เมื่อปอร์เช่เข้าสู่การแข่งขัน Formula E ในปี 2019 คือการมีส่วนร่วมในซีรีส์การแข่งรถพลังงานไฟฟ้ารายการแรกของโลกนั้น ถูกวางแผนไว้เป็นเวลากว่า 5 ปีจนถึงฤดูกาล 2023/2024 เพื่อนำไปสู่การแข่งขัน London E-Prix (29/30 กรกฎาคมนี้) ผู้ผลิตรถสปอร์ตในสตุ๊ทการ์ทรายนี้ ได้ประกาศขยายความมุ่งมั่นไปอีก 2 ปีจนกระทั่งสิ้นสุดฤดูกาล 2025/2026 ก่อนถึงวันนั้น รถแข่งเจนเนอเรชั่นที่ 3 ล่าสุด (Gen3) เช่น Porsche 99X Electric จะลงสนามในการแข่งขัน ABB FIA Formula E World Championship นอกจากนี้ ปอร์เช่จะมีลงมืออย่างแข็งขันเพื่อร่วมออกแบบรถรุ่นที่ 4 ซึ่งจะแข่งขันในฤดูกาลที่ 13 (2026/2027)
ในปี 2023 TAG Heuer Porsche Formula E Team ลงแข่งขันฤดูกาลที่ 4 ในซีรีย์การแข่งขันของรถที่ใช้พลังงานไฟฟ้าทั้งหมดครั้งแรกของโลกด้วย Porsche 99X Electric ใหม่ ต้องขอบคุณต่อชัยชนะ 4 รายการจนถึงปัจจุบันโดย Pascal Wehrlein (GER/3) และ António Félix da Costa (POR/1) ทำให้ฤดูกาลนี้ประสบความสำเร็จมากที่สุดนับตั้งแต่ผู้ผลิตรถสปอร์ตเข้าสู่การแข่งขันรายการนี้ ในปี 2019 ตอนจบของฤดูกาลในลอนดอน ทีม TAG Heuer Porsche Formula E มีโอกาสอย่างสูงในการคว้าแชมป์โลก ด้วยตำแหน่งรองอันดับหนึ่งในตอนนี้ ฤดูกาลนี้ ปอร์เช่ยังให้การสนับสนุนทีมลูกค้าเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เข้าร่วมการแข่งขัน Formula E จากฝีมือของ Avalanche Andretti และนักขับที่ยอดเยี่ยมอย่าง Jake Dennis ก็ได้คว้าชัยชนะมาแล้ว 2 รายการด้วยรถ Porsche 99X Electric ในฐานะผู้นำที่ชัดเจนในตารางนักแข่ง ชาวอังกฤษผู้นี้เตรียมมุ่งหน้าสู่ตอนจบฤดูกาลในฐานะตัวเก็งที่ร้อนแรงสำหรับตำแหน่งนี้ยิ่งไปกว่านั้น ปอร์เช่คือผู้จัดเตรียม Safety Car ด้วยรถพลังงานไฟฟ้า 100% อย่างไทคานน์ เทอร์โบ เอส (Taycan Turbo S) เน้นย้ำถึงความสำคัญของ Formula E สำหรับมอเตอร์สปอร์ตของปอร์เช่