หลังพวงมาลัยรถแข่งปอร์เช่ 911 RSR หมายเลข 91 นักแข่ง 3 สหาย นำโดย Kévin Estre จากประเทศฝรั่งเศส, Michael Christensen จากประเทศเดนมาร์ก และ Laurens Vanthoor จากประเทศเบลเยี่ยม ได้สร้างสถิติใหม่ในการแข่งขันรุ่น GTE ด้วยระยะทางที่วิ่งได้ถึง 4,769 กิโลเมตร ปิดฉากสงครามความเร็วระยะยาวสุดคลาสสิค ครั้งที่ 90 ด้วยอันดับที่ 4 ส่วนรถแข่งอีกคันของทีมในรุ่น GTE-Am ทีมแข่งอิสระของปอร์เช่ WeatherTech Racing สามารถขึ้นไปยึดพื้นที่บนโพเดี้ยมได้สำเร็จเมื่อสิ้นสุดการแข่งขัน
ท่ามกลางผู้ชมจำนวนมหาศาล การแข่งขันรถยนต์ทางเรียบรายการ Le Mans 24 ชั่วโมง ได้ระเบิดศึกขึ้นในวันเสาร์ที่มีสภาพอากาศที่มีแดด และบรรยากาศของฤดูร้อน ด้วยอุณหภูมิพื้นผิวสนามสูงถึง 40 องศาเซลเซียส รถแข่งปอร์เช่ 911 RSR ออกตัวจากตำแหน่งที่ 3 และ 4 พร้อมทั้งรักษาระยะห่างจากผู้นำเอาไว้ได้ ความดุเดือดเริ่มก่อตัวขึ้นในทันทีที่ดวงอาทิตย์ลับไปจากเส้นขอบฟ้า เมื่ออากาศเย็นลง รถแข่ง 515 แรงม้า (378 กิโลวัตต์) สามารถบริหารจัดการเรื่องยางได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในช่วงเย็นทีมงานในรถหมายเลข 91 ต้องเจอกับความผิดพลาดโดย Makowiecki ต้องขับผ่าน drive-through penalty เนื่องจากขับขี่เกิน track limit ส่งผลให้รถคันที่ชนะสามารถเก็บระยะทางเพิ่มได้โดยไม่ต้องเผชิญหน้า และถือเป็นการได้ประโยชน์จากความโชคร้ายของคู่แข่ง รวมไปถึงองค์ประกอบอื่นๆ ที่เกิดขึ้นบนเส้นทางของชัยชนะในรุ่น สำหรับภารกิจสุดท้ายของทีมโรงงานใน Le Mans ที่พารถแข่ง 911 RSR รับธงตราหมากรุกด้วยการขึ้นนำอันดับ 2 ทำเวลาได้ถึง 42.684 วินาที
ขณะที่รถแข่งหมายเลข 92 ต้องพบกับความยุ่งยากโดยไม่คาดคิดแต่ 3 นักขับจากประเทศฝรั่งเศส เดนมาร์ก และเบลเยี่ยม ผู้ที่เคยเอาชนะในรายการ Le Mans เมื่อปี 2018 คือ Kévin Estre ,Michael Christensen และ Laurens Vanthoor โดยพวกเค้าสามารถขับขี่ได้อย่างแข็งแกร่งตลอดทั้งคืนในฐานะผู้นำ โดยที่ช่วงเช้าตรู่ในวันอาทิตย์ พวกเค้าขึ้นนำด้วยระยะห่างมากกว่า 2 นาที แต่ในช่วงสายๆ ก่อนเวลา 8 นาฬิกา เพียงไม่นาน ยางหน้าขวาของรถแข่ง 911 RSR เกิดรั่ว และสร้างความเสียหายอย่างหนักกับตัวรถด้านหน้า ทำให้ต้องนำรถคลานกลับเข้าพิท และใช้เวลาซ่อมบำรุงไปถึง 10 นาที ส่งผลให้ทีมสูญเสียระยะทางที่ควรจะได้ไปถึง 3 รอบสนาม ส่งผลให้รถแข่งหมายเลข 92 ผ่านเข้าเส้นชัยไปได้ในอันดับ 4
สำหรับในรุ่น GTE-Am รถแข่งปอร์เช่ 911 RSR เป็นตัวเต็งในการคว้าแชมป์ แต่กลับมีเพียงทีมเดียวที่สามารถเอาตัวรอดในการแข่งขันสุดดุเดือดตลอด 24-ชั่วโมง โดยปราศจากข้อผิดพลาด ด้วยรถแข่งหมายเลข 79 ภายใต้สังกัด WeatherTech Racing ขับโดยนักแข่งชาวฝรั่งเศส Julien Andlauer ผนึกกำลังกับนักขับ 2 สหายจากเมืองลุงแซมอย่าง Cooper MacNeil และ Thomas Merrill โดยสามารถผ่าน 343 รอบสนามคว้าอันดับ 2 ไปได้อย่างไร้ข้อกังขา สำหรับรถแข่งหมายเลข 86 จาก ทีม GR Racing จบอันดับที่ 4 ได้ขณะที่เวลายังเหลืออีก 75 นาที ความหวังทั้งหมดของทีม Hardpoint ที่จะจบการแข่งขันบนโพเดี้ยมก็ได้จบลง หลังจาก Andrew Haryanto นักแข่งจากประเทศอินโดนีเซีย เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดบังคับรถหลุดลงไปในบ่อกรวด และเสียระยะทางไปถึง 4 รอบสนาม ส่งผลให้รถแข่งหมายเลข 99 จบการแข่งขันในอันดับที่ 11