หลังจากมีความจำเป็นต้องปิดทำการชั่วคราวนานกว่า 2 ปี ถึงเวลาของการกลับมาอย่างยิ่งใหญ่กว่าเดิม พร้อมขยายขอบเขตของการจัดแสดงเพิ่มเติม ในวันเสาร์ที่ 18 กันยายน 2021 เวลา 19:00 p.m. (เวลาท้องถิ่นเยอรมนี)พิพิธภัณฑ์ Porsche Museum จะทำการสตาร์ทเครื่องยนต์ของรถแข่ง และรถสปอร์ตจากสายการผลิตปกติ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของผลงานสะสมของบริษัท ทั้งนี้ยนตรกรรมสปอร์ตดังกล่าวล้วนเคยผ่านบทบาทหรือกำลังจะมีบทบาทในการบันทึกประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้แก่วงการความเร็วระดับโลก “เรารู้สึกยินดีอย่างยิ่งในการประกาศการจัดนิทรรศการดิจิทัล Sound Night ครั้งแรกให้แฟนๆ และลูกค้าทั่วทุกมุมโลกได้รับชม วิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า ส่งผลให้เราต้องเผชิญกับความท้าทายอันใหญ่หลวงแต่มองอีกมุมนึงคือสิ่งที่นำพาให้เราแสวงหาโอกาสใหม่ๆ เช่นเดียวกัน” ข้างต้นคือคำอธิบายจาก Achim Stejskal หัวหน้าส่วนงาน Porsche Heritage and Museum “จากเสียงเรียกร้องมากมายมหาศาล ทำให้เราตระหนักได้ว่า ไม่ใช่แค่เพียงเราเท่านั้นที่เฝ้ารอคอยการมาถึงของเสียงคำรามอันกึกก้องจากเครื่องยนต์ทรงพลัง ในปีนี้ จึงเป็นเวลาที่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับการนำเสนอผลงานนิทรรศการดิจิทัลของปอร์เช่ ในทุกภูมิภาคทั่วโลก”
เมื่อการประกาศจัดนิทรรศการดิจิทัล Sound Night ครั้งแรก ที่มีชื่อว่า “Next Level” พิพิธภัณฑ์ Porsche Museum ได้รับการสนับสนุนจากเหล่าบรรดานักแข่งชื่อเสียงโด่งดังทั้งในอดีตและปัจจุบัน รวมไปถึง Brand ambassadors ทั้ง 4 คน ไม่ว่าจะเป็น Walter Röhrl, Hans-Joachim Stuck, Timo Bernhard และ Pascal Wehrlein ที่จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของช่วงเวลาที่น่าจดจำในครั้งนี้ ความตื่นเต้นแรกที่จะปรากฏต่อสายตาสาธารณชนได้รับการวางแผนให้ถูกเปิดเผยผ่านช่องทางการติดต่อสื่อสารทางสังคมออนไลน์ของปอร์เช่ โดย “Strietzel” Stuck, Timo Bernhard และ Pascal Wehrlein ร่วมแชร์คลิปภาพยนตร์ที่ทั้ง 3 คนสวมบทบาทเป็นภัณฑารักษ์ของพิพิธภัณฑ์ และในตอนท้าย Walter Röhrl คือบุคคลที่จะทำหน้าที่เปิดเผยปริศนาทั้งหมด Brand ambassadors ทั้ง 4 คน จะยังคงมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ ด้วยบทบาทเดิมต่อไปในงานวันเปิดนิทรรศการ เช่นเดียวกับตัวแทนสมทบจากส่วนงานอื่น พวกเขาจะไม่ได้เป็นแค่ผู้ทำการปลดปล่อยเสียงคำรามจากยนตรกรรมสปอร์ระดับตำนานภายในพิพิธภัณฑ์ Porsche Museum เท่านั้น แต่พวกเขายังทำหน้าที่นำเสนอผลงานดังกล่าวในศูนย์วิจัยและพัฒนา Development Centre ใน Weissach ซึ่งกำลังจะมีงานฉลองครบรอบ 50 ปี ในปีนี้อีกด้วยเช่นกัน