ฟอร์ด ประเทศไทย มอบรถพยาบาลบริการการแพทย์ฉุกเฉิน BACE รุ่น RESCUE T1 พร้อมอุปกรณ์การแพทย์ครบครันจำนวน 10 คัน มูลค่ากว่า 12 ล้านบาท ให้แก่กระทรวงสาธารณสุข เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานทางการแพทย์ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และเพื่อใช้งานตามวัตถุประสงค์อื่นที่จำเป็นหรือเป็นประโยชน์ต่อสังคม โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และดร. สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้รับมอบจากนายวิชิต ว่องวัฒนาการ กรรมการผู้จัดการ ฟอร์ด ประเทศไทย พร้อมด้วยนายจักริศวร์ โลจนะโกสินทร์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอส.เอส.เอส. ออโตโมทีฟ อินดัสทรี จำกัด และคณะ
ฟอร์ด ประเทศไทย และบริษัท เอส.เอส.เอส. ออโตโมทีฟ อินดัสทรี จำกัด ได้ทำงานร่วมกันในการนํารถกระบะฟอร์ด เรนเจอร์ มาดัดแปลงให้มีห้องพยาบาลด้านท้ายเป็นตู้ทรงสูงโดยใช้ชื่อว่ารถพยาบาล BACE รุ่น RESCUE T1 โดยคำนึงถึงความเหมาะสมเพื่อใช้ในการปฏิบัติงานจริง โดยเฉพาะการขนส่งผู้ป่วยในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เนื่องจากมีการแบ่งกั้นห้องคนขับและห้องพยาบาล รวมถึงการแยกระบบเครื่องปรับกาศของห้องคนขับและห้องพยาบาลไม่ให้อากาศไหลเวียนปนกันเพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อโรคในละอองขนาดเล็ก ช่วยลดความเสี่ยงจากการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ผู้ดำเนินการขนส่งผู้ป่วยและผู้มีอาการจากการติดเชื้อโควิด-19
รถพยาบาล BACE รุ่น RESCUE T1 ประกอบด้วยตู้พยาบาลทรงสูง การออกแบบและผลิตได้ให้ความสำคัญกับความสะดวกสบายแม้จะอยู่ในพื้นที่ขนาดกะทัดรัด เพิ่มประสิทธิภาพและความคล่องตัวให้กับเจ้าหน้าที่ขณะดูแลและช่วยชีวิตผู้ป่วย โดยโครงสร้างของห้องพยาบาลทําจากเหล็กและอลูมิเนียมอัลลอย ผนังด้านหน้า ด้านซ้าย ด้านขวา และด้านบน ผลิตจากแผ่นไฟเบอร์กลาสคุณภาพสูง มีความแข็งแรง ผนังทุกด้านสามารถรับแรงกด แรงดึง หรือแรงกระแทกได้เป็นอย่างดี ยิ่งไปกว่านั้น แผ่นไฟเบอร์กลาสที่ใช้ทำผนังด้านในของห้องพยาบาลยังเป็นชนิดเดียวกับที่ใช้ในห้องผู้ป่วยวิกฤต (ICU) ของโรงพยาบาลในยุโรป มีคุณสมบัติป้องกันแบคทีเรียตามมาตรฐานระดับสากลทั้ง ISO 22196 และ JIS Z 2801
ความสูงของห้องพยาบาลจากพื้นถึงเพดาน 155 เซนติเมตร ยังเพิ่มความสะดวกแก่เจ้าหน้าที่ในการปั๊มหัวใจฟื้นคืนชีพ (CPR) มีจุดยึดตรึงสําหรับแขวนตัวที่รับน้ำหนักได้ไม่น้อยกว่า 120 กิโลกรัม ช่วยให้สามารถยืนปฏิบัติการ CPR ได้สะดวก และด้วยความกว้างภายในถึง 170 เซนติเมตร ทำให้เพียงพอต่อการจัดวางที่นั่ง และการจัดวางเตียงพยาบาลผู้ป่วยฉุกเฉินในลักษณะนอนราบ มีที่จัดเก็บอุปกรณ์การแพทย์และอุปกรณ์อื่นที่จําเป็นอย่างเป็นสัดส่วน เป็นระเบียบ และมีความปลอดภัย ป้องกันการหลุดร่วงจากที่จัดเก็บในกรณีที่รถมีการชนหรือกระแทก รวมถึงมีชุดแปลงไฟฟ้าจากกระแสตรง 12 โวลท์ เป็นกระแสสลับ 220 โวลท์ ขนาด 1,000 วัตต์ 50 เฮิร์สต์ เพื่อใช้กับเครื่องมือแพทย์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าที่จําเป็นต่องานกู้ชีพ-กู้ภัย