ทุกๆ สองนาทีจะมีรถฟอร์ด เรนเจอร์ ประกอบเสร็จจากสายพานของโรงงานฟอร์ด ไทยแลนด์ แมนูแฟคเจอริ่ง หรือเอฟทีเอ็ม เพื่อส่งไปยังผู้แทนจำหน่ายของฟอร์ดใน 28 ประเทศทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ตั้งแต่วินาทีแรกที่ฟอร์ด เรนเจอร์ แต่ละคันเดินทางเข้าสู่สายพานจนถึงขั้นตอนสุดท้ายของกระบวนการผลิต พนักงานของเอฟทีเอ็มทุกคนต่างทุ่มเทแรงกายแรงใจในการทำงานส่วนของตนให้ดีเยี่ยม เพื่อให้มั่นใจว่ารถกระบะทุกคันจะมีคุณสมบัติและสมรรถนะ ตรงตามมาตรฐานระดับโลกของฟอร์ด
ไม่เพียงการดูแลคุณภาพบนสายการผลิตเท่านั้น ฟอร์ดยังมีทีมงานตรวจสอบคุณภาพประจำอยู่ที่ศูนย์ประเมินรถยนต์ หรือ Vehicle Evaluation Centre – VEC ทำหน้าที่ตรวจสอบทุกขั้นตอนการผลิตให้ตรงตามข้อกำหนดอย่างเคร่งครัด ควบคู่กับการปรับปรุงกระบวนการตรวจสอบคุณภาพให้ทันสมัยอยู่เสมอ ทีมตรวจสอบคุณภาพซึ่งมีผู้ตรวจสอบที่มีประสบการณ์การทำงานด้านนี้มาโดยเฉลี่ยคนละมากกว่า 10 ปี ทำหน้าที่ดูแลการทดสอบที่สุดแสนหฤโหดมากมาย อาทิเช่น
การทดสอบศูนย์ล้อ และไฟหน้า
แต่ละวัน ผู้ทดสอบจะเลือกรถทุกรุ่น รุ่นละอย่างน้อย 1 คัน มาตรวจด้วยการใช้เลเซอร์วัดว่าล้อแต่ละล้อได้รับการติดตั้งอย่างสมมาตรหรือขนานกันหรือไม่ จากนั้นจึงส่งรถไปยังสนามทดสอบจริงเพื่อพิสูจน์ว่าพวงมาลัยของรถตั้งตรงตามค่าที่กำหนด และรถขับเคลื่อนไปข้างหน้าเป็นเส้นตรง ไม่เอียงไปทางใดทางหนึ่ง จากนั้นจึงเข้าสู่ขั้นตอนการตรวจไฟหน้าอย่างละเอียด โดยผู้ตรวจสอบจะขับรถเข้าไปในพื้นที่ปิด ปราศจากแสงจากภายนอกเพื่อให้มีความมืดเพียงพอ เมื่อจอดรถตรงจุดที่กำหนดแล้ว จึงเปิดไฟหน้ารถ กล้องที่ติดไว้เหนือบริเวณที่ทดสอบจะแสดงให้เห็นว่าแสงจากไฟหน้าส่องไปในทิศทางที่กำหนด และมีลำแสงและความสว่างสม่ำเสมอหรือไม่
การทดสอบอากาศรั่วซึม
ห้องโดยสารที่ปิดสนิทเป็นปัจจัยหนึ่งที่สะท้อนถึง ‘ความประณีต’ ในการประกอบรถฟอร์ด เรนเจอร์ และยังช่วยป้องกันกลิ่นไม่พึงประสงค์ไม่ให้เล็ดลอดเข้ามาในรถ ผู้ตรวจสอบจะอัดอากาศเข้าไปในห้องโดยสารของฟอร์ด เรนเจอร์ คันที่ถูกสุ่มตรวจ เพื่อให้มั่นใจว่าขอบยางริมประตูและหน้าต่างรถ รวมถึงการหมุนเวียนอากาศของระบบปรับอากาศ จะป้องกันไม่ให้อากาศไหลเข้าออกได้ เมื่อมีการเติมอากาศเข้าไปในห้องโดยสาร ผู้ตรวจสอบจะต้องคอยจับตาดูระดับความดันภายในห้องโดยสาร เพื่อสังเกตว่ามีอากาศรั่วออกมาจากขอบประตู-หน้าต่างหรือไม่
การทดสอบด้วยน้ำ
หนึ่งในขั้นตอนสำคัญของการทดสอบคุณภาพรถ คือการทดสอบความสามารถในการป้องกันการรั่วซึมของขอบสูญญากาศบริเวณประตูและหน้าต่าง ทีมผู้ตรวจสอบจะฉีดน้ำกว่า 17,000 ลิตรเข้าไปที่ตัวรถและรถบางคันยังต้องผ่านการอัดน้ำแรงดันสูงต่อเนื่องเป็นเวลานานถึง 20 นาที เพื่อจำลองสถานการณ์ฝนกระหน่ำแบบที่เลวร้ายที่สุดเท่าที่จะจินตนาการได้ หลังจากปิดน้ำ ทีมงานจะต้องตรวจสอบทุกรายละเอียด เริ่มจากการตรวจด้วยสายตาเพื่อให้แน่ใจว่ากรอบไฟหน้า ไฟท้าย และไฟตัดหมอก ไม่มีน้ำรั่วซึม จากนั้นจึงเปิดประตูรถ และตรวจเช็คขอบยางว่ามีน้ำเกาะหรือไม่ และยังมีการใช้เครื่องมือพิเศษตรวจสอบเพิ่มเติมบริเวณพรมและพื้นห้องโดยสารด้วย โดยเครื่องมือนี้จะส่งสัญญาณแจ้งเตือนเมื่อดักจับพบความชื้น
การจำลองประสบการณ์ลูกค้า
ในขั้นตอนสุดท้าย ฟอร์ด เรนเจอร์ จะต้องผ่านการจำลองประสบการณ์ลูกค้า หรือ Ford Customer Product Audit ที่แบ่งออกเป็นสองส่วน ได้แก่ การทดสอบแบบไดนามิกหรือการทดสอบขับ และการทดสอบขณะจอด โดยใช้ประสาทสัมผัสของผู้ตรวจสอบ ในการทดสอบแบบไดนามิก ผู้ตรวจสอบจะขับรถฟอร์ด เรนเจอร์ ไปตามเส้นทางที่กำหนดขึ้นโดยทีมพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อทดลองใช้ทุกระบบบนรถ ตั้งแต่ระบบแจ้งเตือนขั้นพื้นฐาน ไปจนถึงระบบช่วยขับขี่ระดับสูง (Advanced Driver-Assistance Systems) ส่วนการทดสอบรถขณะจอดนั้น จำเป็นต้องให้ทีมผู้ตรวจสอบสัมผัสทุกพื้นผิวของรถด้วยตนเอง เพื่อหาจุดบกพร่องของตัวรถ นอกจากนี้ ยังมีการใช้เครื่องมือพิเศษช่วยตรวจดูความสม่ำเสมอของรอยต่อตัวถังทั่วทั้งคัน และยังสอดส่องไปถึงห้องเครื่องเพื่อให้มั่นใจว่าทุกชิ้นส่วนติดตั้งมาตรงกับมาตรฐานและมีความแน่นหนาพอ