ฟอร์ดลงทุนกว่า 5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1.65 ล้านล้านบาท เพื่อปฏิวัติวงการรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลก โดยปัจจุบันเป็นบริษัทที่มียอดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าสูงที่สุดเป็นอันดับ 2 ในสหรัฐอเมริกา จากความสำเร็จของรถกระบะเอฟ-150ไลท์นิ่งและรถฟอร์ด มัสแตง มัค-อี นอกจากนี้ รถฟอร์ด อี ทรานซิสยังเป็นผู้นำตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ในหลายประเทศทั่วโลก ฟอร์ดพร้อมตอบสนองความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น และมีเป้าหมายที่จะส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าให้ได้ปีละ 600,000 คันทั่วโลกภายในสิ้นปีนี้ และปีละ 2 ล้านคันทั่วโลกภายในปี 2026 ตามนโยบายฟอร์ด พลัส
นอกจากนี้ ในปี 2026 ฟอร์ดจะเป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์เพียงรายเดียวที่มีรถเข้าร่วมการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตตั้งแต่ระดับเริ่มต้นไปจนถึงฟอร์มูล่าวัน ประกอบด้วยสนาม ดับบลิวอีซี (WEC) และ ไอเอ็มเอสเอ (IMSA) รวมถึงการส่งมัสแตง จีที 3 ลงสนามแข่งขันเลอ มังส์24 ชั่วโมง (Le Mans 24 Hours) รถฟอร์ด เอ็ม-สปอร์ต พูมา ไฮบริด แรลลี 1 ลงสนามดับบลิวอาร์ซี (WRC) รถเรนเจอร์ แร็พเตอร์ และบรองโค ลงสนาม บาฮา 1000 (Baja 1000) และฟอร์ด มัสแตง ลงสนามแนสคาร์ (NASCAR) เอ็นเฮชอาร์เอ (NHRA) และ ซูเปอร์คาร์ (Supercars) โดยฟอร์ดจะใช้ความรู้และประสบการณ์จากการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตมาช่วยเร่งการพัฒนานวัตกรรม เทคโนโลยีและซอฟต์แวร์ให้แก่ผู้บริโภค พร้อมทั้งร่วมมือกับพันธมิตร ณ จุดสูงสุดของวงการมอเตอร์สปอร์ตเพื่อส่งเสริมการพัฒนายานยนต์ไฟฟ้าของฟอร์ดต่อไป