สำหรับโตโยต้าฟอร์จูนเนอร์เป็นรถพีพีวียอดฮิตของคนที่ชื่นชอบรถสไตล์นี้ เห็นได้จากยอดขายที่เป็นเบอร์ 1 แม้ว่าจะมีการปรับเปลี่ยนน้อยแต่ก็ทำให้ฟอร์จูนเนอร์เข้าถึงความรู้สึกของคนไทยมากขึ้น เห็นได้จากแต่ละจุดที่ถูกปรับเปลี่ยนเพื่อให้คนไทยมีความพอใจมากที่สุด
หน้าตาของฟอร์จูนเนอร์ 3.0 ดูคมเข้มกับกระจังหน้าขนาดใหญ่ คล้ายๆ กับพราโด ใช้ไฟหน้าเป็นเลนส์โปรเจกเตอร์ HID ทำให้ได้แสงขาวๆ สว่างจ้าในยามค่ำคืน มีระบบเปิด-ปิด ไฟหน้าอัตโนมัติ ไม่ให้ไปรบกวนคันข้างหน้า พร้อมระบบทำความสะอาดไฟหน้าแบบพับซ่อนได้
เหตุที่เศรษฐีภูธรชอบฟอร์จูนเนอร์เพราะ เป็นรถที่ดูภูมิฐาน สามารถลุยได้เมื่อต้องการ โดยไม่ต้องกังวลกับค่าใช้จ่ายของการซ่อมบำรุงที่จะเกิดขึ้น เมื่อมีราคาไม่แตกต่างจากรถกระบะทั่วๆไป
ขนาดความยาว 4,705 มม. กว้าง 1,840 มม. และสูง 1,795 มม. มีฐานล้อยาว 2,750 มม. น้ำหนักรถ 1,960 กก. มีใต้ท้องสูงพอสำหรับการลุย ช่วงล่างด้านหลังเป็นคอยสปริง สามารถปรับเปลี่ยนได้ง่ายหากต้องการ
ยางขนาด 265/65R17 เพียงพอสำหรับการเกาะถนนทั้งถนนแห้งและถนนเปียก ดอกยางที่ไม่ใหญ่มากทำให้เสียงเงียบกว่ายางดอกใหญ่เมื่อใช้ความเร็วสูง เมื่อต้องการลุยทางฝุ่น ก็สามารถทำได้ ส่วนการลุยหนักๆ รถสไตล์นี้คงไม่มีใครนิยมทำกัน
การเลือกปรับเปลี่ยนเกียร์สำหรับลุย ก็เลือกได้จากคันเกียร์ เลือกระบบขับเคลื่อนที่มีความทนทานกว่าการใช้ปุ่มกดเลือกระบบขับเคลื่อนที่ควบคุมด้วยไฟฟ้า
เพียงพอสำหรับตัวถังขนาดนี้ เมื่อใช้เครื่องยนต์แถวเรียง 4 สูบ ทวินแคม 16 วาล์ว พร้อมเทอร์โบแปรผันอินเตอร์คูลเลอร์ในรหัส IKD-FTVความจุ 2,982 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 171 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 360 นิวตัน-เมตร ที่ 1,400 – 3,200 รอบต่อนาที
เป็นกำลังที่ถูกปรับเพิ่มขึ้นมา หากเปรียบเทียบกับการเปิดตัวตอนแรก รอบเครื่องยนต์ที่ความเร็ว 100 กม./ชม. ไม่ถึง 2,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด อัตราเร่งทำได้ทันใจพอสมควรดีกว่ารุ่น 2.5 การเร่งแซงไม่ต้องรอรอบ ช่วงล่างที่ถูกปรับให้นุ่มขึ้นก็ไม่ถึงกับทำให้รถเกิดอาการโคลงเวลาเข้าโค้ง โดยใช้กันสะเทือนหน้า แบบ ดับเบิ้ลวิชโบน สปริงและเหล็กกันโคลง ด้านหลังเป็นโฟร์ลิ้ง คอยล์สปริง
ภายในห้องโดยสารจะมีการปรับปรุงบ้าง แต่ก็ไม่รู้สึกแตกต่างไปจากรุ่นแรกๆ เบาะหลังสุดใช้การพับเก็บไว้ข้างๆ อาจจะสะดวกแต่ก็ยังกินพื้นที่อยู่ ส่วนการใช้งานทั่วๆ ไป ก็ยังถือว่าไม่ล้าสมัย สำหรับรถที่ขายกันมานานแล้ว