ฟอร์ดสร้างนิยามใหม่ให้กับวงการรถกระบะอีกครั้ง ด้วยการเผยโฉมฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชันใหม่ รถกระบะที่แกร่งที่สุด สมบุกสมบันที่สุด และชาญฉลาดที่สุดในตระกูลฟอร์ด เรนเจอร์ เพื่อเป็นรถคู่ใจที่พร้อมเป็นเพื่อนลุยในทุกเส้นทาง มีรูปลักษณ์ที่ดุดันและโฉบเฉี่ยว ด้วยภายนอกที่สะท้อนดีเอ็นเอรถกระบะระดับโลกของฟอร์ด ตั้งแต่กระจังหน้าใหม่ที่โดดเด่น และไฟหน้าใหม่รูปตัว C อันเป็นเอกลักษณ์ โดยมีเส้นสายบริเวณด้านข้างของตัวรถเชื่อมต่อไปยังซุ้มล้ออย่างโดดเด่น เพิ่มความรู้สึกที่มั่นคง และถือเป็นครั้งแรกที่ฟอร์ด เรนเจอร์ มีไฟหน้าแบบเมทริกซ์ แอลอีดี ส่วนด้านหลังของรถได้รับการออกแบบมาให้สอดรับกับการกราฟฟิคด้านหน้า ห้องโดยสารได้รับการยกระดับให้เหมือนกับรถยนต์นั่งส่วนบุคคลมากขึ้นด้วยการเลือกใช้วัสดุที่หรูหรา ให้สัมผัสนุ่มสบาย อัดแน่นด้วยระบบเชื่อมต่อการสื่อสารและความบันเทิงไม่ว่าจะเป็นหน้าจอแบบสัมผัสแนวตั้ง และระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNC® 4 ของฟอร์ด
ภายใต้ตัวรถที่ออกแบบขึ้นใหม่ยังมีแชสชีสที่แข็งแกร่งขึ้นบนฐานล้อที่มีความยาวขึ้น 50 มิลลิเมตร และความกว้างเพิ่มขึ้นอีก 50 มิลลิเมตร เมื่อเทียบกับเรนเจอร์รุ่นก่อนหน้า โครงสร้างตัวถังด้านหน้ายังทำให้รถคันนี้พร้อมรองรับเทคโนโลยีระบบส่งกำลังหลากหลายรูปแบบในอนาคต และยังเผื่อพื้นที่ไว้ให้อากาศถ่ายเทไปยังหม้อน้ำได้มากขึ้น ช่วยลดอุณหภูมิเครื่องยนต์เมื่อใช้รถในการลากจูง หรือบรรทุกสัมภาระ
ฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชันใหม่ มาพร้อมตัวเลือกเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบเดี่ยว และเทอร์โบคู่ 2.0 แบบสี่สูบ เครื่องยนต์เทอร์โบเดี่ยวมีสมรรถนะให้เลือกสองแบบ พร้อมส่งมอบกำลัง แรงบิด และการประหยัดน้ำมัน ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่มีความสำคัญสำหรับเจ้าของธุรกิจขนาดเล็ก หรือผู้ประกอบการธุรกิจขนส่ง ส่วนเครื่องยนต์เทอร์โบคู่มอบประสบการณ์ที่เหนือชั้นขึ้นไปอีก สำหรับลูกค้าที่ต้องการกำลังที่แรงกว่า แต่ยังคงประหยัดเชื้อเพลิง ระบบเกียร์ในฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชันใหม่ ยังได้รับการพัฒนาไปอีกขั้น โดยมีตัวเลือกเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด หรือธรรมดา 6 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด มีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อให้เลือก 2 ระบบ ได้แก่ ระบบเปลี่ยนเกียร์อิเล็กทรอนิกส์แบบ Shift-On-The-Fly และระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัจฉริยะแบบเต็มเวลา (set-and-forget mode) ที่ออกแบบมาให้ตอบโจทย์การขับขี่ของลูกค้าได้ในทุกสภาพถนน ทั้งยังมีอุปกรณ์ช่วยเหลือในการขับขี่ออฟโรดที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น ด้วยตะขอเกี่ยวคู่หน้าที่กันชนหน้า
