทำให้ผู้ขับขี่รู้สึกตื่นเต้นเร้าใจ ซึ่งอาจเหมาะกับการวิ่งบนทางหลวงหรือพื้นที่นอกเมือง แต่สำหรับการขับขี่ในละแวกบ้านโดยเฉพาะในเวลาเช้ามืดหรือกลางดึก เสียงที่อวดความแรงของรถอาจไม่เหมาะสมเท่าใดนัก ฟอร์ดจึงให้เจ้าของรถฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ เจเนอเรชันใหม่ ควบคุมเสียงของเครื่องยนต์ให้เบาลงได้โดยเลือกโหมดเงียบในเวลาที่ต้องการ ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ขับขี่ยังตั้งค่า ‘สตาร์ทรถแบบเงียบ’ เพื่อให้รถสตาร์ทเครื่องในโหมดเงียบเสมอ หรือตั้งเวลาสำหรับโหมดเงียบแบบอัตโนมัติ (ตั้งเวลาเริ่มต้น และสิ้นสุด) เพื่อลดมลพิษทางเสียงให้แก่เพื่อนบ้านนั่นเอง
ผู้ขับขี่ควบคุมเสียงท่อไอเสียได้ง่ายๆ เพียงกดปุ่มบนพวงมาลัยที่มีสัญลักษณ์รูปท่อไอเสีย โดยการกดครั้งแรกจะมีข้อความแสดงโหมดที่เลือกบนแผงหน้าปัดดิจิทัล และกดปุ่มอีกครั้ง เพื่อเปลี่ยนโหมดการควบคุมเสียงท่อไอเสียได้ ดังนี้
โหมดเงียบ – ให้เสียงท่อไอเสียเงียบที่สุด เหมาะกับการขับขี่ทุกรูปแบบ
โหมดปกติ – สำหรับใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน ด้วยเสียงเครื่องยนต์ที่ไม่ดังเกินไปสำหรับการขับบนท้องถนน โดยจะเป็นค่าเริ่มต้นสำหรับการขับขี่โหมดปกติ โหมดถนนลื่น โหมดโคลน/ร่อง และโหมดหิน
โหมดสปอร์ต – มอบเสียงดังกระหึ่มขึ้น เมื่อต้องการเพิ่มความตื่นเต้นเร้าใจยิ่งขึ้น
โหมดบาฮาi – อวดความแรงสูงสุดทั้งความดังและความทุ้ม สำหรับการขับขี่ออฟโรดเท่านั้น