ฟอร์ดมุ่งมั่นในการพัฒนาเสถียรภาพในการขับขี่เพื่อให้ตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างกว้างขวางทั้งสำหรับการใช้ทำงาน การเป็นรถสำหรับครอบครัว และการเป็นเพื่อนคู่ใจในการเดินทางพักผ่อน วิศวกรของฟอร์ดจึงให้ความใส่ใจทุกขั้นตอนในการพัฒนา ทีมวิศวกรได้ขยับให้ล้อหน้าขึ้นมาด้านหน้าอีก 50 มิลลิเมตร เพื่อเพิ่มมุมเงย และปรับจูนช่วงหน้าให้รองรับการขับขี่แบบออฟโรดให้ดีขึ้น ช่วยยกระดับประสบการณ์การขับขี่แบบออฟโรดด้วย นอกจากนี้ยังย้ายโช๊คหลังไปไว้ด้านนอกเพลาเพื่อให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารนั่งได้สบายขึ้นทั้งการขับขี่บนทางเรียบและออฟโรด ทั้งในการขนสัมภาระ หรือพาครอบครัวไปรับประทานอาหารเย็น
ห้องโดยสารภายในที่มีพื้นที่กว้างขวาง ทันสมัย รองรับการใช้งานได้หลากหลายทั้งใช้ทำงานและใช้เป็นรถของครอบครัว ฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชันใหม่ จึงต้องทำหน้าที่เป็นทั้งห้องทำงาน และพื้นที่ส่วนตัวได้ในคราวเดียวกัน ด้วยฟีเจอร์อันชาญฉลาด ระบบเชื่อมต่อการสื่อสารทันสมัย ให้ความรู้สึกสะดวกสบาย และมอบพื้นที่เก็บของมากขึ้นกว่าเดิม การควบคุมโหมดการขับขี่ต่างๆ ย้ายจากแผงหน้าปัดและคอนโซลเดิมมารวมอยู่ที่หน้าจอ SYNC เพียงปุ่มกดเดียว ผู้ขับขี่ก็จัดการโหมดการขับขี่ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นทางเรียบหรือออฟโรดได้บนจอเดียว โดยสามารถควบคุมระบบขับเคลื่อน ดูองศาการเลี้ยว มุมเอียง มุมโคลง และข้อมูลอื่นๆ อีกมากมาย
หัวใจหลักของประสบการณ์การเชื่อมต่อบนฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชันใหม่ คือหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ 10.1 หรือ 12 นิ้วตรงกลางคอนโซล เติมเต็มแผงหน้าปัดแบบดิจิทัลเต็มรูปแบบด้วยระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNC® 4 ระบบความบันเทิง และระบบแสดงข้อมูล ยิ่งกว่านั้นฟอร์ดยังติดตั้งโมเด็มมาในตัวเพื่อเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันฟอร์ดพาส ทำให้ลูกค้าเชื่อมต่อการสื่อสารกับรถได้ตลอดเวลา โดยฟอร์ดพาสจะช่วยยกระดับประสบการณ์การเป็นเจ้าของรถด้วยฟีเจอร์ที่น่าสนใจ ทั้งการสตาร์ทรถจากระยะไกล ตรวจเช็คข้อมูลสภาพรถเบื้องต้น และสามารถล็อคและปลดล็อคจากระยะไกลได้ผ่านสมาร์ทโฟน หน้าจอดังกล่าวยังเชื่อมกับกล้อง 360 องศา ช่วยให้การจอดรถในเมืองหรือพื้นที่แคบเป็นเรื่องง่าย และช่วยตรวจสอบสิ่งกีดขวางรอบตัวรถระหว่างการขับขี่บนเส้นทางออฟโรดได้ เทคโนโลยีบนฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชันใหม่ ยังพร้อมรองรับการอัพเดตของซอฟต์แวร์ต่างๆ ในอนาคตผ่านโมเด็มที่ติดตั้งมากับรถ
ทีมออกแบบของฟอร์ดยังสร้างสรรค์พื้นที่จัดเก็บสัมภาระได้อย่างชาญฉลาด มอบความสะดวกสบายให้เจ้าของรถ นอกจากที่วางโทรศัพท์มือถือและแท่นชาร์จไร้สาย (ขึ้นอยู่กับตลาดที่วางจำหน่าย) ยังมีช่องขนาดใหญ่บริเวณกลางคอนโซลสำหรับเก็บของ ช่องเก็บของบริเวณประตูออกแบบมาให้เก็บของได้มากขึ้น ส่วนแผงหน้าปัดรถซ่อนลิ้นชักเก็บของไว้อย่างแนบเนียน พร้อมที่เก็บของเพิ่มเติมใต้และหลังเบาะหลัง ระบบสั่งการเปิด-ปิดไฟภายนอกแบบแยกส่วนที่สามารถควบคุมได้ผ่านหน้าจอ SYNC หรือแอปพลิเคชันฟอร์ดพาส มอบความสว่าง 360 องศารอบตัวรถเพื่อให้ลูกค้ามองเห็นได้ดีขึ้น และไฟส่องสว่างกระบะท้ายที่ติดตั้งอยู่ที่ใต้รางกระบะด้านซ้ายและขวา ช่วยให้มีแสงสำหรับทำงานหรือค้นหาสิ่งของในที่แสงน้อยหรือยามกลางคืน
การสังเกตการใช้งานจริงของลูกค้าเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบบันไดเหยียบข้างกระบะท้ายในฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชันใหม่ เพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถขึ้นกระบะท้ายได้อย่างสะดวกสบายและมั่นใจ ยิ่งไปกว่านั้น ทีมงานยังออกแบบการเก็บสัมภาระให้เป็นไปได้หลากหลายวิธีมากขึ้น เพื่อให้การบรทุกของทำได้อย่างลงตัวและปลอดภัย
การออกแบบรถโดยมีลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ยังครอบคลุมไปถึงยางปูพื้นท้ายกระบะเนื้อหนาที่ช่วยทั้งป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดกับพื้นกระบะ และปกป้องเข่าของเจ้าของรถไม่ให้เข่าต้องโดนพื้นที่ทำจากเหล็กโดยตรง ฟอร์ดติดตั้งหูยึดกระบะบริเวณราวเหล็กเพื่อให้คาดเชือกหรือผ้าใบยึดสัมภาระได้หนาแน่นมากขึ้น และยังมีวัสดุหุ้มขอบกระบะครอบคลุมทั้งด้านข้างและบนฝากระบะท้าย ซ่อนจุดยึดหลังคากระบะหรืออุปกรณ์เสริมอื่นๆ ไว้ด้านล่าง สำหรับลูกค้าที่ต้องการติดตั้งอุปกรณ์เสริมท้ายกระบะในภายหลัง ยังมีระบบจัดการการเก็บสัมภาระแบบใหม่ ที่ออกแบบมาให้มีที่กั้นเพื่อเก็บของได้หลายขนาด เช่น ท่อนไม้ หรือกล่องเครื่องมือ เจ้าของรถยังสามารถแบ่งกระบะท้ายให้เป็นช่องเล็กๆ เพื่อจัดเก็บของที่ปกติต้องเก็บในห้องโดยสาร โดยใช้หมุดสปริงที่มีความแข็งแรงพิเศษยึดกับราวเหล็กที่ขอบกระบะ ส่วนฝาปิดกระบะท้ายยังสามารถเปลี่ยนเป็นโต๊ะนั่งทำงานได้ โดยมีมาตรวัด และช่องยึดแคล้มป์อยู่ที่ฝากระบะท้ายสำหรับการวัดและตัดวัสดุต่างๆ